xs
xsm
sm
md
lg

ย้ำปฏิรูปการเมืองต้องไร้เงา"แม้ว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นักวิชาการ-ส.ว.-นักธุรกิจ ชูธงปฎิรูปการเมืองต้องไร้เงา"ทักษิณ"ปลอดไทยรักไทย ด้าน"หมอเหวง"จี้ กกต.ตัดสิทธิ์ส.ส.แพ้โนโหวต เสนอโมเดลคนกลางดึงรากหญ้าร่วมปฎิรูปการเมือง "หมอนิรันดร์" หนุน"เสน่ห์"เป็นตัวกลาง “นิด้า” ชี้ “แม้ว” เว้นวรรค ส่งผลดีต่อเอฟทีเอ-เมกกะโปรเจกต์-แปรรูปที่ไม่ต้องรีบทำ ขณะที่ เคซี พร็อพเพอร์ตี้ เปรียบ "แม้ว"เหมือนเศรษฐีเขมร รวยล้นฟ้าแต่ไร้แผ่นดินอยู่

ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย วานนี้ (12เม.ย.) ชมรมตุลาประชาธิปไตย ร่วมกับ กลุ่มเร่งรัดปฏิรูปการเมือง จัดเสวนาวิชาการ เรื่อง มองอนาคตเศรษฐกิจ-การเมืองไทย หลังทักษิณเว้นวรรค

น.พ.เหวง โตจิราการ ประธานสมาพันธ์ประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่สำนึกว่าตัวเองมีจุดอ่อน เพราะสังคมกำลังถามหาคุณธรรมและจริยธรรมของผูนำอยู่ โดยสะท้อนออกมาทางผลการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่มีคะแนนโนโหวตมากเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะกรณีที่ว่าที่ส.ส.ของพรรคแพ้คะแนนโนโหวต คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ควรวินิจฉัยว่าคนๆนั้น ไม่ได้รับการเลือกตั้ง รวมทั้งกกต.จะต้องพิจารณาตัวเองด้วยว่า ได้ปฏิบัติหน้าที่สมจตามจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่สามารถทำให้เกิดสภาได้ เพราะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของพ.ต.ท.ทักษิณ ตั้งแต่การยุบสภา ที่ถือเป็นการปัดความรับผิดชอบที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง แต่ไม่ได้ไม่ปัดความเสียหายที่เกิดขึ้นทางการเมืองไปด้วย สิ่งสำคัญตนไม่อยากจะโทษว่าเป็นความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีจุดอ่อนและข้อบกพร่องจริง คือ 1.ให้อำนาจกับฝ่ายบริหารมากเกินไป เพราะหากฝ่ายบริหารนำอำนาจนั้นไปใช้หาผลประโยชน์เข้าพรรคและพวกพ้องของตนเองก็ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ 2. ถึงแม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะก่อรูปองค์กรอิสระขึ้นมาเพื่อทัดทานอำนาจของฝ่ายบริหาร แต่ก็ถูกครอบงำโดยรัฐบาอย่างง่ายดาย โดยเฉพาขั้นตอนในการสรรหาที่ถูกครอบงำได้อย่างชัดเจน 3.อำนาจประชาชนที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญที่สามารถเข้าชื่อเพื่อเสนอกฎหมายได้ ก็ไม่ได้ ดังนั้นควรจะต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้อย่างละเอียดโดยข้อสำคัญต้องมีการตราไว้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลต้องปกป้องอธิปไตยของชาติ และป้องกันทุนต่างชาติและทุนผูกขาดในประเทศที่จะเข้ามาครอบงำประเทศไทย

"ผมขอเสนอโมเดลในการปฏิรูปการเมืองที่ไม่ใช่การนำของพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่จะต้องเป็นการนำของภาคประชาชน โดยพิจารณาจากสัดส่วนของประชาชนเป็นหลัก คือประชาชนส่วนล่าง 60เปอร์เซ็นต์ ส่วนกลาง 30 เปอร์เซ็นต์ และส่วนบนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ และนำตัวแทนเหล่านี้มาสะท้อนความคิดเห็น เพื่อนำเสนอสิ่งที่ต้องการตามเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องปราศจากการเมืองและต้องไม่มี พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาชักใยอยู่เบื้องหลัง หากพ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาเล่นการเมืองต้องสะสางปมเงื่อนของตัวเองให้สะอาด มิฉะนั้นวิกฤติจะกลับเข้ามาอีก" น.พ.เหวง กล่าว

ด้านนายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการคลัง จากสถาบันบัณฑิตพัฒบริหารศาสตร์(นิด้า) กล่าวว่า ทีเศรษฐกิจของไทยในช่วงไตรมาสที่ 1 ยังกระเตื้องอยู่เป็นเพราะแรงส่งจากปัจจัยภายนอกประเทศที่พยุงเอาไว้ แต่พอเขาสู่ไตรมาส 2 หลังจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เว้นวรรค นักลงทุนเริ่มมั่นใจในอนาคตทางเศรษฐกิจของตนเองมากขึ้น ที่ทำให้สามารถคาดเดาได้ว่าจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไร แต่ในระหว่างรอยต่อที่สำคัญที่มีการประกาศให้มีบุคคลขึ้นมารักษาการนายกฯแทน พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำให้เกิดปัญหา เพราะบุคคลที่รักษาการไม่สามารถเข้ามากำหนดนโยบายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจได้ และหากรอยต่อช่วงนี้ยืดเยื้อยาวนาน จะส่งผลต่อในด้านลบต่อเศรษฐกิจแน่นอน โดยเฉพาะโครงการเมกะโปรเจกต์ เอฟทีเอ และการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลชุดนี้เร่งรีบที่จะทำก็ส่งผลให้เกิดการชะงัก ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นผลดี เพราะโครงการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องใช้ความเร่งรีบ

น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ รักษาการ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เว้นวรรคจากการเป็นนายกฯ แต่ไม่ได้เว้นวรรคอำนาจทางการเมือง ขณะนี้ประเทศไทยเหมือนคนไข้ที่ป่วยหนักเข้าห้องไอซียู หัวใจหยุดเต้นแล้ว แต่ก็สามารถปั๊มหัวใจให้กลับมาเต้นอีกครั้งได้ ซึ่งหมอที่จะต้องรักษาโรคของประเทศไทยในตอนนั้นคือหมอทักษิณ แต่ดันไม่อยู่ แต่คนที่รักษาได้กับเป็นหมอเวรแทน เผอิญหมอทักษิณ กลับมาและบอกว่าจะดูแลคนไข้ที่ชื่อประเทศไทยเอง และเอาญาติของประเทศไทยซึ่งเปรียบเหมือนกับประชาชนมาดูไข้ และให้เลือกว่าจะให้ดูแลต่อไปหรือไม่ ซึ่งญาติ 3-4 คนก็ไม่กล้าบอกว่าจะให้ดูหรือเปล่า หมอทักษิณ จึงตัดสินปัญหาด้วยการตั้งลูกน้องขึ้นมาดูไข้แทน และหมอทักษิณก็ยังควบคุมลูกน้องคนนี้อยู่

"คุณทักษิณได้ทำประชาธิปไตยผิดเพี้ยนไป โดยสถาปนาระบอบทุนขึ้นมาครอบงำการทำงานขององค์กรอิสระ และรัฐสภาจนไม่สามารถจตรวจสอบอะไรที่ยิ่งกว่าการปกครองแบบประธานาธิบดีที่จะยิ่งสร้างความเลวร้ายให้กับสังคมไทยมากขึ้น และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้น ที่สร้างรัฐบาลและรัฐสภาพรรคเดียวจะไม่สามารถสร้างการปฏิรูปการเมืองให้เกิดขึ้นได้ เพราะอำนาจประชาชนจะถูกบั่นทอนลงเรื่อยๆ ผมจึงไม่อยากให้ทุกคนหลงเกมของคุณทักษิณว่าหลังจากที่เขาเว้นวรรคแล้วใครควรจะขึ้นมาเป็นนายกฯ เพราะถ้าใครขึ้นมาก็ยังเป็นคนที่ของเขาอยู่ดี"

น.พ.นิรันดร์ กล่าวต่อว่า ส่วนการปฏิรูปการเมือง ที่จะเกิดขึ้นจะต้องเป็นคนกลางเข้ามาดำเนินการ โดยใช้เวลา 3-6 เดือน และรัฐสภาต้องปลอดอำนาจทางการเมืองเข้ามาแทรกแซง นอกจากจะมีการแก้ไขในมาตรา 313 แล้ว จะมีการลดอำนาจฝ่ายบริหารและเพิ่มอำนาจประชาชนทุกอำนาจส่วน จึงจะทำให้การปฏิรูปการเมืองครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เพราะจากการที่ตนได้ไปหารือกับนายเสน่ห์ จามริก ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ก็สนใจในเรื่องการปฏิรูปการเมืองเช่นกัน ซึ่งตนเห็นว่าที่สำคัญที่สุดคือการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกไปและประกาศให้การเลือกตั้ง 2 เม.ย.เป็นโมฆะ เพราะเป็นการเลือกตั้งที่ผิดกฎหมาย

นายอภิสิทธิ์ งามอัจฉริยะกุล ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เคซี พร็อพเพอร์ตี้ กล่าวว่า จากการที่ได้สัมผัสช่วงผลัดเปลี่ยน และเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองหลายยุค ทำให้ตนทราบถึงวิวัฒนาการของการคอร์รัปชั่นที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน จะเห็นได้ชัดเจนว่าในสมัยก่อนจะเกิดจากการเข้าไปประมูลงานรับเหมาก่อสร้างที่ทหารจะเป็นรายใหญ่ในการประมูลงานและนำมาแบ่งให้กับบริษัทเอกชน แต่สมัยนี้เป็นการออกกฎหมายมาเพื่อเอื้อการคอร์รัปชั่น ตนคิดว่าหากจะมีการแต่งตั้งนายกฯคนใหม่ไม่จำเป็นต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกฯ แต่เป็นใครก็ได้ทีมีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความจริงใจในการแก้ปัญหาบ้านเมืองจริงๆ

"ผมเคยคุยกับเศรษฐีของประเทศเขมร ซึ่งเป็นคนมีเงินมหาศาล แต่เขาไม่ได้อยู่ในประเทศของเขา ผมจึงอยากบอกว่า ต่อให้รวยแค่ไหนถ้าไม่มีชาติอยู่ ก็ไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นเราควรที่จะหันหน้าเข้ามาแก้ปัญหาจริงจังเสียที" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น