โฆษกตร.ยันแต่งตั้งตำรวจมีความเป็นธรรม"โกวิท"ไม่ยึดติดอำนาจ และเสนอยกเลิกคำสั่งพ้นอำนาจประธาน ก.ตร.ด้วยตนเอง แต่ไม่วายมอบหมาย"ชัยยันต์ มะกล่ำทอง"ตำรวจปราบพันธมิตรฯ แก้ไขการแต่งตั้งตำรวจระดับ รองผบก.-สารวัตร ส่วนระดับรอง ผบ.ตร.มอบ"พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ"ดูแลงานฝ่ายป้องกันและปราบปราม รอจ่อ ผบ.ตร.
วานนี้(2 ต.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)และโฆษกตร.แถลงถึงแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบันว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีประดับยศข้าราชการตำรวจในระดับ รองผบ.ตร.–ผบช.จำนวน 16 นาย พร้อมทั้งได้กล่าวภายหลังพิธีว่า ข้าราชการตำรวจทุกนายที่ได้เลื่อนตำแหน่งมีหลักเกณฑ์อยู่ที่ความรู้ความสามารถ พล.ต.อ.โกวิท ทำหน้าที่เพียงกรรมการตัดสินการแต่งตั้ง ทั้งนี้ การเลื่อนตำแหน่งของข้าราชการตำรวจต้องขึ้นอยู่กับผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกน้องเป็นผู้สนับสนุนในการคัดเลือก
"ผบ.ตร.ท่านไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ และยังเหลือเวลาในการทำงานอีกเพียง 1 ปี อีกทั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินทางเข้ารายงานให้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทราบว่าต้องการออกจากอำนาจในการเป็นประธาน ก.ตร.และการมีอำนาจเด็ดขาดในตร. ทางคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.)จึงได้ประกาศในฉบับที่ 28 โดยให้มีการคัดเลือก ก.ตร.ขึ้นมาใหม่ภายใน 60 วัน"
พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ที่พล.ต.อ.โกวิท ทำเช่นนั้น เนื่องจากได้แก้ไขปัญหาสำคัญที่เร่งด่วนเสร็จสิ้นแล้ว จึงต้องการให้ทุกอย่างกับไปอยู่ในสภาวะปกติ อีกทั้งขณะนี้มีนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่ง ทำให้ต้องการนายกรัฐมนตรี กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นประธาน ก.ตร.เช่นเดิม ซึ่งมีเรื่องสำคัญดังนี้ 1. เรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยให้หน่วยงานข้าราชการตำรวจ ปรับเครื่องราชฯ ให้เท่ากับทหารและพลเรือน 2. พ.ร.บ.ตำรวจ จะมีการปรับแก้ไขในกรอบของคปค.ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจอย่างช้า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน โดยมี พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าการแก้ไข 3. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับ รองผบก.-สารวัตร โดยจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย. ส่วนด้านพนักงานสอบสวน สบ.3 ที่จะปรับเลื่อนให้เป็น สบ.4 จำนวน 140 นาย จะมีการพิจารณาให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
โฆษกตร.ยังได้กล่าวถึงการวางแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งในระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช. ว่า พล.ต.อ.โกวิท ได้แบ่งหน้าที่การทำงานไว้ดังนี้
พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ที่ดูแลงานฝ่ายกิจการพิเศษ ยังคงดูแลอยู่ฝ่ายเดิม พล.ต.อ อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รอง ผบ.ตร.ดูแลงานฝ่ายบริหารและทำหน้าที่เป็นโฆษกตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.ที่ดูแลงานฝ่ายบริหาร ย้ายมาดูแลงานฝ่ายป้องกันและปราบปราม
ส่วนงานฝ่ายกฎหมายสอบสวนที่ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ยังว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฝ่ายกมส. รักษาการดูแลงานด้านกมส.ไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีผู้มารับตำแหน่งรอง ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตรอง ผบ.ตร.ที่โอนย้ายงานไปเป็นนักบริหาร 10 ฝ่ายความมั่นคง สำนักนายกรัฐมนตรี สำหรับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตหัวหน้า นรป. อยู่ระหว่างปรับโอนย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษา สบ.10 เทียบเท่ารอง ผบ.ตร.
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(นรต.22)รุ่นเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท และเป็น ก.ตร.ชุดใหม่ ที่พล.ต.อ.โกวิท เป็นประธาน ถือเป็นนายตำรวจที่มีบทบาทหน้าที่ ในการปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน รวมทั้ง ได้รับมอบหมายจากพล.ต.อ.โกวิท ให้เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 5 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้ง แนวร่วมพันธมิตรฯที่ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยพล.ต.ท.ชัยยันต์ มีความเห็นสั่งฟ้องเกี่ยวกับความมั่นคงรวม 5 ข้อหา โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ
วานนี้(2 ต.ค.)ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)และโฆษกตร.แถลงถึงแนวทางการดำเนินงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในปัจจุบันว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผบ.ตร.เป็นประธานในพิธีประดับยศข้าราชการตำรวจในระดับ รองผบ.ตร.–ผบช.จำนวน 16 นาย พร้อมทั้งได้กล่าวภายหลังพิธีว่า ข้าราชการตำรวจทุกนายที่ได้เลื่อนตำแหน่งมีหลักเกณฑ์อยู่ที่ความรู้ความสามารถ พล.ต.อ.โกวิท ทำหน้าที่เพียงกรรมการตัดสินการแต่งตั้ง ทั้งนี้ การเลื่อนตำแหน่งของข้าราชการตำรวจต้องขึ้นอยู่กับผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกน้องเป็นผู้สนับสนุนในการคัดเลือก
"ผบ.ตร.ท่านไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ และยังเหลือเวลาในการทำงานอีกเพียง 1 ปี อีกทั้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พล.ต.อ.โกวิท ได้เดินทางเข้ารายงานให้พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ทราบว่าต้องการออกจากอำนาจในการเป็นประธาน ก.ตร.และการมีอำนาจเด็ดขาดในตร. ทางคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.)จึงได้ประกาศในฉบับที่ 28 โดยให้มีการคัดเลือก ก.ตร.ขึ้นมาใหม่ภายใน 60 วัน"
พล.ต.อ.อชิรวิทย์ กล่าวด้วยว่า ที่พล.ต.อ.โกวิท ทำเช่นนั้น เนื่องจากได้แก้ไขปัญหาสำคัญที่เร่งด่วนเสร็จสิ้นแล้ว จึงต้องการให้ทุกอย่างกับไปอยู่ในสภาวะปกติ อีกทั้งขณะนี้มีนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่ง ทำให้ต้องการนายกรัฐมนตรี กลับมาดำรงตำแหน่งเป็นประธาน ก.ตร.เช่นเดิม ซึ่งมีเรื่องสำคัญดังนี้ 1. เรื่องเครื่องราชอิสริยาภรณ์ โดยให้หน่วยงานข้าราชการตำรวจ ปรับเครื่องราชฯ ให้เท่ากับทหารและพลเรือน 2. พ.ร.บ.ตำรวจ จะมีการปรับแก้ไขในกรอบของคปค.ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการแก้ไข พ.ร.บ.ตำรวจอย่างช้า 3 เดือน แต่ไม่เกิน 6 เดือน โดยมี พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นหัวหน้าการแก้ไข 3. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในระดับ รองผบก.-สารวัตร โดยจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ต.ค.นี้ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พ.ย. ส่วนด้านพนักงานสอบสวน สบ.3 ที่จะปรับเลื่อนให้เป็น สบ.4 จำนวน 140 นาย จะมีการพิจารณาให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
โฆษกตร.ยังได้กล่าวถึงการวางแนวทางการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งในระดับรอง ผบ.ตร.-ผบช. ว่า พล.ต.อ.โกวิท ได้แบ่งหน้าที่การทำงานไว้ดังนี้
พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.ตร.ที่ดูแลงานฝ่ายกิจการพิเศษ ยังคงดูแลอยู่ฝ่ายเดิม พล.ต.อ อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช รอง ผบ.ตร.ดูแลงานฝ่ายบริหารและทำหน้าที่เป็นโฆษกตร. พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร.ที่ดูแลงานฝ่ายบริหาร ย้ายมาดูแลงานฝ่ายป้องกันและปราบปราม
ส่วนงานฝ่ายกฎหมายสอบสวนที่ตำแหน่งรอง ผบ.ตร.ยังว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ชาญวุฒิ วัชรพุกก์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ฝ่ายกมส. รักษาการดูแลงานด้านกมส.ไปก่อน เนื่องจากยังไม่มีผู้มารับตำแหน่งรอง ผบ.ตร.แทน พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตรอง ผบ.ตร.ที่โอนย้ายงานไปเป็นนักบริหาร 10 ฝ่ายความมั่นคง สำนักนายกรัฐมนตรี สำหรับพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี อดีตหัวหน้า นรป. อยู่ระหว่างปรับโอนย้ายมาดำรงตำแหน่งเป็น ที่ปรึกษา สบ.10 เทียบเท่ารอง ผบ.ตร.
อย่างไรก็ตาม สำหรับ พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วย ผบ.ตร.(นรต.22)รุ่นเดียวกัน พล.ต.อ.โกวิท และเป็น ก.ตร.ชุดใหม่ ที่พล.ต.อ.โกวิท เป็นประธาน ถือเป็นนายตำรวจที่มีบทบาทหน้าที่ ในการปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน รวมทั้ง ได้รับมอบหมายจากพล.ต.อ.โกวิท ให้เป็นหัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวนในคดีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสนธิ ลิ้มทองกุล นายพิภพ ธงไชย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข 5 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รวมทั้ง แนวร่วมพันธมิตรฯที่ชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยพล.ต.ท.ชัยยันต์ มีความเห็นสั่งฟ้องเกี่ยวกับความมั่นคงรวม 5 ข้อหา โดยขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ