xs
xsm
sm
md
lg

ค้านตั้งสภาสนามม้าแก้ รธน. บรรหารชี้มีมากยิ่งช้าเตรียมนัดให้ข้อคิด‘ทักษิณ’อีกรอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - “โภคิน” ปฎิเสธลั่นคณะผู้บริหารทรท.ไม่เอาด้วยกับรูปแบบสมัชชาสนามม้าในการแก้ไข รธน. เพียงแค่ติงว่าคณะผู้ปฎิรูปการเมืองต้องเป็นกลาง เผยรูปแบบคณะผู้แก้ไข รธน. ล่าสุดที่เตรียมเสนอสังคมจะมี 120 คนจากทุกสาขาอาชีพเข้าร่วม เชื่อบล็อตโหวตไม่ได้ ขณะที่ “บรรหาร” ค้านรูปแบบสมัชชาสนามม้า ชี้ยิ่งมากยิ่งช้า ต้องรีบปฏิรูปการเมืองแล้วเลือกตั้งใหม่ เตรียมนัดกินข้าว “ทักษิณ” เพื่อให้ข้อคิด หลังแอบกินหูฉลามกับ “แม้ว” มาแล้วหนึ่งรอบเมื่อค่ำ วันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เชื่อฝ่ายค้านเข้าใจไม่คิดมาก

นายโภคิน พลกุล รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงปฎิเสธข่าวที่ว่าคณะผู้บริหารไม่เห็นด้วยกับรูปแบบของคณะผู้แก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยใช้วิธีแบบสมัชชาสมามม้า โดยกล่าวว่า คณะผู้บริหารเพียงแต่เป็นห่วงว่ารูปแบบที่นำเสนอไปนั้นจะมีอิสระและได้คนที่เป็นกลางอย่างแท้จริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่พรรคเตรียมนำเสนอ ล่าสุดนั้น จะให้มีตัวแทนจากคนกลาง 120 คน โดยอิงกฎหมาย สภาที่ปรึกษา เศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก องค์ประกอบมาจาก 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มภาคเศรษฐกิจ กับ ภาคสังคม อย่างละ 40 คน และก็มีกลุ่มภาคเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีจำนวนมาก อีกประมาณ 20 คน โดยตัวแทน 100 คน นี้เป็นคนละอาชีพกัน ดังนั้น โอกาสที่จะถูกบล็อกเป็นเรื่องยาก

ส่วนตัวแทนจังหวัด จะให้องค์กรอาชีพ ซึ่งเราจะให้มาจดทะเบียน โดยจะใช้แบบเดียวกับสภาที่ปรึกษาฯ แล้วจะให้หน่วยธุรการที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียน ประกอบด้วย เลขาธิการ 5 องค์กร คือ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาที่ปรึกษาฯ ตั้งเป็นองค์กรร่วมในการดูหลักเกณฑ์ตรงนี้

ส่วนอีก 20 คนที่เหลือ เราก็จะใช้แนวทางของ สสร. โดยส่วนแรกมาจาก ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมหาชน นักรัฐศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญในการบริหาร ราชการแผ่นดิน หรือ นักสังคมศาสตร์ รวมถึงอดีต สสร. ส่วนที่ 2. จากตัวแทนของศาล เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ศาลยุติธรรม ส่วนที่ 3. ตัวแทนองค์กรอิสระอีก 7-8 องค์กร

“รูปแบบนี้เบื้องต้นเป็นตุ๊กตา จะเหมาะสมหรือไม่ก็มาว่ากัน แต่ต้องเสนอให้สังคมเห็นก่อนเพื่อให้วิจารณ์ได้ แต่พรรคยืนยัน เราไม่มีความต้องการที่จะครอบงำ การยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้เหมือนที่เป็นข่าว เพียงแต่คณะผู้บริหารกังวลว่า ที่ผมเสนออย่างนี้ จะมีใครหาว่า ครอบงำอะไรได้อีกไหม พรรคเข้าไปเกี่ยวข้องได้อีกไหม”

หลังสงกรานต์เสนอต้นร่างคณะแก้รธน.

นายโภคิน กล่าวว่า หลังเทศกาลสงกรานต์ พรรคจะพยายามเอาต้นร่าง มาเสนอต่อสาธารณะว่าใช้ได้หรือไม่ เป็นคนกลาง อิสระจริงหรือไม่ เพื่อให้วิจารณ์ ช่วงนี้เป็นช่วงเหมาะที่สุด เพราะกว่าสภาจะเรียบร้อย เราก็มาดีเบตตุ๊กตาตัวนี้เสียก่อน ยืนยันว่า พรรคไทยรักไทยไม่ต้องการไปแทรกแซง หรือไปยุ่งอะไร และจะไม่เอากลับมาให้รัฐสภาเห็นชอบ แม้แต่ยกร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว

ส่วนจะเปิดโอกาสให้ภาคสังคมมีส่วนร่วมกับการยกร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้อย่างไร นายโภคิน กล่าวว่า พอเราร่างเสร็จ ก็นำเสนอต่อสื่อ เพื่อนำเสนอต่อสังคมเมื่อมีเสียงวิจารณ์เราก็จะรับไปปรับปรุงข้อบกพร่อง อย่างไรก็ตามเมื่อสภาเปิดก็ต้องให้วุฒิสภาพร้อมด้วย ตอนนั้นก็อาจจะมีญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในร่างของเรา แต่หากใครมีข้อเสนอที่ดีกว่าก็จะเอาตามนั้น ส่วนจุดไหนมีปัญหาก็จะต้องชี้แจง

“ที่แน่ๆ เราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยในชั้นยกร่าง ถ้าได้คนกลาง มาแล้ว โดยไม่มีข้อสงสัย ก็จะแก้ไขมาตรา 313 ซึ่งจะมีคณะกรรมาธิการวิสามัญที่จะมาแก้ไข โดยปกติพรรคก็จะถูกต่อว่า ว่าเราครอบงำทั้งหมด เพราะส.ส.ส่วนใหญ่ เป็นของพรรคไทยรักไทย เราจึงคิดทางออกว่า อาจจะงดเว้นข้อบังคับการประชุมรัฐสภาและก็จะขอแก้ข้อบังคับ ขอให้มีคนนอกเข้ามา เช่น สมมติจะมีจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญ 50 คน เราอาจจะชวนตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค ที่จดทะเบียนกับ กกต. ทั้งยังมีตัวแทนจากสื่อมวลชนให้หลากหลายเข้ามาดูเพื่อให้ได้ คนกลางมายกร่างรัฐธรรมนูญ อีกที เท่ากับว่า เราเปิดสองรอบ รอบแรกเราไม่ต้องการให้เห็นว่าเราเป็นเสียงข้างมากให้ว่าไปตามกรรมาธิการ ซึ่งจะไม่มีประเด็นใดๆ ที่จะถูกต่อว่าได้”

ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคได้ให้นายโภคินไปปรึกษา พล.อ.เปรม ติณณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น นายโภคิน กล่าวว่า ตนไม่อยากไปเอ่ยถึงบุคคลอื่น มันไม่เหมาะสม และยิ่งท่านเป็นถึงประธานองคมนตรี แต่โดยหลักเมื่อร่างมาแล้ว เราก็เสนอต่อสาธารณะ ท่านใดเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง เช่น อดีตนายกฯ อย่าง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นายบรรหาร ศิลปอาชา หรือ อดีตประธานศาลฎีกาต่าง ๆ ตนอาจจะไปหารือก็ได้ในช่วงที่เราเอาร่างรัฐธรรมนูญไปฟังความเห็นประชาชน เพื่อให้ได้คำตอบว่า คนกลางที่ดีที่สุด ควรเป็นอย่างไร

ส่วนที่ห่วงกันว่าสภาจะไม่ครบ 500 คนนั้น นายโภคิน กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ เป็นเรื่องของการเลือกตั้งและ กกต. แต่อย่าลืมว่า ถ้าได้ ส.ส. ครบในช่วงสิ้นเดือน ก็ต้องรอ ส.ว. ชุดใหม่อีก ซึ่งกว่าจะประกาศรับรองได้เสร็จ 200 คน ก็ไม่รู้เมื่อไร ดังนั้น การจะเริ่มกระบวนการได้ก็ต่อเมื่อ สองสภาเรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ แท็กซี่ ที่สนับสนุนรัฐบาลจะมีโอกาส ร่วมด้วยหรือไม่ นายโภคิน กล่าวว่า แล้วแต่ เพราะเราอิงกฎหมายสภาที่ปรึกษา เศรษฐกิจฯ แล้วแต่เขา เขาก็อาจจะไปจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มเติมก็ได้ เราเปิดโอกาส ในช่วง 15 วันว่า ใครอยากจะมีส่วนร่วม ก็ไปจดทะเบียนจัดตั้งเป็นองค์กรและเสนอตัวแทนมาได้ ตัวแทนละ 1 คน พอเลือกกันแล้วก็ห้ามซ้ำอาชีพ ซ้ำองค์กร แต่จะทำหรือไม่ คงตอบไม่ได้ ความจริงมันอาจจะมีอาชีพอื่นอีก

“บรรหาร”ไม่เห็นด้วยสมัชชาสนามม้า

ด้าน นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่าที่พรรคไทยรักไทยเสนอให้ไปปรึกษา พล.อ.เปรมในเรื่องรูปแบบการปฏิรูปการเมือง คงไม่ใช่ เป็นการพูดไปเท่านั้นเอง เพราะถ้าเป็นแนวทางนี้ยิ่งไปกันใหญ่ อย่างนี้ 1 ปีก็ไม่เสร็จ ความจริงรัฐธรรมนูญแก้ไม่ยาก โดยแก้ไม่กี่ข้อที่เป็นประเด็นปัญหา ส่วนใหญ่รัฐธรรมนูญดีอยู่แล้ว แต่มีบางประเด็นเช่นการปลดล็อค 90 วัน ให้ส.ว.หาเสียงได้ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ไม่ต้องถึง 5 % รวมทั้งผู้รับเลือกตั้งที่ลงคนเดียวในเขตเดียว ต้องได้คะแนน 20 % ถ้าจะแก้กันจริง ๆใช้เวลาไม่เกิน 3-4 เดือน หรือย่างมาก 1 ปี ก็เสร็จ แล้วเลือกตั้งกันใหม่ แต่ถ้าเป็นสภาสนามม้าคิดว่าไม่เสร็จ อย่างไรก็ตามจะต้องเร่งรัดการปฎิรูปการเมือง เพราะมีสภาเพียงพรรคเดียวอย่างนี้ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเกมของพรรคไทยรักไทยเพื่อดึงเวลาหรือไม่ หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า ตอนนี้ดึงเวลากันไม่ได้แล้ว ต้องเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเลือกตั้งให้เร็วที่สุด ปล่อยให้สภามีพรรคเดียวไม่ได้ ส่วนจะเป็นรูปแบบไหนคงตอบไม่ได้ แต่ขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุดก็แล้วกัน เมื่อถามว่ากระบวนการที่เป็นกลางที่สุดควรจะเป็นอย่างไร นายบรรหาร กล่าวว่า คงต้องไปคิดกันอีกที แต่ตนไม่ใช่คนคิด

ส่วนผู้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนหากทิ้งเวลานานไปจะมีปัญหาหรือไม่นั้น นายบรรหาร กล่าวว่าเข้าใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรคงมีอยู่ในใจแล้ว แต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง ท่านคงรอดูว่าจะเปิดสภาได้หรือเปล่า ถ้าเลือกตั้งรอบใหม่ในวันที่ 23 เม.ย.ไม่จบก็ต้องต่อไปอีก อาจจะมีการยื่นศาลปกครอง และเลยไปถึงเดือน พ.ค. ฉะนั้นตัวนายกฯคงจะกำหนดไม่ได้ ต้องรอดูว่าจะเปิดสภาได้เมื่อไหร่ก่อน เมื่อถามว่าหากสภาเปิดไม่ได้อาจจะกลับเข้าไปสู่ช่องทางใช้มาตรา 7 หรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า รอให้ถึงตรงนั้นค่อยว่ากันอีกที ขณะนี้ยังไปไม่ถึง

เตรียมนัด“ทักษิณ”กินหูฉลาม

ส่วนการรับประทานอาหารร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนายกฯก็บอกว่า ตกงานคงไม่มีใครรับเลี้ยงนั้น นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่เป็นไรตนจะเลี้ยงท่านก่อน ไปต่างประเทศ กำลังจะนัดอยู่ ภายใน 1-2 วันนี้ จะเลี้ยงท่านเอง เพราะมีเรื่องที่จะคุยกับท่านมากมาย

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวหรือไม่ว่าคุยกันแล้วพอออกไปข้างนอกนายกฯอาจจะเปลี่ยนท่าทีอีก นายบรรหาร กล่าวว่า ตอนนี้มันจบแล้ว ไม่มีอะไรที่จะกลัวว่ามีการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่ได้ตกลงอะไรกัน การเลือกตั้งก็ผ่านไปแล้ว เพราะฉะนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวอะไร แต่จะคุยกันในเรื่องกว้าง ๆ จะคุยว่าอะไรถูกต้องไม่ถูกต้อง มันควรจะเป็นอย่างไร บางอย่างก็จะให้ข้อคิดกับท่าน ทำอย่างไรถึงจะอยู่อย่างสุขกายสบายใจ ไม่ทนทุกข์ทรมาน

ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าเมื่อเสนอแนะอะไรนายกฯจะรับฟัง นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่เกี่ยวตนไม่ได้เสนอแนะอะไร เป็นเพียงให้ข้อคิดเท่านั้นเอง ส่วนท่านจะทำตามหรือเปล่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็คงไม่หวาดระแวงอะไร คนละเรื่องกัน นี่เป็นเรื่องส่วนตัว เมื่อถามว่าเป็นการรับประทานอาหารฉันท์พี่น้อง นายบรรหาร กล่าวว่า ไม่รู้ซิ จะเป็นหรือเปล่าก็ไม่รู้

อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับประทานหูฉลามกับนายบรรหารไปแล้ว เมื่อค่ำวันที่ 10 เม.ย. ที่ร้านซ้ง ปิ่นเกล้า และคาดว่าจะมีการนัดรับประทานอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางไปต่างประเทศ ในสัปดาห์นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น