"แม้ว"ไปกินข้าวที่สยามพารากอน เจอเสียงตะโกน "ทักษิณ..ออกไป" หลบไปปราศรัยหาเสียงที่อาคารใบหยก เรียกร้องให้ประชาชนไปเลือกตั้ง 2 เม.ย. พร้อมไล่"มหาจำลอง"เลิกกู้ชาติ ไปเลี้ยงสุนัขดีกว่า จวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตัวการทำเศรษฐกิจเสียหาย ขู่คนกรุงถ้าไม่ไปเลือกตั้งจะไม่ได้ใช้รถไฟฟ้า
เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เก็บตัวอยู่ที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า จนกระทั่งเวลา 11.00 น. จึงออกมาพบปะประชาชน และรับประทานอาหารกลางวัน ที่ห้างสยามพารากอน ที่ร้านเกร์ฮาว คาเฟ่ พร้อมกับนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ น.ต.ศิธา ทิวารี นางสาวศุภมาศ อิศรภักดี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวและสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนรถของพ.ต.ท.ทักษิณ เลี้ยวเข้าบริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้มีผู้ชาย 2 คน ที่ยืนอยู่บริเวณรถไฟฟ้า ได้พากันตะโกนว่า "ทักษิณ..ออกไป ทักษิณ..ออกไป" แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าไปสกัดออกไป
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ไปที่อาคารใบหยกทาวเวอร์ 1 และ 2 โดยมีประชาชนพ่อค้า และชาวต่างชาติมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอลายเซ็นจำนวนมาก พร้อมกับมีเสียงตะโกน "ทักษิณ สู้ ๆ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกจากสยามพารากอน ได้มี ชายหญิงคู่หนึ่ง ใส่เสื้อยืดสีขาวไล่ทักษิณ สกรีนข้างหลังว่า "ออกไป ออกไป" มายืนรอนายกรัฐมนตรีอยู่บริเวณประตู เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินลงมา ชายคนนั้นได้พยายามถ่ายรูป แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กันและไม่ให้เข้าไปใกล้ๆ ตัวนายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี บางคนได้ชี้ไปที่ ตัวอักษรข้างหลังเสื้อของชายคนนั้น รวมทั้งได้มีแกนนำพรรคไทยรักไทย หลายคนพยายามยืนที่จะยืนบัง เบียด สกัดชายคนนั้นไว้จนออกนอกหน้า เช่น น.ต.ศิธา ธิวารี นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ชายดังกล่าวไม่พอใจ ที่ไม่สามารถที่จะยืนบริเวณนั้นได้ และถ่ายรูปนายกรัฐมนตรีเหมือนกับประชาชนคนอื่นๆ ทั่วไป ที่มารอถ่ายรูป ขอลายเซ็นต์นายกรัฐมนตรี จนมีปากเสียงกัน กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่พยายามสกัดเขาออกไปตลอดเวลา
**"แม้ว"ไล่"มหาจำลอง"ไปเลี้ยงสุนัข
พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปราศรัยกับประชาชนที่หน้าอาคารใบหยก 2 ว่า ไม่ห่วงอะไรนอกจากอนาคตประเทศ ตอนนี้ต่างประเทศตกใจว่ามืองไทยไม่มีประชาธิปไตยที่น่าเชื่อถือแล้ว รัฐบาลที่มี ส.ส.377 คน กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งทั้งฝ่ายค้าน และส.ว.บางคนร่วมกันขับไล่จนเป็นเหตุให้ยุบสภา
"ผมไม่ต้องการให้มีอะไรรุนแรง ผมจึงยุบสภาให้ประชาชนตัดสิน แต่คนบางกลุ่มไม่ยอม คิดว่าตัวเองเก่ง และฉลาดกว่าคนทั้งประเทศ จึงยืนปักหลัก และพูดว่างานกาชาดก็ไม่สำคัญกว่าการกู้ชาติ ทำแบบนี้ประเทศเสียหาย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวและว่า คนที่มาบอกว่า กู้ชาติ บางคนไม่ทำมาหากิน บางคนก็ล้มละลาย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เลี้ยงสุนัขกว่า 2,000 ตัวยังไม่รอด ต้องมาขอข้าวคนอื่นไปเลี้ยงเลย แล้วจะมากู้ชาติ จะรอดหรือ ไปเลี้ยงสุนัขดีกว่า
.. ขอให้พี่น้องไปบอกกันว่า ประชาธิปไตยเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของพวกเอ็ง 2 เม.ย. ขอให้ไปสิทธิให้ถล่มทลาย หากจะใช้ผมเป็นนายกฯต่อ แต่หากได้เสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง จะไม่เป็นนายกฯแน่นอน แต่การจะเป็นนายกฯหรือไม่เป็นนายกฯ ไม่สำคัญเท่ากับการหนี หรือเว้นวรรคประชาธิปไตย หากทำแบบนั้นก็ตัวใครตัวมัน ประชาธิปไตย และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจคู่กัน" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว และว่า
หากเว้นวรรคประชาธิปไตย ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจก็หายไป เว้นวรรคเมื่อใด รถไฟฟ้า 300 กม. เกิดขึ้นในกรุงเทพฯไม่ได้แน่เพราะไม่มีใครเอาเงินมาให้ หน้าตาอย่าง พล.ต.จำลอง และนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่ง ในแกนนำกลุ่มพันธมิตร ประเทศไหนจะเอาเงินมาให้ หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำอะไรมาบ้าง บางคนที่ไม่มีอะไร มาแบบเสื่อผืนหมอนใบ ไปหาเอาดาบหน้า ทำแบบนั้นง่ายไป
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ไม่ได้เรียกร้องให้เลือกตน แต่ขอให้ไปรักษาประชาธิปไตย เลือกใครก็ได้ขอให้ประชาธิปไตยยืนอยู่อย่าเว้นวรรคเพราะพวกบ้า 2-3 คนที่บอกว่างานกาชาดไม่สำคัญ วันนี้การจราจรติดขัดเต็มไปหมดแล้ว
"คนพวกนั้นบอกว่าอย่าบ่น เพราะอยู่ในรถติดแอร์ แต่คนพวกนั้นบอกว่าร้อนกว่าเยอะ แล้วใครใช้ให้มาวะ คนเขาอยากให้ไปที่ชอบๆ อยู่แล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
**"เจ๊หน่อย"อ้างม็อบขวางจัดงานกาชาด
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวขณะลงพื้นที่ บริเวณสวนลุมพินี เพื่อช่วยผู้สมัครส.ส. กทม.ของพรรคหาเสียง ว่า วันที่ 2 เม.ย.นี้ เป็นคำตอบสุดท้ายที่ทุกฝ่ายต้องรับฟัง หากประชาชนให้พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดทำงานก็พร้อมจะหยุด แต่หากประชาชนให้เสียงพ.ต.ท.ทักษิณ ทำงานต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุด เพราะวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังพินาศ ทำให้หุ้นตกและการจัดงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องเลื่อนออกไป
"วันนี้จะเอาคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีกี่หมื่นกี่แสนก็แล้วแต่ แล้วเอามาอ้างเสียงประชาชนทั้งประเทศไม่ถูกต้อง เสียงประชาชนที่แท้จริง เจ้าของประเทศที่แท้จริง จะออกเสียงกันเองในวันที่ 2 เม.ย.นี้ เมื่อออกเสียงมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยุติตามนั้น ดังนั้น ขอเรียกร้องประชาชนใช้พลังประชาชนกดดันม็อบให้ยอมรับผลการเลือกตั้ง และขอให้ยุติ เราจะได้เข้าสู่การเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว และว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอยู่บริเวณแยกสวนมิสกวัน ที่ไม่ยอมย้ายสถานที่ชุมนุม ทั้งที่จะจัดงานกาชาดประจำปี 2549 ว่าเป็นเรื่องน่าละอายที่สุด เพราะงานกาชาดจัดมากว่า 80 ปีแล้ว ทุกหน่วยงานที่เข้าไปจัดต้องก่อสร้างสถานที่ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมขยับให้แม้แต่แยกเดียว ทั้งที่งานกาชาด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน การให้ย้ายไปจัดที่ถนนราชดำเนินนอกเป็นไปไม่ได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อการจราจร สำหรับรถที่ข้ามไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า ตรงนี้เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องคิดแล้วว่า ม็อบที่ขับไล่นายกรัฐมนตรี คือปัญหาทำให้เศรษฐกิจพัง กระทบงานสำคัญ ๆ ของบ้านเมือง
สำหรับกรณีที่ยังมีความพยายามให้เกิดการเจรจา 3 ฝ่าย แต่ยื่นเงื่อนไขให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเจรจาคือการเปิดใจให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน แต่การยื่นข้อเสนอเช่นนี้ คือการยื่นเงื่อนไขไม่ใช่การเจรจา ถ้ารักชาติจริง อยากกู้ชาติ ต้องแสดงความจริงใจ ไม่ใช่บอกว่าเป็นขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่กลับไม่ยอมรับการเลือกตั้ง
ส่วนที่หลายฝ่ายไม่มั่นใจระบบการตรวจสอบการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งมีอยู่ทั่วประเทศ จะโกงอะไรได้ทั้งประเทศ เป็นไปไม่ได้ เพราะมีสื่อจับตาอยู่ วันนี้หูตาเป็นสับปะรด การออกมาพูดเช่นนี้ เหมือนอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกกลับมาจะเร่งปฏิรูปการเมืองให้เร็วที่สุด
เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้เก็บตัวอยู่ที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้า จนกระทั่งเวลา 11.00 น. จึงออกมาพบปะประชาชน และรับประทานอาหารกลางวัน ที่ห้างสยามพารากอน ที่ร้านเกร์ฮาว คาเฟ่ พร้อมกับนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ น.ต.ศิธา ทิวารี นางสาวศุภมาศ อิศรภักดี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวและสื่อมวลชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อขบวนรถของพ.ต.ท.ทักษิณ เลี้ยวเข้าบริเวณศูนย์การค้าสยามพารากอน ได้มีผู้ชาย 2 คน ที่ยืนอยู่บริเวณรถไฟฟ้า ได้พากันตะโกนว่า "ทักษิณ..ออกไป ทักษิณ..ออกไป" แต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าไปสกัดออกไป
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ไปที่อาคารใบหยกทาวเวอร์ 1 และ 2 โดยมีประชาชนพ่อค้า และชาวต่างชาติมอบดอกไม้ให้กำลังใจ และขอลายเซ็นจำนวนมาก พร้อมกับมีเสียงตะโกน "ทักษิณ สู้ ๆ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่ พ.ต.ท.ทักษิณ จะออกจากสยามพารากอน ได้มี ชายหญิงคู่หนึ่ง ใส่เสื้อยืดสีขาวไล่ทักษิณ สกรีนข้างหลังว่า "ออกไป ออกไป" มายืนรอนายกรัฐมนตรีอยู่บริเวณประตู เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินลงมา ชายคนนั้นได้พยายามถ่ายรูป แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กันและไม่ให้เข้าไปใกล้ๆ ตัวนายกรัฐมนตรี โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของนายกรัฐมนตรี บางคนได้ชี้ไปที่ ตัวอักษรข้างหลังเสื้อของชายคนนั้น รวมทั้งได้มีแกนนำพรรคไทยรักไทย หลายคนพยายามยืนที่จะยืนบัง เบียด สกัดชายคนนั้นไว้จนออกนอกหน้า เช่น น.ต.ศิธา ธิวารี นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี ทำให้ชายดังกล่าวไม่พอใจ ที่ไม่สามารถที่จะยืนบริเวณนั้นได้ และถ่ายรูปนายกรัฐมนตรีเหมือนกับประชาชนคนอื่นๆ ทั่วไป ที่มารอถ่ายรูป ขอลายเซ็นต์นายกรัฐมนตรี จนมีปากเสียงกัน กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่พยายามสกัดเขาออกไปตลอดเวลา
**"แม้ว"ไล่"มหาจำลอง"ไปเลี้ยงสุนัข
พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปราศรัยกับประชาชนที่หน้าอาคารใบหยก 2 ว่า ไม่ห่วงอะไรนอกจากอนาคตประเทศ ตอนนี้ต่างประเทศตกใจว่ามืองไทยไม่มีประชาธิปไตยที่น่าเชื่อถือแล้ว รัฐบาลที่มี ส.ส.377 คน กลับถูกคนกลุ่มหนึ่งทั้งฝ่ายค้าน และส.ว.บางคนร่วมกันขับไล่จนเป็นเหตุให้ยุบสภา
"ผมไม่ต้องการให้มีอะไรรุนแรง ผมจึงยุบสภาให้ประชาชนตัดสิน แต่คนบางกลุ่มไม่ยอม คิดว่าตัวเองเก่ง และฉลาดกว่าคนทั้งประเทศ จึงยืนปักหลัก และพูดว่างานกาชาดก็ไม่สำคัญกว่าการกู้ชาติ ทำแบบนี้ประเทศเสียหาย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวและว่า คนที่มาบอกว่า กู้ชาติ บางคนไม่ทำมาหากิน บางคนก็ล้มละลาย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เลี้ยงสุนัขกว่า 2,000 ตัวยังไม่รอด ต้องมาขอข้าวคนอื่นไปเลี้ยงเลย แล้วจะมากู้ชาติ จะรอดหรือ ไปเลี้ยงสุนัขดีกว่า
.. ขอให้พี่น้องไปบอกกันว่า ประชาธิปไตยเป็นของทุกคน ไม่ใช่ของพวกเอ็ง 2 เม.ย. ขอให้ไปสิทธิให้ถล่มทลาย หากจะใช้ผมเป็นนายกฯต่อ แต่หากได้เสียงน้อยกว่ากึ่งหนึ่ง จะไม่เป็นนายกฯแน่นอน แต่การจะเป็นนายกฯหรือไม่เป็นนายกฯ ไม่สำคัญเท่ากับการหนี หรือเว้นวรรคประชาธิปไตย หากทำแบบนั้นก็ตัวใครตัวมัน ประชาธิปไตย และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจคู่กัน" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว และว่า
หากเว้นวรรคประชาธิปไตย ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจก็หายไป เว้นวรรคเมื่อใด รถไฟฟ้า 300 กม. เกิดขึ้นในกรุงเทพฯไม่ได้แน่เพราะไม่มีใครเอาเงินมาให้ หน้าตาอย่าง พล.ต.จำลอง และนายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่ง ในแกนนำกลุ่มพันธมิตร ประเทศไหนจะเอาเงินมาให้ หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ทำอะไรมาบ้าง บางคนที่ไม่มีอะไร มาแบบเสื่อผืนหมอนใบ ไปหาเอาดาบหน้า ทำแบบนั้นง่ายไป
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ไม่ได้เรียกร้องให้เลือกตน แต่ขอให้ไปรักษาประชาธิปไตย เลือกใครก็ได้ขอให้ประชาธิปไตยยืนอยู่อย่าเว้นวรรคเพราะพวกบ้า 2-3 คนที่บอกว่างานกาชาดไม่สำคัญ วันนี้การจราจรติดขัดเต็มไปหมดแล้ว
"คนพวกนั้นบอกว่าอย่าบ่น เพราะอยู่ในรถติดแอร์ แต่คนพวกนั้นบอกว่าร้อนกว่าเยอะ แล้วใครใช้ให้มาวะ คนเขาอยากให้ไปที่ชอบๆ อยู่แล้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
**"เจ๊หน่อย"อ้างม็อบขวางจัดงานกาชาด
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวขณะลงพื้นที่ บริเวณสวนลุมพินี เพื่อช่วยผู้สมัครส.ส. กทม.ของพรรคหาเสียง ว่า วันที่ 2 เม.ย.นี้ เป็นคำตอบสุดท้ายที่ทุกฝ่ายต้องรับฟัง หากประชาชนให้พ.ต.ท.ทักษิณ หยุดทำงานก็พร้อมจะหยุด แต่หากประชาชนให้เสียงพ.ต.ท.ทักษิณ ทำงานต่อกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องหยุด เพราะวันนี้กลุ่มผู้ชุมนุมทำให้เศรษฐกิจของประเทศพังพินาศ ทำให้หุ้นตกและการจัดงานเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต้องเลื่อนออกไป
"วันนี้จะเอาคนกลุ่มหนึ่ง ที่มีกี่หมื่นกี่แสนก็แล้วแต่ แล้วเอามาอ้างเสียงประชาชนทั้งประเทศไม่ถูกต้อง เสียงประชาชนที่แท้จริง เจ้าของประเทศที่แท้จริง จะออกเสียงกันเองในวันที่ 2 เม.ย.นี้ เมื่อออกเสียงมาอย่างไร ทุกฝ่ายต้องยุติตามนั้น ดังนั้น ขอเรียกร้องประชาชนใช้พลังประชาชนกดดันม็อบให้ยอมรับผลการเลือกตั้ง และขอให้ยุติ เราจะได้เข้าสู่การเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว และว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ชุมนุมอยู่บริเวณแยกสวนมิสกวัน ที่ไม่ยอมย้ายสถานที่ชุมนุม ทั้งที่จะจัดงานกาชาดประจำปี 2549 ว่าเป็นเรื่องน่าละอายที่สุด เพราะงานกาชาดจัดมากว่า 80 ปีแล้ว ทุกหน่วยงานที่เข้าไปจัดต้องก่อสร้างสถานที่ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมขยับให้แม้แต่แยกเดียว ทั้งที่งานกาชาด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน การให้ย้ายไปจัดที่ถนนราชดำเนินนอกเป็นไปไม่ได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อการจราจร สำหรับรถที่ข้ามไปยังสะพานพระปิ่นเกล้า ตรงนี้เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องคิดแล้วว่า ม็อบที่ขับไล่นายกรัฐมนตรี คือปัญหาทำให้เศรษฐกิจพัง กระทบงานสำคัญ ๆ ของบ้านเมือง
สำหรับกรณีที่ยังมีความพยายามให้เกิดการเจรจา 3 ฝ่าย แต่ยื่นเงื่อนไขให้นายกรัฐมนตรีลาออกนั้น รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การเจรจาคือการเปิดใจให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน แต่การยื่นข้อเสนอเช่นนี้ คือการยื่นเงื่อนไขไม่ใช่การเจรจา ถ้ารักชาติจริง อยากกู้ชาติ ต้องแสดงความจริงใจ ไม่ใช่บอกว่าเป็นขบวนการประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่กลับไม่ยอมรับการเลือกตั้ง
ส่วนที่หลายฝ่ายไม่มั่นใจระบบการตรวจสอบการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การเลือกตั้งมีอยู่ทั่วประเทศ จะโกงอะไรได้ทั้งประเทศ เป็นไปไม่ได้ เพราะมีสื่อจับตาอยู่ วันนี้หูตาเป็นสับปะรด การออกมาพูดเช่นนี้ เหมือนอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อน ทั้งนี้ ยืนยันว่า หากพรรคไทยรักไทยได้รับเลือกกลับมาจะเร่งปฏิรูปการเมืองให้เร็วที่สุด