ตรัง - ประธานหอและผู้บริหารโรงงานปลากระป๋อง“ปุ้มปุ้ย”แห่งเมืองตรังยอมรับ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตราคาน้ำมันหนักหน่วง วอนรัฐเร่งช่วยเหลือโดยด่วนก่อนฉุดรั้งภาวะเศรษฐกิจโดยรวม
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลาว่า ขณะนี้ได้ทำให้โรงงานผลิตปลากระป๋อง “ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม”ของบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ซึ่งต้องใช้เป็นจำนวนมากทั้งในการอุตสาหกรรมและการขนส่งสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งยังส่งผลกระทบไปถึงวัตถุดิบที่สำคัญ คือ ปลาทะเล ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับปัญหาราคาน้ำมันแพงนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการทำประมงและทำให้มีการหยุดออกเรือประมงบ้างแล้ว เนื่องจากต้นทุนสำคัญของการทำประมงก็มาจากน้ำมันถึงร้อยละ 80 และหากราคาน้ำมันยังเพิ่มสูงขึ้นเรือประมงก็คงจะต้องหยุดทำการกันทั้งหมด ส่งผลให้วัตถุดิบเกิดความขาดแคลน และเกิดปัญหามาถึงโรงงานผลิตปลากระป๋องในที่สุด
“ถึงแม้ว่าภาครัฐจะมีการชดเชยราคาน้ำมันให้แก่เรือประมง แต่ก็คงจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ” นายสลิล กล่าว และว่า นอกจากนี้ ทางโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลกำลังประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านแรงงานที่กำลังไหลกลับไปสู่ภาคการเกษตร เนื่องจากราคายางพาราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนด้านค่าเงินบาทก็ประสบปัญหาแข็งตัวมากจนเกินไป ทำให้กระทบต่อเรื่องของการส่งออก และในด้านของอัตราการแลกเปลี่ยน
“จึงอยากขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจของ จ.ตรังและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตช้าลง” นายสลิลกล่าว
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานหอการค้าจังหวัดตรัง และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลาว่า ขณะนี้ได้ทำให้โรงงานผลิตปลากระป๋อง “ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม”ของบริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) เกิดความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะน้ำมันดีเซล ซึ่งต้องใช้เป็นจำนวนมากทั้งในการอุตสาหกรรมและการขนส่งสินค้าเพื่อนำไปจำหน่ายตามสถานที่ต่างๆ รวมทั้งยังส่งผลกระทบไปถึงวัตถุดิบที่สำคัญ คือ ปลาทะเล ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างแน่นอน
สำหรับปัญหาราคาน้ำมันแพงนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการทำประมงและทำให้มีการหยุดออกเรือประมงบ้างแล้ว เนื่องจากต้นทุนสำคัญของการทำประมงก็มาจากน้ำมันถึงร้อยละ 80 และหากราคาน้ำมันยังเพิ่มสูงขึ้นเรือประมงก็คงจะต้องหยุดทำการกันทั้งหมด ส่งผลให้วัตถุดิบเกิดความขาดแคลน และเกิดปัญหามาถึงโรงงานผลิตปลากระป๋องในที่สุด
“ถึงแม้ว่าภาครัฐจะมีการชดเชยราคาน้ำมันให้แก่เรือประมง แต่ก็คงจะไม่เพียงพอต่อความต้องการ” นายสลิล กล่าว และว่า นอกจากนี้ ทางโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารทะเลกำลังประสบปัญหาในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านแรงงานที่กำลังไหลกลับไปสู่ภาคการเกษตร เนื่องจากราคายางพาราอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่วนด้านค่าเงินบาทก็ประสบปัญหาแข็งตัวมากจนเกินไป ทำให้กระทบต่อเรื่องของการส่งออก และในด้านของอัตราการแลกเปลี่ยน
“จึงอยากขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาให้ความช่วยเหลือโดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจของ จ.ตรังและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตช้าลง” นายสลิลกล่าว