ผู้จัดการรายวัน - “ทักษิณ” ทำงงบัตรประชาชนใหม่ไม่มีตราครุฑ เรียก “คงศักดิ์”แจงกลาง ครม.ยันตราครุฑมีแต่ต้องใช้แบล็กไลท์ส่อง พร้อมโยนความรัฐบาล “ชวน” ออก กม.เปลี่ยนแปลงบัตรประจำตัวข้าราชการ ให้เป็นบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขณะที่ “ไทกร” ไม่เชื่อคำพูด คน มท.ที่อ้างเอาครุฑไปซ้อนกลัวถูกปลอมบัตรประชาชน ระบุหากกลัวถูกปลอมทำไมไม่ใช่สัญลักษณ์อื่น ชี้ต้นต่อมาจากพวกนักกฎหมายศรีธนญชัย ด้าน มท.ไม่กล้าสาบานหน้าวัดพระแก้ว
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (30 พ.ค.) ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามกระทรวงมหาดไทยถึงเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (สมาร์ทการ์ด) ที่มีข้อกล่าวหาว่า ไม่มีตราครุฑประทับอยู่ในบัตรประชาชน โดย พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ได้แถลงข่าวไปแล้วที่กระทรวงมหาดไทยว่า ในบัตรสมาร์ทการ์ดนี้ มีตราครุฑอยู่ แต่เป็นตราครุฑที่พิมพ์ด้วยหมึกซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตรเปล่า ต้องใช้แบล็กไลท์ ส่องจึงจะมองเห็น ซึ่งก็ได้สาธิให้สื่อมวลชนดูแล้วด้วย
สำหรับการเปลี่ยนแปลงบัตรประจำตัวข้าราชการให้เป็นบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ถูกกล่าวหาว่า มีเจตนาอันไม่สมควรนั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ ได้ชี้แจง ในที่ประชุม ครม.ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 และผู้รับนามรับสนองพระบรมราชโองการ คือ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (30 พ.ค.) นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ ได้เดินทางไปยังวัดพระศรีรันศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เพื่อทำการสาบานกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการทำประจำตัวประชาชน จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตามที่ท้าไว้เพื่อพิสูจน์ความจริงกรณีบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดที่ไม่มีตราครุฑ แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลานัดหมายไม่ปรากฎตัวแทน จากกระทรวงมหาดไทย มาสาบานว่ามีตราครุฑในบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดจริงหรือไม่จริง ทำให้ นายไทกร ต้องยกเลิกการสาบาน
นายไทกร ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ที่มาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ตนยังคงสงสัยตามที่กระทรวงมหาดไทยออกมาอ้างว่าบัตรประชาชนมีตราครุฑแต่ซ้อนเอาไว้ ต้องใช้แสงแบล็กไลท์ส่องจึงจะเห็นสัญลักษณ์ตราครุฑว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น มีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงต้องนำตราครุฑไปซ้อนไว้ ทั้งที่รู้อยู่ว่าตราครุฑถือเป็นตราประจำแผ่นดินที่จะต้อง แสดงให้เห็นชัดเจนไม่ใช้มาซ่อนเอาไว้เช่นนี้ และถ้าต้องใช้แสง แบล็กไลท์ซ่องดูตราครุฑจริง กระทรวงมหาดไทย ก็จะต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก ไปโดยเปล่าประโยชน์สำหรับติดตั้งเครื่องฉายแสงแบล็กไลท์ ให้แต่ละพื้นที่สำหรับตรวจบัตรประชาชน
“ในเอกสารสำคัญทางราชการต่างๆ เช่น โฉนดที่ดิน พาสสปอร์ต รวมทั้งธนบัตรก็มีสัญลักษณ์ตราครุฑประดับไว้ทั้งสิ้น แต่ทำไมเมื่อมาถึงยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยบริหารประเทศ ถึงได้มีการเปลี่ยนแปลง และถ้าหากมีการนำบัตรประชาชนที่ไม่มีตราครุฑนี้ไปถ่ายเอกสารจะทราบใดอย่างไรว่าอันไหนเป็นเอกสารของจริง หรือของปลอม”
นายไทกร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเห็นว่า ถ้ารัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ต้องการจะทำเครื่องหมายอะไรซักอย่างไปซ้อนไว้เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าเป็นบัตรประชาชนจริงหรือปลอม ก็ควรใช้เครื่องหมายอื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปซ้อนตราครุฑ ไว้เช่นนี้ ฉะนั้นพฤติกรรมเช่นนี้ ถือเป็นการฉ้อฉลด้วยการใช้เทคโนโลยี โดยได้รับความร่วมมือจากนักกฎหมายศรีธนญชัยของรัฐบาล
นายไทกร ยังได้กล่าวถึงปฏิญญาฟินแลนด์ ว่า ในวันเสาร์ที่3มิ.ย.นี้ เวลา13.00 น.ทางเครือข่ายอีสานกู้ชาติ จะมีการประชุมกันที่โรงแรมโซฟิเทล จ.ขอนแก่น และหลังจากนั้นจะนำสื่อมวลชนไปดูสถานที่ที่แกนนำแนวคิด ปฏิญญาฟินแลนด์ ได้เคยมาหารือกันเมื่อเดือนมีนาคมพ.ศ 2548 เกี่ยวกับเรื่องนี้
นายไทกร กล่าวว่าได้รับทราบเรื่องที่ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติของตนที่อาจขัดต่อข้อบังคับพรรคในการเข้าเป็น สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงคิดว่าในวันที่ 31 พ.ค. เวลา 10.00 น. จะเดินทางมายื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรักษามิตรภาพร่วมรบ และจะขอออกไปทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเพื่อล้มระบอบทักษิณต่อไป
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัตินายไทกร ที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีเสียงวิจารณ์ว่าคุณสมบัติไม่ถูกต้องว่า นายไทกร ก็ไม่ธรรมดา เคยออกจากพรรค เพื่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ตอนหลังกลับเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกอีกครั้ง เจ้าหน้าที่พรรคได้แจ้งว่า นายไทกร ขาดคุณสมบัติบางอย่าง จึงต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเขา หากพบว่าคุณสมบัติครบ ก็สามารถเป็นสมาชิกพรรคต่อไปได้ แต่ถ้าไม่ครบก็ต้องขาดความเป็นสมาชิกพรรคไป
“ผมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตัดตอนเหมือนพรรคการเมืองอื่น แต่ที่ผ่านมา ได้เคยเตือนนายไทกร ไปว่า เขาไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ไม่มีหน้าที่ดำเนินการทางการเมืองในนามพรรค”
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (30 พ.ค.) ว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามกระทรวงมหาดไทยถึงเรื่องบัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (สมาร์ทการ์ด) ที่มีข้อกล่าวหาว่า ไม่มีตราครุฑประทับอยู่ในบัตรประชาชน โดย พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ได้แถลงข่าวไปแล้วที่กระทรวงมหาดไทยว่า ในบัตรสมาร์ทการ์ดนี้ มีตราครุฑอยู่ แต่เป็นตราครุฑที่พิมพ์ด้วยหมึกซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตรเปล่า ต้องใช้แบล็กไลท์ ส่องจึงจะมองเห็น ซึ่งก็ได้สาธิให้สื่อมวลชนดูแล้วด้วย
สำหรับการเปลี่ยนแปลงบัตรประจำตัวข้าราชการให้เป็นบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ถูกกล่าวหาว่า มีเจตนาอันไม่สมควรนั้น พล.อ.อ.คงศักดิ์ ได้ชี้แจง ในที่ประชุม ครม.ว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นไปตาม พ.ร.บ.บัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ.2542 และผู้รับนามรับสนองพระบรมราชโองการ คือ นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ (30 พ.ค.) นายไทกร พลสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายอีสานกู้ชาติ ได้เดินทางไปยังวัดพระศรีรันศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เพื่อทำการสาบานกับเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการทำประจำตัวประชาชน จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตามที่ท้าไว้เพื่อพิสูจน์ความจริงกรณีบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดที่ไม่มีตราครุฑ แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลานัดหมายไม่ปรากฎตัวแทน จากกระทรวงมหาดไทย มาสาบานว่ามีตราครุฑในบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ดจริงหรือไม่จริง ทำให้ นายไทกร ต้องยกเลิกการสาบาน
นายไทกร ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้ที่มาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ตนยังคงสงสัยตามที่กระทรวงมหาดไทยออกมาอ้างว่าบัตรประชาชนมีตราครุฑแต่ซ้อนเอาไว้ ต้องใช้แสงแบล็กไลท์ส่องจึงจะเห็นสัญลักษณ์ตราครุฑว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น มีเจตนาอะไรกันแน่ ถึงต้องนำตราครุฑไปซ้อนไว้ ทั้งที่รู้อยู่ว่าตราครุฑถือเป็นตราประจำแผ่นดินที่จะต้อง แสดงให้เห็นชัดเจนไม่ใช้มาซ่อนเอาไว้เช่นนี้ และถ้าต้องใช้แสง แบล็กไลท์ซ่องดูตราครุฑจริง กระทรวงมหาดไทย ก็จะต้องเสียงบประมาณจำนวนมาก ไปโดยเปล่าประโยชน์สำหรับติดตั้งเครื่องฉายแสงแบล็กไลท์ ให้แต่ละพื้นที่สำหรับตรวจบัตรประชาชน
“ในเอกสารสำคัญทางราชการต่างๆ เช่น โฉนดที่ดิน พาสสปอร์ต รวมทั้งธนบัตรก็มีสัญลักษณ์ตราครุฑประดับไว้ทั้งสิ้น แต่ทำไมเมื่อมาถึงยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทยบริหารประเทศ ถึงได้มีการเปลี่ยนแปลง และถ้าหากมีการนำบัตรประชาชนที่ไม่มีตราครุฑนี้ไปถ่ายเอกสารจะทราบใดอย่างไรว่าอันไหนเป็นเอกสารของจริง หรือของปลอม”
นายไทกร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเห็นว่า ถ้ารัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ต้องการจะทำเครื่องหมายอะไรซักอย่างไปซ้อนไว้เพื่อให้ตรวจสอบได้ว่าเป็นบัตรประชาชนจริงหรือปลอม ก็ควรใช้เครื่องหมายอื่นก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปซ้อนตราครุฑ ไว้เช่นนี้ ฉะนั้นพฤติกรรมเช่นนี้ ถือเป็นการฉ้อฉลด้วยการใช้เทคโนโลยี โดยได้รับความร่วมมือจากนักกฎหมายศรีธนญชัยของรัฐบาล
นายไทกร ยังได้กล่าวถึงปฏิญญาฟินแลนด์ ว่า ในวันเสาร์ที่3มิ.ย.นี้ เวลา13.00 น.ทางเครือข่ายอีสานกู้ชาติ จะมีการประชุมกันที่โรงแรมโซฟิเทล จ.ขอนแก่น และหลังจากนั้นจะนำสื่อมวลชนไปดูสถานที่ที่แกนนำแนวคิด ปฏิญญาฟินแลนด์ ได้เคยมาหารือกันเมื่อเดือนมีนาคมพ.ศ 2548 เกี่ยวกับเรื่องนี้
นายไทกร กล่าวว่าได้รับทราบเรื่องที่ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติของตนที่อาจขัดต่อข้อบังคับพรรคในการเข้าเป็น สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว จึงคิดว่าในวันที่ 31 พ.ค. เวลา 10.00 น. จะเดินทางมายื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อรักษามิตรภาพร่วมรบ และจะขอออกไปทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลเพื่อล้มระบอบทักษิณต่อไป
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการตั้งคณะทำงานตรวจสอบคุณสมบัตินายไทกร ที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีเสียงวิจารณ์ว่าคุณสมบัติไม่ถูกต้องว่า นายไทกร ก็ไม่ธรรมดา เคยออกจากพรรค เพื่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ แต่ตอนหลังกลับเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกอีกครั้ง เจ้าหน้าที่พรรคได้แจ้งว่า นายไทกร ขาดคุณสมบัติบางอย่าง จึงต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเขา หากพบว่าคุณสมบัติครบ ก็สามารถเป็นสมาชิกพรรคต่อไปได้ แต่ถ้าไม่ครบก็ต้องขาดความเป็นสมาชิกพรรคไป
“ผมยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ตัดตอนเหมือนพรรคการเมืองอื่น แต่ที่ผ่านมา ได้เคยเตือนนายไทกร ไปว่า เขาไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ไม่มีหน้าที่ดำเนินการทางการเมืองในนามพรรค”