กกต.ยกเลิกคำสั่งตั้งที่ปรึกษา-อนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนทุกชุดของอดีตกกต. เตรียมตั้งใหม่เอาคนไว้ใจได้ ปธ.กกต.ให้แต่ละกรรมการช่วยเสนอผู้เหมาะสม 10 คน ส่วนการรับรองผลอปท.ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน จะประกาศอีก 160 แห่ง
นายสถาพร สันติบุตร รองเลขาธิการ กกต.ในฐานะรักษาการเลขาธิการกกต.แถลงภายหลังการประชุมกกต.เมื่อวานนี้ ว่า ที่ประชุมกกต.มีมติยกเลิกคำสั่งของกกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ จำนวน 9 ฉบับ โดยมีสาระอยู่ที่การยกเลิกกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกกต. คณะอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนปัญหาและข้อโต้แย้ง และ คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดค้านการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากฎหมายที่ถูกยกเลิกไปประกอบด้วย 1.นายนรนิติ เศรษฐบุตร 2.นายปรีดี เกษมทรัพย์ 3.นายสุรพล นิติไกรพจน์ 4.รังสรรค์ แสงสุข 5.นายกมลชัย รัตนสกาววงศ์ 6.นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ 7.นายเธียรชัย ณ นคร 8.นายยงเกียรติ อดิเศรษฐกุล 9.นายพัฒนะพงษ์ กัลลประวิทย์ และ 10 .นายจรัสพงศ์ คลังกรณ์
ด้านอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ประกอบด้วย คณะที่ 1. พล.ต.ต.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง,พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ , พ.ต.อ.ติณภัทร ภุมรินทร์ ,พ.ต.อ.สุชาติ วิเชียรศรี ,พ.ต.อ.ไพโรจน์ ลิตะโปสะ พ.ต.อ.ประภาส แสงดีจริง
คณะที่ 2. นายบุณยรงค์ นิลวงศ์ ,พล.อ.ยรรยง ว่องวิทย์ ,นายธีระ มณีโรจน์ ,พล.ต.ต.อดิศร จินตนะพัฒน์ ,พล.ต.ต.ทวีพร นามเสถียร, พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ อุเบกขานนท์
คณะที่3. พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป,พล.ต.ต.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ,พล.ต.ต.พงศ์ชัย สุขะหุต ,พล.ท.ชยุติ สุวรรณมาศ ,พล.ต.ต.สมคิด บุญถนอม ,พ.ต.ท.สมบัติ เกษบุญชู
คณะที่ 4. นายกำพล วรพิทยุทธ ,นายกฤช ธีระชัยชยุติ , นายทรง บัณฑิตนันทิ ,พ.ต.ท.เสนาะ เรียนเมฆ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ วงศ์ไพบูลย์ พ.ต.อ ณัฐศักดิ์ นานาวัน
คณะที่ 5. นายสุธน แสงสายัณห์ ,นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง,พล.ต.สุรพันธ์ อินทรบัวศรี ,นายปรัชญา ก้อนจันทร์ , พ.ต.ท.สมชาย เกาสำราญ นายภูมิพิทักษ์ กองแก้ว
ส่วนคณะอนุกรรมการพิจารณาการคัดค้านการเลือกตั้งประกอบด้วย คณะที่ 1. นายไพฑูรย์ เนติโพธิ ,พล.ต.อ.อรรถพล แช่มสุวรรณวงศ์ ,นายสุริยา ทรงวิทย์ ,พล.ท.สมัยรบ สุทธิวาทนฤพุฒิ ,นายอารยะ วิวัฒน์วานิช พ.ต.อ.ทัศนัย จันทร์เกตุ
คณะที่ 2. นายนาม ยิ้มแย้ม ,พล.อ.เธียร ชนไมตรี,นายสุพล ยุติธาดา ,พล.ท.นิพนธ์ ทองกลีบ พล.ต.ท.วิศิษฏ์ สังคหะพงษ์ ,พ.ต.อ.วิทยา เกตุศร
คณะที่ 3.ร.ต.ต.ธนะพงษ์ จักกะพาก,พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ,นายทองสุด กลิ่นประภัศร , พ.ต.ต.นิพจน์ วีระสุนทร ,นายสมัคร เชาวภานันท์ ,น.อ.ณัฐนันท์ ทองนะ
คณะที่ 4.นายเกียรติพันธ์ น้อยมณี ,นายนิเวศน์ สมสกุล ,นายประเสริฐ โลหะวณิชย์ ,นายนิรัช วัจนะภูมิ ,พล.อ.อ.ดำรง บินษรี ,พ.ต.อ.สยุมพร ภัทรฉวี และ
คณะที่ 5. นายเคียง บุญเพิ่ม ,นายสวรรค์ ศักดารักษ์ ,นางดวงกมล นิธิอุทัย ,พล.ท.พลสันณห์ สุทธิรักษ์ ,นายเดชอุมดม ไกรฤทธิ์ ,พ.ต.อ.ชัยทัศน์ รัตนพันธ์
โดยที่ประชุม กกต.ยังได้ให้กรรมการทุกคนไปสรรหาบุคคลที่เห็นควรแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการและที่ปรึกษากฎหมายที่ได้ยกเลิกไปเข้ามาแทน คนละ 10 คน และในขณะนี้ เรื่องร้องเรียนหรือร้องคัดค้านใด ที่ยังค้างอยู่ในชั้นของอนุกรรมการฯ กกต.ก็จะหยิบมาพิจารณาเองโดยไม่ต้องผ่านอนุกรรมการ แต่ทั้งนี้ในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ ก็ยังไม่ได้กำหนดว่าจะใช้เวลานานเท่าใด อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่เคยเป็นที่ปรึกษา และคณะอนุกรรมการต่างๆ บางคนนั้นกกต.อาจจะเชิญกลับมาทำงานใหม่ได้
"เหตุผลที่กกต.ต้องยกเลิกที่ปรึกษาและคณะอนุกรรมการดังกล่าวว่า เพื่อปรับปรุงการทำงานและ กกต.บางคนยังเห็นว่า บางครั้งสำนวนที่มาถึงกกต.ก็มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริง รวมทั้งกกต.ก็อาจต้องการคนที่ไว้วางใจได้มาทำงานให้ เพราะหากได้คนที่ไว้วางใจแล้ว เมื่อเสนอสำนวนมาให้กกต.พิจารณาก็สามารถพิจารณาได้เลย แต่การยกเลิกดังกล่าวไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับปรุงโครงสร้างกกต.ใหม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ตัวช่วยในการทำงานเท่านั้น นอกจากนี้ที่ประชุมกกต.ยังได้ฟังข้อชี้แจงจาก กก.กทม.เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนการร้องเรียนการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ยังค้างอยู่ที่กกต.กทม.29 เขตเลือกตั้งว่า ปัญหาความล่าช้า มาจากคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต.กทม.ทั้งหมดเป็นตำรวจนครบาลที่มีงานประจำทำอยู่ ทำให้ไม่สามารถทุ่มเทกับงานของกกต.ได้เต็มที่ รวมทั้งคณะอนุกรรมการของ กกต.กทม.สอบไม่ครบทุกประเด็น เพราะถนัดคดีอาญามากกว่า ทำให้ต้องกลับไปสอบใหม่ โดยกกต.กลางได้แก้ปัญหาเบื้องต้น โดยส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนส่วนกลางไปช่วยแล้ว 7 คน และ จะส่งไปเพิ่มอีก 20 คน ทั้งนี้ กกต.กทม.รับปากว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน ในการพิจารณาและเสนอสำนวนมาให้กกต.กลางวินิจฉัย
**เตรียมประกาศรับรองผล 160 อปท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมในช่วงเช้า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กล่าวถึงกรณีที่สำนักงาน กกต.ได้ชี้แจงถึงการทำงานในหน้าที่กกต.ว่า ได้รับทราบแล้ว โดยประธานกกต.จะต้องทำหน้าที่นายทะเบียนการเมืองด้วยตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองยังดำเนินการต่อไป และจะต้องมีการพิจารณาการยุบพรรคนั้น นายอภิชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะขณะนี้รับทราบเพียงอำนาจหน้าที่ ส่วนเรื่องต่างๆค่อยดำเนินการต่อไป นอกจากนี้การเรียกเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง จากพรรคที่ถูกพิจารณายุบพรรค ก็ยังไม่มีพรรคใดส่งเงินคืน แต่เราก็ยังขอเรียกคืนมา
ภายหลังกาประชุมช่วงเช้า นายสถาพร สันติบุตร รองเลขาธิการด้านการบริหารกลาง ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.ได้รับทราบรายงานจาก นายประวิง คชาชีวะ รองเลขาธิการฯ ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เกี่ยวกับเรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งท้องถิ่น จำนวน 11 แห่ง ใน 6 จังหวัด ซึ่งไม่มีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อนวันเรื่องตั้ง จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง โดยที่ประชุมกกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต.ได้มีมติเห็นชอบรับรองผลการเลือกตั้ง ขาดแต่เพียงการลงนามในประกาศเท่านั้น
ดังนั้น ที่ประชุม กกต.จึงได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว และมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งประธานกกต.จะลงนามประกาศผลการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ 1. นายก ทต.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น 2. ส.ทต.เชียงยืน จ.มหาสารคาม 3. ส.อบต.ธาตุ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร 4.นายกฯ และส.อบต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ส.อบต.หันตะเภา อ.วังน้อย ส.อบต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 5.ส.อบต.นาใน อ.โพนสวรรค์ ส.อบต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม และ 6.ส.อบต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง ส.อบต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง และ ส.อบต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย กกต.จะพิจารณารับรองการเลือกตั้งท้องถิ่นจำนวน 160 กว่าแห่ง ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา เพื่อประกาศรับรองผลต่อไป
นายสถาพร กล่าวว่า ที่มีความเป็นห่วงเรื่องการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมีขึ้น อาจทำให้ขัดคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษํตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)ที่ออกประกาศห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน และห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมต่างๆนั้น กกต.ได้ร่างคำประกาศแนวทางปฏิบัติตัวในการจัดการเลือกตั้ง เช่น ห้ามพรรคการเมืองเข้ามาช่วยหาเสียงหรือให้การสนับสนุนผู้สมัครอบต. ส่วนท้องถิ่น และส่งให้คปค.พิจารณาแล้วว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งหากคปค.ให้ความเห็นชอบ กกต.จะมีมติและประกาศใช้ต่อไป
นายสถาพร สันติบุตร รองเลขาธิการ กกต.ในฐานะรักษาการเลขาธิการกกต.แถลงภายหลังการประชุมกกต.เมื่อวานนี้ ว่า ที่ประชุมกกต.มีมติยกเลิกคำสั่งของกกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ จำนวน 9 ฉบับ โดยมีสาระอยู่ที่การยกเลิกกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของกกต. คณะอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนปัญหาและข้อโต้แย้ง และ คณะอนุกรรมการพิจารณาคัดค้านการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ที่ปรึกษากฎหมายที่ถูกยกเลิกไปประกอบด้วย 1.นายนรนิติ เศรษฐบุตร 2.นายปรีดี เกษมทรัพย์ 3.นายสุรพล นิติไกรพจน์ 4.รังสรรค์ แสงสุข 5.นายกมลชัย รัตนสกาววงศ์ 6.นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ 7.นายเธียรชัย ณ นคร 8.นายยงเกียรติ อดิเศรษฐกุล 9.นายพัฒนะพงษ์ กัลลประวิทย์ และ 10 .นายจรัสพงศ์ คลังกรณ์
ด้านอนุกรรมการวินิจฉัยเรื่องร้องเรียนและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง ประกอบด้วย คณะที่ 1. พล.ต.ต.ธีระเดช รอดโพธิ์ทอง,พล.ต.ต.สุเทพ รมยานนท์ , พ.ต.อ.ติณภัทร ภุมรินทร์ ,พ.ต.อ.สุชาติ วิเชียรศรี ,พ.ต.อ.ไพโรจน์ ลิตะโปสะ พ.ต.อ.ประภาส แสงดีจริง
คณะที่ 2. นายบุณยรงค์ นิลวงศ์ ,พล.อ.ยรรยง ว่องวิทย์ ,นายธีระ มณีโรจน์ ,พล.ต.ต.อดิศร จินตนะพัฒน์ ,พล.ต.ต.ทวีพร นามเสถียร, พ.ต.อ.ผดุงศักดิ์ อุเบกขานนท์
คณะที่3. พล.ร.ท.พะจุณณ์ ตามประทีป,พล.ต.ต.สุรสีห์ สุนทรศารทูล ,พล.ต.ต.พงศ์ชัย สุขะหุต ,พล.ท.ชยุติ สุวรรณมาศ ,พล.ต.ต.สมคิด บุญถนอม ,พ.ต.ท.สมบัติ เกษบุญชู
คณะที่ 4. นายกำพล วรพิทยุทธ ,นายกฤช ธีระชัยชยุติ , นายทรง บัณฑิตนันทิ ,พ.ต.ท.เสนาะ เรียนเมฆ พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ วงศ์ไพบูลย์ พ.ต.อ ณัฐศักดิ์ นานาวัน
คณะที่ 5. นายสุธน แสงสายัณห์ ,นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง,พล.ต.สุรพันธ์ อินทรบัวศรี ,นายปรัชญา ก้อนจันทร์ , พ.ต.ท.สมชาย เกาสำราญ นายภูมิพิทักษ์ กองแก้ว
ส่วนคณะอนุกรรมการพิจารณาการคัดค้านการเลือกตั้งประกอบด้วย คณะที่ 1. นายไพฑูรย์ เนติโพธิ ,พล.ต.อ.อรรถพล แช่มสุวรรณวงศ์ ,นายสุริยา ทรงวิทย์ ,พล.ท.สมัยรบ สุทธิวาทนฤพุฒิ ,นายอารยะ วิวัฒน์วานิช พ.ต.อ.ทัศนัย จันทร์เกตุ
คณะที่ 2. นายนาม ยิ้มแย้ม ,พล.อ.เธียร ชนไมตรี,นายสุพล ยุติธาดา ,พล.ท.นิพนธ์ ทองกลีบ พล.ต.ท.วิศิษฏ์ สังคหะพงษ์ ,พ.ต.อ.วิทยา เกตุศร
คณะที่ 3.ร.ต.ต.ธนะพงษ์ จักกะพาก,พล.ต.ท.พิชิต ควรเดชะคุปต์ ,นายทองสุด กลิ่นประภัศร , พ.ต.ต.นิพจน์ วีระสุนทร ,นายสมัคร เชาวภานันท์ ,น.อ.ณัฐนันท์ ทองนะ
คณะที่ 4.นายเกียรติพันธ์ น้อยมณี ,นายนิเวศน์ สมสกุล ,นายประเสริฐ โลหะวณิชย์ ,นายนิรัช วัจนะภูมิ ,พล.อ.อ.ดำรง บินษรี ,พ.ต.อ.สยุมพร ภัทรฉวี และ
คณะที่ 5. นายเคียง บุญเพิ่ม ,นายสวรรค์ ศักดารักษ์ ,นางดวงกมล นิธิอุทัย ,พล.ท.พลสันณห์ สุทธิรักษ์ ,นายเดชอุมดม ไกรฤทธิ์ ,พ.ต.อ.ชัยทัศน์ รัตนพันธ์
โดยที่ประชุม กกต.ยังได้ให้กรรมการทุกคนไปสรรหาบุคคลที่เห็นควรแต่งตั้งเป็นคณะอนุกรรมการและที่ปรึกษากฎหมายที่ได้ยกเลิกไปเข้ามาแทน คนละ 10 คน และในขณะนี้ เรื่องร้องเรียนหรือร้องคัดค้านใด ที่ยังค้างอยู่ในชั้นของอนุกรรมการฯ กกต.ก็จะหยิบมาพิจารณาเองโดยไม่ต้องผ่านอนุกรรมการ แต่ทั้งนี้ในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการต่างๆ ก็ยังไม่ได้กำหนดว่าจะใช้เวลานานเท่าใด อย่างไรก็ตาม สำหรับบุคคลที่เคยเป็นที่ปรึกษา และคณะอนุกรรมการต่างๆ บางคนนั้นกกต.อาจจะเชิญกลับมาทำงานใหม่ได้
"เหตุผลที่กกต.ต้องยกเลิกที่ปรึกษาและคณะอนุกรรมการดังกล่าวว่า เพื่อปรับปรุงการทำงานและ กกต.บางคนยังเห็นว่า บางครั้งสำนวนที่มาถึงกกต.ก็มีความขัดแย้งกับข้อเท็จจริง รวมทั้งกกต.ก็อาจต้องการคนที่ไว้วางใจได้มาทำงานให้ เพราะหากได้คนที่ไว้วางใจแล้ว เมื่อเสนอสำนวนมาให้กกต.พิจารณาก็สามารถพิจารณาได้เลย แต่การยกเลิกดังกล่าวไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับปรุงโครงสร้างกกต.ใหม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเพียงแค่ตัวช่วยในการทำงานเท่านั้น นอกจากนี้ที่ประชุมกกต.ยังได้ฟังข้อชี้แจงจาก กก.กทม.เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนการร้องเรียนการเลือกตั้ง ส.ก.ที่ยังค้างอยู่ที่กกต.กทม.29 เขตเลือกตั้งว่า ปัญหาความล่าช้า มาจากคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนของ กกต.กทม.ทั้งหมดเป็นตำรวจนครบาลที่มีงานประจำทำอยู่ ทำให้ไม่สามารถทุ่มเทกับงานของกกต.ได้เต็มที่ รวมทั้งคณะอนุกรรมการของ กกต.กทม.สอบไม่ครบทุกประเด็น เพราะถนัดคดีอาญามากกว่า ทำให้ต้องกลับไปสอบใหม่ โดยกกต.กลางได้แก้ปัญหาเบื้องต้น โดยส่งเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนส่วนกลางไปช่วยแล้ว 7 คน และ จะส่งไปเพิ่มอีก 20 คน ทั้งนี้ กกต.กทม.รับปากว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน ในการพิจารณาและเสนอสำนวนมาให้กกต.กลางวินิจฉัย
**เตรียมประกาศรับรองผล 160 อปท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการประชุมในช่วงเช้า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กล่าวถึงกรณีที่สำนักงาน กกต.ได้ชี้แจงถึงการทำงานในหน้าที่กกต.ว่า ได้รับทราบแล้ว โดยประธานกกต.จะต้องทำหน้าที่นายทะเบียนการเมืองด้วยตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองยังดำเนินการต่อไป และจะต้องมีการพิจารณาการยุบพรรคนั้น นายอภิชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะขณะนี้รับทราบเพียงอำนาจหน้าที่ ส่วนเรื่องต่างๆค่อยดำเนินการต่อไป นอกจากนี้การเรียกเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง จากพรรคที่ถูกพิจารณายุบพรรค ก็ยังไม่มีพรรคใดส่งเงินคืน แต่เราก็ยังขอเรียกคืนมา
ภายหลังกาประชุมช่วงเช้า นายสถาพร สันติบุตร รองเลขาธิการด้านการบริหารกลาง ในฐานะรักษาการเลขาธิการ กกต. แถลงว่า ที่ประชุมกกต.ได้รับทราบรายงานจาก นายประวิง คชาชีวะ รองเลขาธิการฯ ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เกี่ยวกับเรื่องการประกาศผลการเลือกตั้งท้องถิ่น จำนวน 11 แห่ง ใน 6 จังหวัด ซึ่งไม่มีเรื่องร้องเรียนตั้งแต่ก่อนวันเรื่องตั้ง จนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง โดยที่ประชุมกกต.ชุด พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ อดีตประธาน กกต.ได้มีมติเห็นชอบรับรองผลการเลือกตั้ง ขาดแต่เพียงการลงนามในประกาศเท่านั้น
ดังนั้น ที่ประชุม กกต.จึงได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว และมีมติให้ประกาศผลการเลือกตั้ง ซึ่งประธานกกต.จะลงนามประกาศผลการเลือกตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ 1. นายก ทต.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น 2. ส.ทต.เชียงยืน จ.มหาสารคาม 3. ส.อบต.ธาตุ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร 4.นายกฯ และส.อบต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ส.อบต.หันตะเภา อ.วังน้อย ส.อบต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา 5.ส.อบต.นาใน อ.โพนสวรรค์ ส.อบต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม และ 6.ส.อบต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง ส.อบต.แม่ก๊า อ.สันป่าตอง และ ส.อบต.บ่อหลวง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย กกต.จะพิจารณารับรองการเลือกตั้งท้องถิ่นจำนวน 160 กว่าแห่ง ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา เพื่อประกาศรับรองผลต่อไป
นายสถาพร กล่าวว่า ที่มีความเป็นห่วงเรื่องการจัดเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมีขึ้น อาจทำให้ขัดคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษํตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.)ที่ออกประกาศห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน และห้ามพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมต่างๆนั้น กกต.ได้ร่างคำประกาศแนวทางปฏิบัติตัวในการจัดการเลือกตั้ง เช่น ห้ามพรรคการเมืองเข้ามาช่วยหาเสียงหรือให้การสนับสนุนผู้สมัครอบต. ส่วนท้องถิ่น และส่งให้คปค.พิจารณาแล้วว่าจะเห็นชอบหรือไม่ ซึ่งหากคปค.ให้ความเห็นชอบ กกต.จะมีมติและประกาศใช้ต่อไป