นายก ASA ชี้ธุรกิจสื่อนอกบ้านไทยบูม สร้างเกาะเส้นทางสุวรรณภูมิ คาดป้ายโฆษณาผุดขึ้นทุกเส้นทาง ทั้งอาคารภายในและภายนอกสนามบิน เชื่อเม็ดเงินลงทุนโฆษณาสะพัดปีละ 1,000 ล้านบาท ก่อนดันงาน Sign Asia Expo 2006 ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท หวังกระตุ้นไทยเป็นฮับสื่อนอกบ้าน
นายวินัย ศิลปศิริพร นายกสมาคมป้ายแห่งเอเชีย (ASA) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจสื่อนอกบ้านในภูมิภาคเอเชียว่า ธุรกิจสื่อนอกบ้านทั้งหมด รวมถึงป้ายโฆษณาในแถบเอเชีย เติบโตขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งในส่วนของเมืองไทยตั้งแต่ปี 2543 พบว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 15% และปี 2546 เติบโตสูงที่สุดถึง 60% และเมื่อเทียบกับยอดเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในทุกๆสื่อ ซึ่งมีมูลค่าถึงปีละ 8 กว่าหมื่นล้านบาท สื่อนอกบ้านมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ในปี 2548 มูลค่ารวมประมาณ 5,400 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2549 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในส่วนของการย้ายสนามบินสุวรรณภูมิ จะส่งผลให้สื่อโฆษณานอกบ้าน โดยเฉพาะธุรกิจป้ายบิลบอร์ดโดยรวมของประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศนั้น นายวินัย กล่าวว่า เส้นทางของธุรกิจสื่อนอกบ้าน จะเกาะติดกระแสทุกเส้นทางที่ไปยังสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีการย้ายกลุ่มคนจากดอนเมืองไปยังสุวรรณภูมิ โดยที่จะมีผู้ใช้บริการในสนามบินใหม่นี้ปีละไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน จะทำให้ตลาดธุรกิจสื่อนอกบ้านโตขึ้นด้วย โดยคาดว่าจะเกิดการลงทุนเพื่อการโฆษณาทุกเส้นทาง และทั้งภายในและภายนอกอาคารปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และเติบโตไม่น้อยกว่า 10%
ด้วยทฤษฎีเดิม ที่ใดมีคนที่นั้นมีโฆษณา ไม่น่าแปลกใจว่าจะมีเม็ดเงินเป็นพันล้านบาท เข้ามาลงทุนด้วยการใช้สื่อนอกบ้านในสนามบินสุวรรณภูมิ และบริเวณรอบๆ เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บนทางด่วน ป้ายไตรวิชั่น ไลท์บ็อกซ์ ทั้งภายในและภายนอก เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายที่มหาศาล ทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์อยู่เฉยๆไม่ได้ เพราะสื่อนอกบ้านที่ติดตั้งในสนามบินนั้น จะทำหน้าที่สร้างยอดขาย สร้างแบรนด์ ตอกย้ำความทรงจำ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในอนาคตต่อไปได้
สำหรับกรณีเตรียมผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของธุรกิจสื่อนอกบ้านภูมิภาคเอเชียนั้น นายกสมาคมป้ายแห่งเอเชีย กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 28 กย. – 1 ตค. 2549 จะมีการจัดงาน Sign Asia Expo 2006 Thailand หรืองานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเพื่อป้ายและโฆษณา โดยปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด” ประตูสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมและโฆษณาแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค” และเป็นครั้งแรกที่ได้รับความร่วมมือในการจัดงานระหว่าง 4 สมาคม คือ สมาคมป้ายเอเชีย (ASA) สมาคมผู้ผลิตป้ายและโฆษณา (ASPA) ชมรมไทยอิงค์เจท (TIC) และสมาคมการพิมพ์สกรีนไทย (TAGA)
โดยเป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อบันทึกให้เป็นหนึ่งในปฏิทินการจัดงาน Sign ของโลก และเป็นก้าวแรกในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสื่อนอกบ้านในภูมิภาคเอเชีย เป็นเวทีแห่งใหม่ให้ประเทศทั้งในยุโรป เอเชีย อเมริกา เข้ามาขยายตลาดในไทย หรือให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อธุรกิจกับคู่ค้าอื่นๆ ซึ่งงานนี้เชิญนักธุรกิจจากประเทศต่างๆร่วมงาน โดยใช้งบประมาณจัดงาน 10 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี
รูปแบบการจัดงานแบ่งออกเป็น 5 โซน คือ 1.พื้นที่แสดงสินค้าจากผู้ผลิตวัตถุดิบต่างๆทั้งในและต่างประเทศ 2.พื้นที่แสดงนวัตกรรมสื่อโฆษณากลางแจ้งและผู้ลิตป้ายโฆษณา 3.พื้นที่แสดงสื่อโฆษณา ณ จุดขาย 4.พื้นที่แสดงการให้บริการการพิมพ์แบบครบวงจร 5.พื้นที่แสดงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการพิมพ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรมและการสัมมนาเชิงธุรกิจ และวิชาการอีกด้วยที่เกี่ยวข้องกับวงการอุตสาหกรรมป้ายและโฆษณา
นายวินัย ศิลปศิริพร นายกสมาคมป้ายแห่งเอเชีย (ASA) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจสื่อนอกบ้านในภูมิภาคเอเชียว่า ธุรกิจสื่อนอกบ้านทั้งหมด รวมถึงป้ายโฆษณาในแถบเอเชีย เติบโตขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งในส่วนของเมืองไทยตั้งแต่ปี 2543 พบว่ามีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 15% และปี 2546 เติบโตสูงที่สุดถึง 60% และเมื่อเทียบกับยอดเม็ดเงินโฆษณาโดยรวมในทุกๆสื่อ ซึ่งมีมูลค่าถึงปีละ 8 กว่าหมื่นล้านบาท สื่อนอกบ้านมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ในปี 2548 มูลค่ารวมประมาณ 5,400 ล้านบาท และคาดว่าภายในปี 2549 จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ในส่วนของการย้ายสนามบินสุวรรณภูมิ จะส่งผลให้สื่อโฆษณานอกบ้าน โดยเฉพาะธุรกิจป้ายบิลบอร์ดโดยรวมของประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศนั้น นายวินัย กล่าวว่า เส้นทางของธุรกิจสื่อนอกบ้าน จะเกาะติดกระแสทุกเส้นทางที่ไปยังสุวรรณภูมิ เนื่องจากมีการย้ายกลุ่มคนจากดอนเมืองไปยังสุวรรณภูมิ โดยที่จะมีผู้ใช้บริการในสนามบินใหม่นี้ปีละไม่น้อยกว่า 45 ล้านคน จะทำให้ตลาดธุรกิจสื่อนอกบ้านโตขึ้นด้วย โดยคาดว่าจะเกิดการลงทุนเพื่อการโฆษณาทุกเส้นทาง และทั้งภายในและภายนอกอาคารปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และเติบโตไม่น้อยกว่า 10%
ด้วยทฤษฎีเดิม ที่ใดมีคนที่นั้นมีโฆษณา ไม่น่าแปลกใจว่าจะมีเม็ดเงินเป็นพันล้านบาท เข้ามาลงทุนด้วยการใช้สื่อนอกบ้านในสนามบินสุวรรณภูมิ และบริเวณรอบๆ เส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่บนทางด่วน ป้ายไตรวิชั่น ไลท์บ็อกซ์ ทั้งภายในและภายนอก เป็นต้น กลุ่มเป้าหมายที่มหาศาล ทำให้เจ้าของผลิตภัณฑ์อยู่เฉยๆไม่ได้ เพราะสื่อนอกบ้านที่ติดตั้งในสนามบินนั้น จะทำหน้าที่สร้างยอดขาย สร้างแบรนด์ ตอกย้ำความทรงจำ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าในอนาคตต่อไปได้
สำหรับกรณีเตรียมผลักดันให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางของธุรกิจสื่อนอกบ้านภูมิภาคเอเชียนั้น นายกสมาคมป้ายแห่งเอเชีย กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 28 กย. – 1 ตค. 2549 จะมีการจัดงาน Sign Asia Expo 2006 Thailand หรืองานแสดงนิทรรศการนานาชาติด้านเทคโนโลยีและธุรกิจเพื่อป้ายและโฆษณา โดยปีนี้จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด” ประตูสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมและโฆษณาแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค” และเป็นครั้งแรกที่ได้รับความร่วมมือในการจัดงานระหว่าง 4 สมาคม คือ สมาคมป้ายเอเชีย (ASA) สมาคมผู้ผลิตป้ายและโฆษณา (ASPA) ชมรมไทยอิงค์เจท (TIC) และสมาคมการพิมพ์สกรีนไทย (TAGA)
โดยเป้าหมายของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อบันทึกให้เป็นหนึ่งในปฏิทินการจัดงาน Sign ของโลก และเป็นก้าวแรกในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางของธุรกิจสื่อนอกบ้านในภูมิภาคเอเชีย เป็นเวทีแห่งใหม่ให้ประเทศทั้งในยุโรป เอเชีย อเมริกา เข้ามาขยายตลาดในไทย หรือให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่อธุรกิจกับคู่ค้าอื่นๆ ซึ่งงานนี้เชิญนักธุรกิจจากประเทศต่างๆร่วมงาน โดยใช้งบประมาณจัดงาน 10 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี
รูปแบบการจัดงานแบ่งออกเป็น 5 โซน คือ 1.พื้นที่แสดงสินค้าจากผู้ผลิตวัตถุดิบต่างๆทั้งในและต่างประเทศ 2.พื้นที่แสดงนวัตกรรมสื่อโฆษณากลางแจ้งและผู้ลิตป้ายโฆษณา 3.พื้นที่แสดงสื่อโฆษณา ณ จุดขาย 4.พื้นที่แสดงการให้บริการการพิมพ์แบบครบวงจร 5.พื้นที่แสดงเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของการพิมพ์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค นอกจากนี้ในงานยังมีกิจกรรมและการสัมมนาเชิงธุรกิจ และวิชาการอีกด้วยที่เกี่ยวข้องกับวงการอุตสาหกรรมป้ายและโฆษณา