แม่ฮ่องสอน - ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนให้เวลา 3 เดือนย้ายหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว บ้านในสอย และบ้านห้วยเสือเฒ่า มารวมอยู่ที่บ้านห้วยปูแกง ขู่หากยังดื้อดึง และเดินทางไปนิวซีแลนด์ตามคำชวนของเอ็นจีโอ จะไล่เข้าไปอยู่ในศูนย์อพยพทั้งหมด หรือส่งกลับพม่าแน่
นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดได้สั่งการไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงจังหวัดแม่ฮ่องสอนและฝ่ายปกครองให้ย้ายหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว บ้านในสอย ต.ปางหมู และหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวบ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง ให้มาอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน หรือบ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง ที่ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กะเหรี่ยงคอยาวเป็นผู้หนีภัยจากการสู้รบที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนประมาณ พ.ศ.2529 ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ตำหนิ จ.แม่ฮ่องสอนว่า เอากะเหรี่ยงคอยาวกักขังเหมือนสวนสัตว์ และที่ผ่านมาต่างประเทศ ก็ได้เข้ามาคัดเลือกผู้อพยพที่มีมันสมองไปอยู่ในประเทศที่สาม ขณะที่ปัจจุบัน จ.แม่ฮ่องสอน จะต้องรับภาระผู้หนีภัยจากการสู้รบประมาณ 50,000 กว่าคน อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ขุนยวม และ อ.สบเมย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กลุ่มองค์กรเอกชนจากประเทศนิวซีแลนด์เดินทางเข้ามาสัมภาษณ์กะเหรี่ยงคอยาวเพื่อที่จะคัดเลือกกะเหรี่ยงคอยาว เข้าไปอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์โดยอ้างว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้กะเหรี่ยงคอยาวอยู่เหมือนสวนสัตว์ โดยประเทศนิวซีแลนด์จะสร้างหมู่บ้านถาวรให้อยู่ ซึ่งหากปล่อยให้กะเหรี่ยงคอยาวไปอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ จ.แม่ฮ่องสอน ก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยว
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางเข้ามาเที่ยวชมกะเหรี่ยงคอยาวที่ จ.แม่ฮ่องสอนตลอดเวลา ดังนั้น จังหวัดจึงได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้ยับยั้งการอนุญาตให้กะเหรี่ยงคอยาวเดินทางไปยังนิวซีแลนด์ พร้อมกับตัดสินใจตั้งหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวขึ้นโดยใช้ชื่อว่า "หมู่บ้านอนุรักษ์วิถีชีวิตกะเหรี่ยงคอยาว" ที่บริเวณบ้านน้ำเพียงดิน หรือบ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยนำกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่บ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง และหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวบ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองฯ มารวมอยู่ที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง )ประมาณ 70 ครอบครัว บนเนื้อที่ดินกว่า 103 ไร่
ล่าสุดกำลังให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าไปดำเนินการวางผังหมู่บ้านให้ถูกลักษณะโดยให้กำหนดระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2549
นายดิเรก กล่าวว่า ภายในหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว จะมีการแสดงวิถีชีวิตกะเหรี่ยงคอยาว ให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดเวลา โดยจะจัดเก็บค่าเข้าชมจากนักท่องเที่ยวไทย 20 บาท/ต่างชาติ 250 บาท ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็เสียเงินเข้าชมกะเหรี่ยงคอยาวให้กับกลุ่มผู้ดูแลอยู่แล้ว
นายดิเรก กล่าวอีกว่า ขณะนี้กะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จะมีทางเลือกอยู่ 3 ทางเลือก คือ 1.ย้ายเข้าไปอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง) ที่จังหวัดจัดให้อยู่ 2 .หากกะเหรี่ยงคอยาวไปเลือกข้อ 1 ก็จะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านปางแทรกเตอร์ และ3.เดินทางไปอยู่ประเทศที่สาม ซึ่งจะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบเกิน 10 ปี จึงจะมีสิทธิ์เดินทางไปยังประเทศที่ 3 หรือถ้าไม่อยู่ในศูนย์ที่พักพิง ฯ จังหวัดก็จะผลักดันกลับไปอยู่ที่ประเทศพม่าดังเดิม
ด้านนายวิสูตร บัวชุม หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากจังหวัดสามารถให้กะเหรี่ยงคอยาว มาอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง) จะเป็นเรื่องที่ดีต่อการท่องเที่ยว บ้านน้ำเพียง (หรือบ้านห้วยปูแกง) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางบกและทางน้ำ และจังหวัดจะสามารถควบคุมกะเหรี่ยงคอยาวให้อยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยได้เป็นอย่างดี
นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จังหวัดได้สั่งการไปยังหน่วยงานด้านความมั่นคงจังหวัดแม่ฮ่องสอนและฝ่ายปกครองให้ย้ายหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว บ้านในสอย ต.ปางหมู และหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวบ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง ให้มาอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน หรือบ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง ที่ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวอยู่แล้ว
ทั้งนี้ กะเหรี่ยงคอยาวเป็นผู้หนีภัยจากการสู้รบที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนประมาณ พ.ศ.2529 ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ตำหนิ จ.แม่ฮ่องสอนว่า เอากะเหรี่ยงคอยาวกักขังเหมือนสวนสัตว์ และที่ผ่านมาต่างประเทศ ก็ได้เข้ามาคัดเลือกผู้อพยพที่มีมันสมองไปอยู่ในประเทศที่สาม ขณะที่ปัจจุบัน จ.แม่ฮ่องสอน จะต้องรับภาระผู้หนีภัยจากการสู้รบประมาณ 50,000 กว่าคน อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ขุนยวม และ อ.สบเมย
ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้กลุ่มองค์กรเอกชนจากประเทศนิวซีแลนด์เดินทางเข้ามาสัมภาษณ์กะเหรี่ยงคอยาวเพื่อที่จะคัดเลือกกะเหรี่ยงคอยาว เข้าไปอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์โดยอ้างว่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนให้กะเหรี่ยงคอยาวอยู่เหมือนสวนสัตว์ โดยประเทศนิวซีแลนด์จะสร้างหมู่บ้านถาวรให้อยู่ ซึ่งหากปล่อยให้กะเหรี่ยงคอยาวไปอยู่ที่ประเทศนิวซีแลนด์ จ.แม่ฮ่องสอน ก็จะไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยว
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางเข้ามาเที่ยวชมกะเหรี่ยงคอยาวที่ จ.แม่ฮ่องสอนตลอดเวลา ดังนั้น จังหวัดจึงได้ทำหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทย ให้ยับยั้งการอนุญาตให้กะเหรี่ยงคอยาวเดินทางไปยังนิวซีแลนด์ พร้อมกับตัดสินใจตั้งหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวขึ้นโดยใช้ชื่อว่า "หมู่บ้านอนุรักษ์วิถีชีวิตกะเหรี่ยงคอยาว" ที่บริเวณบ้านน้ำเพียงดิน หรือบ้านห้วยปูแกง ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยนำกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่บ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง และหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวบ้านในสอย ต.ปางหมู อ.เมืองฯ มารวมอยู่ที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง )ประมาณ 70 ครอบครัว บนเนื้อที่ดินกว่า 103 ไร่
ล่าสุดกำลังให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าไปดำเนินการวางผังหมู่บ้านให้ถูกลักษณะโดยให้กำหนดระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม - กันยายน 2549
นายดิเรก กล่าวว่า ภายในหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว จะมีการแสดงวิถีชีวิตกะเหรี่ยงคอยาว ให้นักท่องเที่ยวได้ชมตลอดเวลา โดยจะจัดเก็บค่าเข้าชมจากนักท่องเที่ยวไทย 20 บาท/ต่างชาติ 250 บาท ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก็เสียเงินเข้าชมกะเหรี่ยงคอยาวให้กับกลุ่มผู้ดูแลอยู่แล้ว
นายดิเรก กล่าวอีกว่า ขณะนี้กะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จะมีทางเลือกอยู่ 3 ทางเลือก คือ 1.ย้ายเข้าไปอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง) ที่จังหวัดจัดให้อยู่ 2 .หากกะเหรี่ยงคอยาวไปเลือกข้อ 1 ก็จะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบบ้านปางแทรกเตอร์ และ3.เดินทางไปอยู่ประเทศที่สาม ซึ่งจะต้องเข้าไปอยู่ในศูนย์ที่พักพิงผู้หนีภัยจากการสู้รบเกิน 10 ปี จึงจะมีสิทธิ์เดินทางไปยังประเทศที่ 3 หรือถ้าไม่อยู่ในศูนย์ที่พักพิง ฯ จังหวัดก็จะผลักดันกลับไปอยู่ที่ประเทศพม่าดังเดิม
ด้านนายวิสูตร บัวชุม หัวหน้าศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า หากจังหวัดสามารถให้กะเหรี่ยงคอยาว มาอยู่รวมกันที่บ้านน้ำเพียงดิน (บ้านห้วยปูแกง) จะเป็นเรื่องที่ดีต่อการท่องเที่ยว บ้านน้ำเพียง (หรือบ้านห้วยปูแกง) นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางบกและทางน้ำ และจังหวัดจะสามารถควบคุมกะเหรี่ยงคอยาวให้อยู่อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยได้เป็นอย่างดี