กลุ่มอีสานกู้ชาติ แฉ “ศักดิ์ เตชาชาญ” 1 ใน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขาดคุณสมบัติ หลังพบออกโฉนดที่ดินทับที่สาธารณะ แถมศาลตัดสินว่ามีความผิดถูกเรียกค่าเสียหายทางแพ่งมาแล้ว
นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ แถลง ถึงคุณสมบัติของ นายศักดิ์ เตชาชาญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า จากการตรวจสอบของ เครือข่ายอีสานกู้ชาติพบว่า นายศักดิ์ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเมื่อ พ.ศ.2526 ขณะที่นายศักดิ์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ซื้อที่ดิน 2 แปลง ที่บ้านโป่งกุ่ม หมู่ 4 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็น นส.3 เนื้อที่ 2 แปลง จำนวน 9 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา
หลังจากนั้น นายศักดิ์ ได้นำที่ดินดังกล่าวไปขอออกเอกสารสิทธิ์ เป็น นส.3 ก. โดยในการออกเอกสารสิทธิ์ ปรากฏว่า ได้แจ้งเพิ่มเนื้อที่เป็น 15 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา จากนั้น ได้ขายที่ดินให้บุคคลอื่น และเกิดเป็นปัญหาที่ดินทับที่สาธารณะประโยชน์ จนนำไปสู่การฟ้องร้อง และถูกศาลฎีกา มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เป็นคำพิพากษา เลขที่ 3174,3175 / 2541 และยังถูกศาลเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง
นายไทกร กล่าวว่า ความผิดดังกล่าว ในฐานะที่ขณะนั้นนายศักดิ์ดำรงตำแหน่ง เป็นข้าราชการ ถือว่าเป็นการกระทำผิดมาตรา 147 และ 148 แต่ต่อมา ในปี พ.ศ.2544 นายศักดิ์ ได้ผ่านกระบวนการสรรหาให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเหตุใดคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่พบการกระทำผิดดังกล่าว โดยเป็นความผิดที่ทำให้ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นเมื่อนายศักดิ์มีความผิดจากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดข้อเคลือบแคลงสงสัยว่า การขาดคุณสมบัติ นับตั้งแต่เริ่มต้นการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และมีผลต่อการออกเสียงในการวินิจฉัยคดีต่างๆ ที่ผ่านมาหรือไม่ โดยเฉพาะคดีวินิจฉัยการซุกหุ้น ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งคะแนนเสียงในขณะนั้น 8 ต่อ 7 ชี้ว่า นายกฯ ไม่มีความผิด
“ข้อมูลเอกสารที่ผมและทนายที่ปรึกษาของกลุ่มได้มา ถือว่าเป็นเอกสารที่หายากมาก โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของศาลฎีกาในเรื่องนี้ ไม่ปรากฏในเว็บไซด์ของศาลฎีกา และในสาระบบคดี ซึ่งผมไม่ทราบว่ามีผู้มีอำนาจ ที่พยายามช่วยปกปิดข้อมูลดังกล่าวเอาไว้หรือไม่ แต่ผมได้หลักฐานมาจากประชาชนที่ไม่อยากเห็นความไม่ถูกต้องในสังคม และเมื่อตรวจสอบกับสำนักงานที่ดิน ก็พบว่ามีคดีดังกล่าวจริง และมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดกับนายศักดิ์ ทั้งที่ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า นายศักดิ์ขอออกโฉนดทับที่สาธารณะ เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ โปร่งใส โดยเฉพาะกำลังจะทำหน้าที่ในการวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคไทยรักไทย ซึ่งจะทำลายการเมืองเก่าและสร้างการเมืองใหม่ อันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผมในฐานะกลุ่มอีสานกู้ชาติ จึงเรียกร้องขอให้นายศักดิ์ ลาออกจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และสุจริต โปร่งใส ในการทำหน้าที่” นายกร กล่าว
ด้านนายชุมพล สังข์ทอง ทนายความของเครือข่ายอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวทางกลุ่มจะทำหนังสือยื่นต่อวุฒิสภาเพื่อให้ตรวจสอบปัญหาดังกล่าว และขอเรียกร้องให้นายศักดิ์แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งที่ทางกลุ่มทำได้ เป็นเพียงแค่การฟ้องประชาชนให้รับรู้ถึงพฤติกรรมของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญที่อยู่ในตำแหน่ง
“ตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ คนที่จะเป็นตุลาการได้ ต้องบริสุทธิ์โปร่งใสทั้งในปัจจุบันและในอดีต ไม่ใช่ใครก็มาเป็นได้ แม้ว่านายศักดิ์จะให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบของกรมที่ดินว่า ไม่เคยยื่นคำร้องขอรังวัดรวม และเปลี่ยน นส.3 เป็น นส.3 ก.ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่เคยนำพนักงานเจ้าหน้าที่ร่วมชี้ และระวังแนวเขตที่ดิน และการดำเนินการทุกอย่างมอบหมายให้นายพานทอง มาลาการณ์ เป็นผู้ดำเนินการ แต่จากการตรวจสอบหลักฐาน ปรากฏลายมือชื่อ นายศักดิ์ ทุกขั้นตอนของการดำเนินการ อีกทั้งเจ้าของที่ดินข้างเคียง และผู้ปกครองท้องถิ่น ให้ถ้อยคำว่า มิได้ร่วมชี้และรับรองแนวเขตที่ดินแต่อย่างใด ซึ่งคนเป็นถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรทำเช่นนี้" นายชุมพล กล่าว
นายชุมพล กล่าวด้วยว่า หากนายศักดิ์ไม่ถอนตัวจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ขององค์กรศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มอีสานกู้ชาติพร้อมจะพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้ท้าทาย แต่มีความเชื่อมั่นในข้อมูลเอกสารที่ได้มา
นอกจากนี้นายศักดิ์ ยังมีปัญหาเรื่องภรรยาที่ทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาล ซึ่งถูกประชาชนตั้งข้อสังเกตและความเหมาะสม ทั้งนี้หลังจากนี้ ตนกำลังรวบรวมข้อมูลเอกสาร เกี่ยวกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 1 คน ที่ถือว่า เป็นคนใหญ่พอสมควร เป็นหลักฐานความผิดก่อนการดำรงตำแหน่งตุลาการ ที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบเช่นเดียวกัน โดยกำลังตรวจสอบพยานหลักฐาน และจะนำมาเปิดเผยเร็วๆ นี้
นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ แถลง ถึงคุณสมบัติของ นายศักดิ์ เตชาชาญ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญว่า จากการตรวจสอบของ เครือข่ายอีสานกู้ชาติพบว่า นายศักดิ์ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากเมื่อ พ.ศ.2526 ขณะที่นายศักดิ์ ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้ซื้อที่ดิน 2 แปลง ที่บ้านโป่งกุ่ม หมู่ 4 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เป็น นส.3 เนื้อที่ 2 แปลง จำนวน 9 ไร่ 2 งาน 50 ตารางวา
หลังจากนั้น นายศักดิ์ ได้นำที่ดินดังกล่าวไปขอออกเอกสารสิทธิ์ เป็น นส.3 ก. โดยในการออกเอกสารสิทธิ์ ปรากฏว่า ได้แจ้งเพิ่มเนื้อที่เป็น 15 ไร่ 1 งาน 39 ตารางวา จากนั้น ได้ขายที่ดินให้บุคคลอื่น และเกิดเป็นปัญหาที่ดินทับที่สาธารณะประโยชน์ จนนำไปสู่การฟ้องร้อง และถูกศาลฎีกา มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ เป็นคำพิพากษา เลขที่ 3174,3175 / 2541 และยังถูกศาลเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง
นายไทกร กล่าวว่า ความผิดดังกล่าว ในฐานะที่ขณะนั้นนายศักดิ์ดำรงตำแหน่ง เป็นข้าราชการ ถือว่าเป็นการกระทำผิดมาตรา 147 และ 148 แต่ต่อมา ในปี พ.ศ.2544 นายศักดิ์ ได้ผ่านกระบวนการสรรหาให้เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งตนไม่ทราบว่าเหตุใดคณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่พบการกระทำผิดดังกล่าว โดยเป็นความผิดที่ทำให้ขาดคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นเมื่อนายศักดิ์มีความผิดจากกรณีดังกล่าวทำให้เกิดข้อเคลือบแคลงสงสัยว่า การขาดคุณสมบัติ นับตั้งแต่เริ่มต้นการเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ และมีผลต่อการออกเสียงในการวินิจฉัยคดีต่างๆ ที่ผ่านมาหรือไม่ โดยเฉพาะคดีวินิจฉัยการซุกหุ้น ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีซึ่งคะแนนเสียงในขณะนั้น 8 ต่อ 7 ชี้ว่า นายกฯ ไม่มีความผิด
“ข้อมูลเอกสารที่ผมและทนายที่ปรึกษาของกลุ่มได้มา ถือว่าเป็นเอกสารที่หายากมาก โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของศาลฎีกาในเรื่องนี้ ไม่ปรากฏในเว็บไซด์ของศาลฎีกา และในสาระบบคดี ซึ่งผมไม่ทราบว่ามีผู้มีอำนาจ ที่พยายามช่วยปกปิดข้อมูลดังกล่าวเอาไว้หรือไม่ แต่ผมได้หลักฐานมาจากประชาชนที่ไม่อยากเห็นความไม่ถูกต้องในสังคม และเมื่อตรวจสอบกับสำนักงานที่ดิน ก็พบว่ามีคดีดังกล่าวจริง และมีการดำเนินการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องเพื่อเอาผิดกับนายศักดิ์ ทั้งที่ศาลฎีกา ได้มีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า นายศักดิ์ขอออกโฉนดทับที่สาธารณะ เพราะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ต้องเป็นผู้บริสุทธิ์ โปร่งใส โดยเฉพาะกำลังจะทำหน้าที่ในการวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์และพรรคไทยรักไทย ซึ่งจะทำลายการเมืองเก่าและสร้างการเมืองใหม่ อันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ผมในฐานะกลุ่มอีสานกู้ชาติ จึงเรียกร้องขอให้นายศักดิ์ ลาออกจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และสุจริต โปร่งใส ในการทำหน้าที่” นายกร กล่าว
ด้านนายชุมพล สังข์ทอง ทนายความของเครือข่ายอีสานกู้ชาติ กล่าวว่า จากข้อมูลดังกล่าวทางกลุ่มจะทำหนังสือยื่นต่อวุฒิสภาเพื่อให้ตรวจสอบปัญหาดังกล่าว และขอเรียกร้องให้นายศักดิ์แสดงสปิริตลาออกจากตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งที่ทางกลุ่มทำได้ เป็นเพียงแค่การฟ้องประชาชนให้รับรู้ถึงพฤติกรรมของตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญที่อยู่ในตำแหน่ง
“ตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ คนที่จะเป็นตุลาการได้ ต้องบริสุทธิ์โปร่งใสทั้งในปัจจุบันและในอดีต ไม่ใช่ใครก็มาเป็นได้ แม้ว่านายศักดิ์จะให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสอบของกรมที่ดินว่า ไม่เคยยื่นคำร้องขอรังวัดรวม และเปลี่ยน นส.3 เป็น นส.3 ก.ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ไม่เคยนำพนักงานเจ้าหน้าที่ร่วมชี้ และระวังแนวเขตที่ดิน และการดำเนินการทุกอย่างมอบหมายให้นายพานทอง มาลาการณ์ เป็นผู้ดำเนินการ แต่จากการตรวจสอบหลักฐาน ปรากฏลายมือชื่อ นายศักดิ์ ทุกขั้นตอนของการดำเนินการ อีกทั้งเจ้าของที่ดินข้างเคียง และผู้ปกครองท้องถิ่น ให้ถ้อยคำว่า มิได้ร่วมชี้และรับรองแนวเขตที่ดินแต่อย่างใด ซึ่งคนเป็นถึงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่ควรทำเช่นนี้" นายชุมพล กล่าว
นายชุมพล กล่าวด้วยว่า หากนายศักดิ์ไม่ถอนตัวจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ ขององค์กรศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งกลุ่มอีสานกู้ชาติพร้อมจะพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้ ซึ่งไม่ได้ท้าทาย แต่มีความเชื่อมั่นในข้อมูลเอกสารที่ได้มา
นอกจากนี้นายศักดิ์ ยังมีปัญหาเรื่องภรรยาที่ทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาล ซึ่งถูกประชาชนตั้งข้อสังเกตและความเหมาะสม ทั้งนี้หลังจากนี้ ตนกำลังรวบรวมข้อมูลเอกสาร เกี่ยวกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอีก 1 คน ที่ถือว่า เป็นคนใหญ่พอสมควร เป็นหลักฐานความผิดก่อนการดำรงตำแหน่งตุลาการ ที่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในทางมิชอบเช่นเดียวกัน โดยกำลังตรวจสอบพยานหลักฐาน และจะนำมาเปิดเผยเร็วๆ นี้