อุบลราชธานี-อบจ.อุบลฯ นำคณะ ส.อบจ. ประชุมความร่วมมือด้านการค้า - การลงทุน กับประเทศเพื่อนบ้าน ระบุแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในอินโดจีน ยังมีโอกาสรุ่ง เฉพาะมูลค่าการค้าขายที่ด่าหนังได้ทำธุรกิจร่วมกับไทย มีมูลค่าร่วม 5 แสนเหรียญสหรัฐ/ปี จากการลงทุนทั้งหมด 4 ด้าน อาทิ การค้า เสื้อผ้าสำเร็จรูป ด้านเคมี และด้านการท่องเที่ยว
นายพรชัย โควสุรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ช่วงปลายเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา อบจ.อุบลฯ พร้อมด้วยสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลฯ (ส.อบจ.)เกือบทุกพื้นที่ ได้เดินทางไปประชุมความร่วมมือ ด้านการค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) และ เวียดนาม
คณะที่เดินทางไปในครั้งนี้ ประกอบด้วย ส.อบจ. และหัวหน้ากองงานในอบจ.อุบลฯ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ได้เดินทางเข้าพบปะและหารือ เพื่อแลกเปลี่ยนด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว กับตัวแทนของเมืองดานัง ได้แก่ผู้ว่าฯการท่องเที่ยวเมืองด่าหนัง ประเทศเวียดนาม พร้อมคณะ
การพบปะหารือ ผู้ว่าฯการท่องเที่ยวเมืองด่าหนัง ได้ระบุถึงความพร้อม ของการเป็นฐานการค้าที่สำคัญเพื่อให้นักลงทุนชาวต่างประเทศเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนจากประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเข้ามาลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกันทำให้ทราบว่า ปัจจุบันเมืองด่าหนัง มีบริษัทที่เข้าทำการค้ามากถึง 42 วงการค้า และในจำนวนนี้ มีบริษัทที่ทำการค้าร่วมกับต่างประเทศมากถึง 2 พันแห่ง โดยทำการค้าร่วมกับ 85 ประเทศ
ขณะที่มูลค่าการค้าขายที่ด่าหนัง ที่ทำธุรกิจร่วมกับไทยมีมูลค่า ประมาณ 5 แสนเหรียญสหรัฐ/ปี จากการลงทุนทั้งหมด 4 ด้าน อาทิ การค้า เสื้อผ้าสำเร็จรูป ด้านเคมี และด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นว่าในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา การลงทุนด้านการค้าระหว่างไทยกับด่าหนัง มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี
จากข้อมูลดังกล่าว ตนเห็นว่าในปีต่อไป อบจ.อุบลฯ จะเป็นเจ้าภาพ ในการนำคณะนักธุรกิจและนักลงทุนชาว จ.อุบลฯ เพื่อเข้าไปติดต่อค้าขาย และโรดโชว์ ด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวของไทยอีกครั้ง
นายพรชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับขากลับจากประเทศเวียดนาม คณะฯ ยังได้เข้าพบปะหารือ และเชื่อมความสัมพันธ์ ตลอดจนการแลกเปลี่ยนด้านการค้า การลงทุน กับคณะของแขวงจำปาสัก สปป.ลาว ซึ่งตัวแทนฝ่ายแขวงจำปาสัก ประกอบด้วย หัวหน้าห้องพัวพันต่างประเทศ รองปลัดจังหวัด แขวงจำปาสัก หัวหน้าแผนกการค้า และหัวหน้าห้องการท่องเที่ยว แขวงจำปาสัก
ทางด้านการติดต่อค้าขาย และการลงทุนระหว่างลาวไทย ทั้งคณะไทยและลาว ได้ระบุถึงความสัมพันธ์อันดีในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน การพึ่งพากัน และการกำลังพัฒนาของ สปป.ลาว โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ลาวกำลังผลักดันให้นักท่องเที่ยว สามารถใช้บอร์เดอร์พาสหรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวเดินทางไปยังแขวงต่างๆ ของลาวได้ทั่วประเทศ เพื่อความสะดวกในกรณีที่ไม่มีหนังสือเดินทาง
ส่วนการเสนอแนะในการหารือครั้งนี้ คณะฯได้แนะนำด้านการตรวจเอกสารในบริเวณด่านชายแดน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความยุ่งยากและใช้เวลานาน อันเป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ตลอดจนระหว่างการเดินทางมักจะมีสัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน เช่น วัว นอนอยู่ตามข้างทาง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้รับความสะดวก และอาจนำมาซึ่งอุบัติเหตุ ซึ่งฝ่ายลาวยินดีรับฟังความคิดเห็น และพร้อมนำไปปรับปรุง
นายพรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการเดินทางไปประชุมด้านการค้าในครั้งนี้ ได้เห็นถึงลักษณะการเมือง การปกครอง และวัฒนธรรมของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลต่อการดำรงชีวิตของประชาชนในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถเปรียบเทียบถึงผลดี ผลเสีย ของการดำเนินนโยบายทางการเมือง อันจะนำไปประยุกต์ใช้เพื่อการอยู่ดีกินดีของประชาชน ตลอดจนการเอื้ออำนวยต่อระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีรายได้ และพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ที่สำคัญจากการหารือของ 2 ประเทศ ที่เดินทางไปในครั้งนี้ พบว่า แนวโน้มการค้า การลงทุนระหว่างไทย-กับประเทศในอินโดจีนยังคงมีแนวโน้มจะรุดหน้าต่อไป โดยเฉพาะการลงทุน ที่โอกาสนักลงทุนของไทยจะเข้าไปทำธุรกิจในประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ น่าจะมีมากขึ้นในอนาคต