ภาคตะวันออกอ่วม เจอฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลันทั้ง ชลบุรี ระยอง ประจวบฯ มหาดไทย สั่งเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นเตรียมอพยพประชาชน กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือน ให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสียงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาและใกล้ทางน้ำไหลผ่าน อพยพด่วน
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าจากการ ที่กรมอุตุนิยนวิทยา ประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมอพยพ เพราะอาจจะมีน้ำท่วม บริเวณจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราดว่า การประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาถือเป็น ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ประชาชนต้องรับฟัง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกตั้งแต่ 100 มิลลิเมตรขึ้นไป ซึ่งการรับฟังและเชื่อถึอคำเตือนดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนลด ความสูญเสียได้ ทั้งนี้ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่นทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เร่งทำการฝึกซ้อมการอพยพและให้ความรุ้กับประชาชนในเรื่องดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน ฉบับที่ 8 เมื่อเวลา 17.00 น. เรื่องฝนตกหนักด้านตะวันตกของประเทศไทย และภาคตะวันออก คลื่นลมแรงในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันกำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางด้านตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนภาคตะวันออก รวมทั้งชายฝั่งจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม พื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดตาก อุทัยธานี ชุมพร ระนอง ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ระวังภัยจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้
ขณะที่ จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดน้ำท่วมในเขตอำเภอเมือง หลังฝนตกต่อเนื่อง ถนนเลียบชายฝั่งบ้านเพบางจุดสัญจรลำบาก ปภ.จังหวัด ระบุแม้สถานการณ์ยังไม่น่าวิตก แต่เตรียมทั้งกำลังพลและเรือท้องแบนไว้รับมือ ด้านพ่อเมืองสั่งทุกหน่วยเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉิน เปิดสายด่วนรับข้อมูล 24 ชั่วโมง
ด้านนายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือปัญหาน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยง พร้อมเปิด สายด่วน 038–694129 รับแจ้งสถานการณ์ได้ทุกเวลา เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าจะมีฝนตกชุกในพื้นที่จังหวัดระยอง อาจทำให้มีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
นางพิศจุไร ปานทิพย์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ ติดตามปัญหาน้ำท่วม เขตเทศบาลตำบลแกลง อำเภอเมือง หลังจากเกิดฝนตกติดต่อ มาหลายวันว่า ส่วนใหญ่น้ำจะท่วมผิวจราจรของถนนเลียบชายฝั่งบ้านเพและบางจุดที่ต่ำ ทำให้การสัญจรค่อนข้างลำบาก เนื่องจากน้ำยังไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ เพราะน้ำทะเลยังหนุนสูง แต่สถานการณ์ถือว่าไม่น่าวิตก โดยเฉพาะในส่วนของบ้านเรือนประชาชนยังไม่ได้รับความเสียหายมากนัก นอกจากบางจุด ในพื้นที่ลุ่มหรือริมคลองที่ขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน 6 ลำ ไว้เตรียมอพยพประชาชนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
ส่วนที่จังหวัดชลบุรี ก็เกิดน้ำท่วม ฉับพลันในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 กรกฎาคม เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเย็นววันที่ 1 กรกฎาคม ทำให้น้ำป่าทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วหลายหมู่บ้านในระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่อำเภอและเทศบาลตำบลแหลมฉบังยังระดมการช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมหลายร้อยหลังคาเรือนขนย้ายสิ่งของมาอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น พร้อมกับเร่งระบายน้ำลงทะเล
ด้านจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ก็เกิดเหตุน้ำท่วมจากการเกิดภาวะฝนจกหนักมาหลายวันทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย - พม่า หลากเข้าท่วม พื้นที่ ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก รวมทั้งผิวการจราจรบนถนนเพชรเกษม แต่รถทุกประเภทยังสัญจรได้ โดยหน่วยกู้ภัยของ อ.ทับสะแก นำเรือท้องแบนมาอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองอ่างทองออกจากพื้นที่ไว้ล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่วน อ.บางสะพาน มีสภาพน้ำท่วมในหลายตำบล
นอกจากนี้ ชาวบ้านจำนวนมากหวั่นวิตกว่าอ่างเก็บน้ำคลองสามสิบ ที่หมู่ 8 บ้านทองมงคล ซึ่งมีน้ำล้นสปิลเวย์จะประสบปัญหาเหมือนอ่างเก็บน้ำคลองลอย ที่ชำรุดร้าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 และอ่างเก็บน้ำคลองลอยเพิ่งซ่อมใหญ่ เมื่อต้นปี 2549 จึงอยากให้ทางชลประทานออกมายืนยันถึงความมั่นคงแข็งแรงของแนวสันเขื่อนต่อชาวบ้าน
สำหรับจังหวัดชุมพร นายพินัย อนันตพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ให้ทุกอำเภอตั้งศูนย์กลางประสานการทำงานในพื้นที่ หากเกิดภัยธรรมชาติฉับพลัน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 กรกฎาคม และให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 8 อำเภอ เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าเช่นกันและติดตามข่าวพยากรณ์อากาศตลอดเวลา ส่วนการเดินเรือในระยะนี้ควรงดออกจากฝั่งชั่วคราว โดยเฉพาะเรือเล็กและเรือประมงพื้นบ้าน ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้เกิดฝนตกหนัก และทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร
สภาพฝนตกหนักเกิดภาวะน้ำท่วมนอกจากในพื้นที่ภาคตะวันออกแล้ว ทางภาคเหนือ ที่จังหวัดพิษณุโลกก็เกิดฝนตกหนักเช่นกัน หลังจากตลอดทั้งคืน เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากมาจากอำเภอวัดโบสถ์เข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ เขตอำเภอเมืองเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะนาข้าวกว่า 10,000 ไร่ ใน 13 หมู่บ้าน ตำบลดอนทอง จมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องนำเครื่องสูบน้ำมาเร่งระบายน้ำออก แต่เป็นไปค่อนข้างช้า เนื่องจากเครื่องสูบน้ำมีกำลังแรงน้อย
ล่าสุดนายสันติ กรุสวนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งการให้นำ รถแบ็คโฮขุดทางระบายน้ำบริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายเอเชีย เลี่ยงเมืองพิษณุโลก เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรให้น้ำไหลลงสู่คลองสระโคล่และแม่น้ำน่าน เพราะหากปล่อยไว้นานนาข้าวกว่าหมื่นไร่จะเสียหายทั้งหมด หรือหากฝนยังไม่หยุดตกและมีน้ำป่าไหลมาสมทบอีกระลอก ก็จะยิ่งทำให้น้ำทะลักท่วมพื้นที่มากขึ้น พร้อมกันนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากขณะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ส่วนที่จังหวัดอุทัยธานีฝนตกติดต่อกัน ทำให้หอยเชอรี่ระบาดนาข้าวเสียหาย ในหลายอำเภอ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำชับไม่ให้ใช้สารกำจัดหอยเชอรี่ เพราะจะกระทบต่อสภาพ แวดล้อม รวมทั้งหอย ปู ปลา โดยแนะนำให้เกษตรกรเก็บหอยเชอรี่ไปทำลาย
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าจากการ ที่กรมอุตุนิยนวิทยา ประกาศเตือนประชาชนให้เตรียมอพยพ เพราะอาจจะมีน้ำท่วม บริเวณจังหวัดจันทบุรี ระยอง ตราดว่า การประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาถือเป็น ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่ประชาชนต้องรับฟัง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝนตกตั้งแต่ 100 มิลลิเมตรขึ้นไป ซึ่งการรับฟังและเชื่อถึอคำเตือนดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนลด ความสูญเสียได้ ทั้งนี้ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ในระดับท้องถิ่นทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้เร่งทำการฝึกซ้อมการอพยพและให้ความรุ้กับประชาชนในเรื่องดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน ฉบับที่ 8 เมื่อเวลา 17.00 น. เรื่องฝนตกหนักด้านตะวันตกของประเทศไทย และภาคตะวันออก คลื่นลมแรงในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนว่า ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามันกำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางด้านตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมากในระยะ 1-2 วันนี้ ส่วนภาคตะวันออก รวมทั้งชายฝั่งจะมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน จึงขอให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม พื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่ใกล้ทางน้ำไหลผ่านบริเวณจังหวัดตาก อุทัยธานี ชุมพร ระนอง ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ระวังภัยจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะ 1-2 วันนี้
ขณะที่ จ.ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้เกิดน้ำท่วมในเขตอำเภอเมือง หลังฝนตกต่อเนื่อง ถนนเลียบชายฝั่งบ้านเพบางจุดสัญจรลำบาก ปภ.จังหวัด ระบุแม้สถานการณ์ยังไม่น่าวิตก แต่เตรียมทั้งกำลังพลและเรือท้องแบนไว้รับมือ ด้านพ่อเมืองสั่งทุกหน่วยเฝ้าระวังเหตุฉุกเฉิน เปิดสายด่วนรับข้อมูล 24 ชั่วโมง
ด้านนายเสนอ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมรับมือปัญหาน้ำท่วมฉับพลันหรือน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่เสี่ยง พร้อมเปิด สายด่วน 038–694129 รับแจ้งสถานการณ์ได้ทุกเวลา เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าจะมีฝนตกชุกในพื้นที่จังหวัดระยอง อาจทำให้มีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
นางพิศจุไร ปานทิพย์ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดระยอง ลงพื้นที่ ติดตามปัญหาน้ำท่วม เขตเทศบาลตำบลแกลง อำเภอเมือง หลังจากเกิดฝนตกติดต่อ มาหลายวันว่า ส่วนใหญ่น้ำจะท่วมผิวจราจรของถนนเลียบชายฝั่งบ้านเพและบางจุดที่ต่ำ ทำให้การสัญจรค่อนข้างลำบาก เนื่องจากน้ำยังไม่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ เพราะน้ำทะเลยังหนุนสูง แต่สถานการณ์ถือว่าไม่น่าวิตก โดยเฉพาะในส่วนของบ้านเรือนประชาชนยังไม่ได้รับความเสียหายมากนัก นอกจากบางจุด ในพื้นที่ลุ่มหรือริมคลองที่ขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้จัดเจ้าหน้าที่กู้ภัย พร้อมเรือท้องแบน 6 ลำ ไว้เตรียมอพยพประชาชนหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
ส่วนที่จังหวัดชลบุรี ก็เกิดน้ำท่วม ฉับพลันในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 กรกฎาคม เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเย็นววันที่ 1 กรกฎาคม ทำให้น้ำป่าทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็วหลายหมู่บ้านในระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตร ว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่อำเภอและเทศบาลตำบลแหลมฉบังยังระดมการช่วยเหลือ ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมหลายร้อยหลังคาเรือนขนย้ายสิ่งของมาอยู่ในที่ปลอดภัย เนื่องจากระดับน้ำเริ่มสูงขึ้น พร้อมกับเร่งระบายน้ำลงทะเล
ด้านจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ ก็เกิดเหตุน้ำท่วมจากการเกิดภาวะฝนจกหนักมาหลายวันทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย - พม่า หลากเข้าท่วม พื้นที่ ต.อ่างทอง อ.ทับสะแก รวมทั้งผิวการจราจรบนถนนเพชรเกษม แต่รถทุกประเภทยังสัญจรได้ โดยหน่วยกู้ภัยของ อ.ทับสะแก นำเรือท้องแบนมาอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองอ่างทองออกจากพื้นที่ไว้ล่วงหน้า เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่วน อ.บางสะพาน มีสภาพน้ำท่วมในหลายตำบล
นอกจากนี้ ชาวบ้านจำนวนมากหวั่นวิตกว่าอ่างเก็บน้ำคลองสามสิบ ที่หมู่ 8 บ้านทองมงคล ซึ่งมีน้ำล้นสปิลเวย์จะประสบปัญหาเหมือนอ่างเก็บน้ำคลองลอย ที่ชำรุดร้าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2548 และอ่างเก็บน้ำคลองลอยเพิ่งซ่อมใหญ่ เมื่อต้นปี 2549 จึงอยากให้ทางชลประทานออกมายืนยันถึงความมั่นคงแข็งแรงของแนวสันเขื่อนต่อชาวบ้าน
สำหรับจังหวัดชุมพร นายพินัย อนันตพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันแก้ไขปัญหา อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ให้ทุกอำเภอตั้งศูนย์กลางประสานการทำงานในพื้นที่ หากเกิดภัยธรรมชาติฉับพลัน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 2 กรกฎาคม และให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 8 อำเภอ เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าเช่นกันและติดตามข่าวพยากรณ์อากาศตลอดเวลา ส่วนการเดินเรือในระยะนี้ควรงดออกจากฝั่งชั่วคราว โดยเฉพาะเรือเล็กและเรือประมงพื้นบ้าน ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมภาคใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้เกิดฝนตกหนัก และทะเลอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร
สภาพฝนตกหนักเกิดภาวะน้ำท่วมนอกจากในพื้นที่ภาคตะวันออกแล้ว ทางภาคเหนือ ที่จังหวัดพิษณุโลกก็เกิดฝนตกหนักเช่นกัน หลังจากตลอดทั้งคืน เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำป่าไหลหลากมาจากอำเภอวัดโบสถ์เข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ เขตอำเภอเมืองเป็นบริเวณกว้าง โดยเฉพาะนาข้าวกว่า 10,000 ไร่ ใน 13 หมู่บ้าน ตำบลดอนทอง จมอยู่ใต้น้ำ ชาวบ้านต้องนำเครื่องสูบน้ำมาเร่งระบายน้ำออก แต่เป็นไปค่อนข้างช้า เนื่องจากเครื่องสูบน้ำมีกำลังแรงน้อย
ล่าสุดนายสันติ กรุสวนสมบัติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก สั่งการให้นำ รถแบ็คโฮขุดทางระบายน้ำบริเวณริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 สายเอเชีย เลี่ยงเมืองพิษณุโลก เพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรให้น้ำไหลลงสู่คลองสระโคล่และแม่น้ำน่าน เพราะหากปล่อยไว้นานนาข้าวกว่าหมื่นไร่จะเสียหายทั้งหมด หรือหากฝนยังไม่หยุดตกและมีน้ำป่าไหลมาสมทบอีกระลอก ก็จะยิ่งทำให้น้ำทะลักท่วมพื้นที่มากขึ้น พร้อมกันนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากขณะนี้ยังมีฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
ส่วนที่จังหวัดอุทัยธานีฝนตกติดต่อกัน ทำให้หอยเชอรี่ระบาดนาข้าวเสียหาย ในหลายอำเภอ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำชับไม่ให้ใช้สารกำจัดหอยเชอรี่ เพราะจะกระทบต่อสภาพ แวดล้อม รวมทั้งหอย ปู ปลา โดยแนะนำให้เกษตรกรเก็บหอยเชอรี่ไปทำลาย