xs
xsm
sm
md
lg

ท้า"ทักษิณ"พูดความจริง IBC ในศาล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลพิพากษายกฟ้อง คดีฝรั่งอเมริกันฟ้องทักษิณ เบิกความเท็จ ฟ้องเท็จ เหตุหมดอายุความ ด้านโจทก์ลั่นยังไม่ยอมแพ้ เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อ หลังเชื่อมั่นในความเป็นจริง และพยานหลักฐานที่มีอยู่ พร้อมท้าทักษิณ พิสูจน์ความจริงในศาล อย่าอ้างแต่คดีหมดอายุความ

วานนี้(18 ก.ย.)ที่ห้องพิจารณาคดี 38 ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลนัดพิจารณาคำร้องโจทก์ที่ขอให้ศาลเร่งรัดการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ ในคดีที่ นายวิลเลี่ยม ไลล์ มอนซัน อายุ 63 ปี สัญชาติสหรัฐอเมริกา ผู้บริหารบริษัท ซีทีวีซี ออฟฮาวาย จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจเคเบิ้ลทีวีประเทศสหรัฐฯ เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่ 1 ในฐานะอดีตประธานบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคลาสติ้ง คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบกิจการไอบีซี เคเบิลทีวี (ก่อนจะควบรวมกับยูทีวีในเครือเจริญโภคภัณฑ์ กลายเป็นยูบีซีในปัจจุบัน) ,คุณหญิงพจมาน ชินวัตร,บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล บรอดคลาสติ้ง คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน),นางดวงฤทัย เศรษฐบุตร และนายประทีป อาจิณพัฒน์ เสียชีวิตจำหน่ายคดี เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันแจ้งความเท็จ เบิกความเท็จ และฟ้องเท็จ กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กับพวก แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่ายักยอกทรัพย์ และต่อมาพนักงานอัยการศาลแขวงพระนครใต้ ยื่นฟ้อง นายวิลเลี่ยม เป็นจำเลยในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ต่อศาลแขวงพระนครใต้ เมื่อปี 2532 และ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพยานขึ้นเบิกความเท็จต่อศาล ซึ่งภายหลังศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา พิพากษายกฟ้องนายวิลเลี่ยม ในคดีดังกล่าวเมื่อวันที่ 24 ม.ค.37 เห็นว่า นายมอนวิลเลี่ยม ไม่มีเจตนายักยอก แต่เป็นการพิพาทกันในเรื่องสัญญาซื้อขาย ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่ง ดังนั้นเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.38 นายวิลเลี่ยม ได้ฟ้องกลับจำเลยทั้ง 5 ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ดังกล่าว

เมื่อถึงเวลานัด นายประเมศ สูตะบุตร ทนายความโจทก์ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อขอแก้ไขคำฟ้อง ศาลสอบถามทนายจำเลยแล้ว ทนายจำเลยแถลงว่า เนื่องจากการแก้ไขฟ้องของโจทก์ มีรายละเอียดมาก จึงขอเวลาในการพิจารณาว่า จะคัดค้านหรือไม่ ศาลจึงมีคำสั่งให้เลื่อนการไต่สวนมูลฟ้องออกไป เพื่อรอให้ทนายจำเลย พิจารณาคำแก้ฟ้องของโจทก์ และนัดฟังคำสั่ง กรณีที่ทนายจำเลย ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นว่า คดีขาดอายุความหรือไม่

ต่อมาเวลา 13.30น.ทนายจำเลยทั้ง 4ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอคัดค้าน คำแก้ฟ้องของโจทก์ โดยศาลวินิจฉัยคำคัดค้านของจำเลยแล้ว มีคำสั่งอนุญาตและไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขฟ้องได้ในบางประเด็นคือ 1.ที่โจทก์ขอแก้ไขฟ้องในส่วนของจำเลยที่ 5 ศาลเห็นว่า เนื่องจากจำเลยที่ 5 เสียชีวิตแล้ว และศาลได้จำหน่ายคดีของจำเลยที่ 5 แล้ว จึงไม่อนุญาตให้โจทก์แก้ไขฟ้องในส่วนนี้

2.ส่วนที่โจทก์ขอแก้ไขฟ้องตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 210 ให้เพิ่มบทลงโทษจำเลย ในข้อหาซ่องโจรด้วย โดยอ้างสาเหตุว่า คำฟ้องเดิม ยังไม่สมบูรณ์ ศาลเห็นว่า ที่คำฟ้องเดิมของโจทก์ไม่สมบูรณ์ เพราะคดีขาดองค์ประกอบความผิดอยู่แล้ว การแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้องในส่วนนี้ จะทำให้ไม่เป็นธรรมกับจำเลย จึงไม่อนุญาต

3.ที่โจทก์ขอให้แก้ไข ในส่วนของรายละเอียด ซึ่งเป็นพฤติการณ์ของจำเลย วัน เวลา และสถานที่ ให้ชัดเจนขึ้น ศาลเห็นว่า เป็นการเหมาะสมแล้ว และสามารถทำได้ จึงอนุญาตให้แก้ฟ้องได้

ส่วนที่จำเลยที่ 1 มอบให้ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้น เรื่องคดีขาดอายุความหรือไม่ ศาลเห็นว่า คดีนี้ เกี่ยวเนื่องกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน และอยู่ในเขตอำนาจของศาล จึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวนมูลฟ้อง และให้โจทก์และจำเลยฟังคำพิพากษา

หลังศาลพิเคราะห์แล้ว คดีมีข้อวินิจฉัยว่า คดีขาดอายุความหรือไม่ ตามประมวลกฏหมายอาญา มาตรา 95 ที่ระบุว่า การที่อัยการ หรือประชาชน เป็นโจทก์ฟ้องคดี การจะยื่นฟ้องต้องได้ตัวจำเลยมาแสดงต่อศาล การนับอายุความจึงจะยุติลง แต่คดีนี้ แม้ว่าโจทก์จะยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.38 และโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลเร่งดำเนินการไต่สวนมูลฟ้องเมื่อวันที่ 2 พ.ค.49 แต่พฤติการณ์แห่งคดีที่โจทก์ฟ้อง มีอายุความ 10 ปี นับแต่วันที่จำเลยกระทำผิดตามฟ้อง คือวันที่ 24 เม.ย.32,3 ส.ค.32, 8 และ 14 ก.ย.32 , 7 และ 30 ก.ค. 32 และ 19 พ.ย.32 เมื่อปรากฏว่าโจทก์ ฟ้องและไม่สามารถนำจำเลยมาแสดงต่อศาลได้ในวันที่ 24 เม.ย.42,3 ส.ค.42, 8 และ 14 ก.ย.42,7 และ 30 ก.ค.42 และ 19 พ.ย.42 จึงไม่อาจทำให้ การนับอายุความสะดุด หรือสิ้นสุดลงตามกฏหมาย และตามแนวทางนัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1780/2541 และ 1735/2534 เมื่อคดีขาดอายุความ สิทธิที่โจทก์ จะนำคดีมายื่นฟ้องต่อศาล จึงสิ้นสุดลง พิพากษาให้ยกฟ้อง

หลังคำพิพากษา นายวิเลี่ยม กล่าวว่า ตนยังไม่ยอมแพ้ในคดีนี้ และจะยื่นอุทธรณ์ต่อสู้คดีต่อไป เพราะยังมั่นใจในความจริงและพยานหลักฐานที่มีอยู่

ด้านนายประเมศ ทนายความนายวิลเลี่ยม กล่าวว่า การใช้สิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลยุติคดีชั่วคราว และการยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาข้อกฏหมาย เรื่องการนับอายุความของฝ่ายจำเลยนั้น น่าจะมีการพิจารณาให้ละเอียดรอบคอบกว่านี้ เพราะส่งผลกระทบต่อสิทธิในการฟ้องคดีของโจทก์ ซึ่งโจทก์จะนำประเด็นนี้ ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลต่อไป นอกจากนี้ ยังจะยื่นอุทธรณ์ในประเด็น เรื่องอำนาจของศาล ในการอ่านคำพิพากษา ที่จะต้องกระทำต่อหน้าจำเลย เหมือนเช่นคดีของ นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ซึ่งศาลต้องออกหมายเรียกจำเลยมาฟังคำพิพากษาถึง 2 ครั้ง

"ถ้าคุณทักษิณ แน่จริง เอาความจริงมาพูดกันในศาลดีกว่า เพราะคนที่อ้างแต่เรื่องอายุความ ก็เหมือนกับยอมรับว่า ได้กระทำผิดจริงไปแล้ว"นายประเมศ กล่าว

นายประเมศกล่าวอีกว่าสำหรับคดีที่นายวิลเลี่ยม ยื่นฟ้องพ.ต.ท.ทักษิณ ในข้อหาเบิกความเท็จในศาลเแพ่งไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ศาลได้มีคำสั่งให้นัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 13 พ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่า ฝ่ายจำเลย น่าจะยังใช้แนวทางเดิมในการต่อสู้คดี คือยื่นคำร้องคัดค้านขอให้ศาลพิจารณาข้อกฏหมายเรื่องอายุความ อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีใหม่นี้ ตนได้ตรวจสอบแล้ว คดีจะหมดอายุความ ในเดือน ม.ค.50 ซึ่งนับจากกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เบิกความไว้ที่ศาลแพ่งเมื่อวันที่ 13 ม.ค.40
กำลังโหลดความคิดเห็น