ผู้จัดการรายวัน - แฉระบอบทักษิณละเมิดสิทธิมนุษยชนหนัก ทั้งครอบงำความคิด ของประชาชน ด้วยการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายควบคุมสิทธิการแสดงความคิดเห็น ประชาชน ปิดปากสื่อมวลชนไม่ให้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล รวมทั้งการชุมนุมทางการเมือง นักวิชาการซัดเลือกตั้ง 2 เม.ย.ไม่เป็นประชาธิปไตย พร้อมฉะรัฐสร้างผลงานตบตาประชาชน ฆ่าตัดตอนยาเสพติดไม่ได้ผล เหตุกลับมาระบาดหนัก
วานนี้(16 พ.ค.) ที่ รร.รัตนโกสินทร์ได้มีการจัดเวทีสาธารณะ เนื่องในวาระครบรอบ 14 ปี เหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เรื่อง “รัฐใช้อำนาจทางกฎหมายดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชนในปัจจุบัน”โดยสำนักงานสิทธิมนุษยชนการศึกษาและการพัฒนาสังคม ม.มหิดล คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฎิรูปสื่อ (คปส) และคณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์รองคณบดีฝ่ายวิจัยและรัชกิจ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน (คปส) กล่าวว่า ในปัจจุบันสิทธิทางการเมืองและสิทธิของพลเมืองของคนไทยกำลังเกิดปัญหา โดยมีผลจากการใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงสื่อใน 4-5 ลักษณะใหญ่ๆ คือ 1.การควบคุมโดยตรง หรือเรียกได้ว่าเป็นการผูกขาด อาจทำในรูปแบบของการให้สัมปทานสื่อ 2.การควบคุมไม่ให้ใบอนุญาต 3.การควบคุมโดยออกกฎหมายต่าง ๆ เพื่อปิดกั้น อย่างเช่นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 4.การควบคุมโดยการสร้างแรงกดดันอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อกิจการ 5.การข่มขู่ คุกคามสื่อ จากเหตุการณ์การปิดล้อมหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
สำหรับในส่วนของกฎหมายหมิ่นประมาทนั้น ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งโดยมิชอบในทางการเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เนื่องจากผู้ที่เข้ามาบริหารประเทศนั้นจะต้องเป็นผู้มีความอดทน อดกลั้นต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากสื่อและประชาชน
ด้านดร.ศรีประภา เพชรมีศรี ผู้อำนวยการโครงการสิทธิมนุษยชนศึกษาและพัฒนาการสังคม ม.มหิดล ได้กล่าวถึงสิทธิทางการเมืองว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาในเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดคือ การเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เพราะขาดแก่นสารของหลักประชาธิปไตย เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งโดยมีเพียงพรรคเดียว ไม่มีการแข่งขันกันอย่างแท้จริง การเลือกตั้งเพียงพรรคเดียวครั้งนี้จึงไม่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย และไม่ได้คำนึงถึงสิทธิทางการเมืองของประชาชนในประเทศอย่างแท้จริง
ขณะที่นายพิภพ ธงไชย หนึ่งใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้คนไทยถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยที่รัฐพยายามที่จะเข้ามาควบคุม และกำกับประชาชนให้ทำตามที่รัฐบาลต้องการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การศึกษาของประเทศไทยจะถูกบังคับมาโดยตลอดว่าจะต้องเชื่อรัฐบาล ต้องเรียนตามที่รัฐกำหนด ได้มีการเซ็นเซอร์แบบเรียนก่อนที่จะนำมาสอนนักเรียน
แต่ที่สำคัญที่สุดคือประชาชนได้ถูกรัฐ ละเมิดในเรื่องการแสดงออกทางสาธารณะ เพราะในปัจจุบันนี้การที่ประชาชนจะแสดงความคิดเห็น หรือการรวมกลุ่มชุมนุม ก็มักจะถูกข้อกล่าวหาต่างๆ จนทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น
ยกตัวอย่างเช่นการฟ้องร้องหมิ่นประมาท การฟ้องร้องกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การฟ้องร้องพันธมิตรฯข้อหาล้มล้างรัฐบาล ก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร ล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลตั้งขึ้นเพื่อปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั้งสิ้น ฝ่ายที่ชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรี แต่ฝ่ายที่สนับสนุน กลับไม่ได้รับการดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมของภาครัฐที่กระทำต่อประชาชน
นอกจากนี้ นายพิภพยังกล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปัญหาที่แท้จริงของเรื่องนั้นเกิดจากการที่ประชานในพื้นที่ได้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่รัฐกลับไม่พูดถึง เมื่อส่งคนเข้าไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่จึงไม่ได้รับการสนับสนุนจนกลายเป็นปัญหาที่บานปลาย เพราะประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเรื่องสิทธิมนุษยชน และได้มีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดปากสื่อ ห้ามมิให้มีการนำเสนอบทวิจารณ์เกี่ยวกับความไม่สงบภายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างว่ากระทบต่อความไม่สงบ
ส่วน ดร.เจตฎ์ โทณะวณิก คณะบดีคณะนิติศาสตร์ ม.สยาม กล่าวเสริมว่าการใช้สิทธิพลเมืองในเรื่องของการชุมนุมประท้วงถือเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถที่จะกระทำได้ แต่กลับถูกภาครัฐใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการ โดยการถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นประมาท จนทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
ส่วนนายสมชาย หอมลออ คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า การประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาลคือตัวอย่างการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจนสุด เพราะมีการฆ่าตัดตอนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,000 คน แต่รัฐก็ยังไม่สามารถจัดการกับผู้ค้ารายใหญ่ได้ และที่สำคัญในปัจจุบันนี้ยาเสพติดได้กลับเข้ามาระบาดอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายสมชายยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพความคิดเห็น และการแสดงออกของประชาชน เพราะ ถือว่าในสังคมประชาธิปไตยการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันสังคมจะสามารถดำรงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ซึ่งไม่ใช่การเข้ามาคุกคามการใช้อำนาจการแสดงความคิดเห็นของประชาชนโดยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายมาควบคุมสิทธิของประชาน
วานนี้(16 พ.ค.) ที่ รร.รัตนโกสินทร์ได้มีการจัดเวทีสาธารณะ เนื่องในวาระครบรอบ 14 ปี เหตุการณ์พฤษภาคม 2535 เรื่อง “รัฐใช้อำนาจทางกฎหมายดำเนินคดีทางการเมืองกับประชาชนในปัจจุบัน”โดยสำนักงานสิทธิมนุษยชนการศึกษาและการพัฒนาสังคม ม.มหิดล คณะกรรมการรณรงค์เพื่อการปฎิรูปสื่อ (คปส) และคณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน
รศ.ดร.อุบลรัตน์ ศิริยุวศักดิ์รองคณบดีฝ่ายวิจัยและรัชกิจ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน (คปส) กล่าวว่า ในปัจจุบันสิทธิทางการเมืองและสิทธิของพลเมืองของคนไทยกำลังเกิดปัญหา โดยมีผลจากการใช้อำนาจรัฐเข้ามาแทรกแซงสื่อใน 4-5 ลักษณะใหญ่ๆ คือ 1.การควบคุมโดยตรง หรือเรียกได้ว่าเป็นการผูกขาด อาจทำในรูปแบบของการให้สัมปทานสื่อ 2.การควบคุมไม่ให้ใบอนุญาต 3.การควบคุมโดยออกกฎหมายต่าง ๆ เพื่อปิดกั้น อย่างเช่นการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 4.การควบคุมโดยการสร้างแรงกดดันอย่างสูง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าซื้อกิจการ 5.การข่มขู่ คุกคามสื่อ จากเหตุการณ์การปิดล้อมหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
สำหรับในส่วนของกฎหมายหมิ่นประมาทนั้น ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งโดยมิชอบในทางการเมือง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เนื่องจากผู้ที่เข้ามาบริหารประเทศนั้นจะต้องเป็นผู้มีความอดทน อดกลั้นต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากสื่อและประชาชน
ด้านดร.ศรีประภา เพชรมีศรี ผู้อำนวยการโครงการสิทธิมนุษยชนศึกษาและพัฒนาการสังคม ม.มหิดล ได้กล่าวถึงสิทธิทางการเมืองว่า ประเทศไทยยังมีปัญหาในเรื่องนี้อย่างมาก ซึ่งสิ่งที่สะท้อนให้เห็นเด่นชัดคือ การเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เพราะขาดแก่นสารของหลักประชาธิปไตย เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งโดยมีเพียงพรรคเดียว ไม่มีการแข่งขันกันอย่างแท้จริง การเลือกตั้งเพียงพรรคเดียวครั้งนี้จึงไม่ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย และไม่ได้คำนึงถึงสิทธิทางการเมืองของประชาชนในประเทศอย่างแท้จริง
ขณะที่นายพิภพ ธงไชย หนึ่งใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ปัจจุบันนี้คนไทยถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเห็นได้ชัดเจนที่สุด โดยที่รัฐพยายามที่จะเข้ามาควบคุม และกำกับประชาชนให้ทำตามที่รัฐบาลต้องการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การศึกษาของประเทศไทยจะถูกบังคับมาโดยตลอดว่าจะต้องเชื่อรัฐบาล ต้องเรียนตามที่รัฐกำหนด ได้มีการเซ็นเซอร์แบบเรียนก่อนที่จะนำมาสอนนักเรียน
แต่ที่สำคัญที่สุดคือประชาชนได้ถูกรัฐ ละเมิดในเรื่องการแสดงออกทางสาธารณะ เพราะในปัจจุบันนี้การที่ประชาชนจะแสดงความคิดเห็น หรือการรวมกลุ่มชุมนุม ก็มักจะถูกข้อกล่าวหาต่างๆ จนทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น
ยกตัวอย่างเช่นการฟ้องร้องหมิ่นประมาท การฟ้องร้องกรณีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ การฟ้องร้องพันธมิตรฯข้อหาล้มล้างรัฐบาล ก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร ล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่รัฐบาลตั้งขึ้นเพื่อปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนทั้งสิ้น ฝ่ายที่ชุมนุมต่อต้านนายกรัฐมนตรี แต่ฝ่ายที่สนับสนุน กลับไม่ได้รับการดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรมของภาครัฐที่กระทำต่อประชาชน
นอกจากนี้ นายพิภพยังกล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปัญหาที่แท้จริงของเรื่องนั้นเกิดจากการที่ประชานในพื้นที่ได้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนแต่รัฐกลับไม่พูดถึง เมื่อส่งคนเข้าไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่จึงไม่ได้รับการสนับสนุนจนกลายเป็นปัญหาที่บานปลาย เพราะประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเรื่องสิทธิมนุษยชน และได้มีการออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินปิดปากสื่อ ห้ามมิให้มีการนำเสนอบทวิจารณ์เกี่ยวกับความไม่สงบภายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยอ้างว่ากระทบต่อความไม่สงบ
ส่วน ดร.เจตฎ์ โทณะวณิก คณะบดีคณะนิติศาสตร์ ม.สยาม กล่าวเสริมว่าการใช้สิทธิพลเมืองในเรื่องของการชุมนุมประท้วงถือเป็นสิทธิที่ประชาชนสามารถที่จะกระทำได้ แต่กลับถูกภาครัฐใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเข้ามาดำเนินการ โดยการถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นประมาท จนทำให้ประชาชนไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล
ส่วนนายสมชาย หอมลออ คณะทำงานปกป้องนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน สภาทนายความ กล่าวว่า การประกาศสงครามยาเสพติดของรัฐบาลคือตัวอย่างการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่ชัดเจนสุด เพราะมีการฆ่าตัดตอนทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 2,000 คน แต่รัฐก็ยังไม่สามารถจัดการกับผู้ค้ารายใหญ่ได้ และที่สำคัญในปัจจุบันนี้ยาเสพติดได้กลับเข้ามาระบาดอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายสมชายยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพความคิดเห็น และการแสดงออกของประชาชน เพราะ ถือว่าในสังคมประชาธิปไตยการเคารพสิทธิซึ่งกันและกันสังคมจะสามารถดำรงอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ซึ่งไม่ใช่การเข้ามาคุกคามการใช้อำนาจการแสดงความคิดเห็นของประชาชนโดยใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายมาควบคุมสิทธิของประชาน