สหพัฒน์ฯ ชูแนวรบผลิตสินค้าเพื่อสุขภาพ ปั๊มยอดขายรวมพุ่ง 1.7 หมื่นล้านบาท นำร่องกลุ่มของกินสินค้าเรือธงสร้างรายได้ 60% ปั้น 3 แบรนด์ใหม่แจ้งเกิด ปูพรม 40 ล้านบาท เปิดตัว "มิซุ" น้ำผลไม้ผสมคอลลาเจนแจ้งเกิด สิ้นปีกวาดยอดขาย 150 ล้านบาท โกยแชร์ 10%
นายสุรัตน์ เกตุรัตนกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า นโยบายโดยรวมปีนี้ของสหพัฒน์จะเน้นพัฒนาและผลิตสินค้าในแนวเพื่อสุขภาพทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคและสินค้าบริโภค ภายใต้งบวิจัยและพัฒนากว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรงและผู้บริโภคไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สำหรับสินค้าในแนวสุขภาพของสหพัฒน์จะเน้นเจาะตลาดแมสเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้ ทั้งนี้หลังจากปีนี้ที่หันมาชูโรงพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพ จะช่วยผลักดันผลประกอบการโดยรวมของสหพัฒน์มีอัตราการโตเกือบ 20% หรือมีรายได้ 17,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 14,000 ล้านบาท
ล่าสุดในกลุ่มสินค้าบริโภค ซึ่งนับว่ากลุ่มเรือธงที่สร้างรายได้ให้กับสหพัฒน์ โดยมีสัดส่วนถึง 60% ของรายได้รวม ปีนี้ได้เตรียมเปิดตัวสินค้าเพื่อสุขภาพ 3 แบรนด์ใหม่ หรือประมาณ 10 รายการ นำร่องด้วยการเปิดตัวน้ำผลไม้ผสมคอลลาเจน 30% ภายใต้แบรนด์ "มิซุ" โลโก้เป็นเฮลโลคิตตี้ ซึ่งบริษัทได้ไลเซนส์มาจากซานริโอ จากนั้นภายในปีนี้จะเปิดตัวอีก 2 แบรนด์ใหม่ ทั้งนี้การการเปิดตัวน้ำผลไม้มิซุ นับว่าเป็นการประกาศรุกตลาดน้ำผลไม้ครั้งแรกของสหพัฒน์ เพราะเป็นแบรนด์ที่ถูกพัฒนา และสหพัฒน์เป็นผู้ทำการตลาด รวมไปถึงการเป็นผู้จัดจำหน่าย จากที่ผ่านมาแม้ว่าบริษัทจะมีน้ำผลไม้แต่ก็เป็นผู้จัดจำหน่ายเท่านั้น
สำหรับงบการตลาดน้ำผลไม้มิซุวางไว้ที่ 40 ล้านบาท โดยได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ซึ่งล่าสุดได้ดึง "โฟร์-มด" ศิลปินนักร้องจากค่ายอาร์เอสมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแก่ผู้บริโภค พร้อมทั้งแจกสินค้าตัวอย่าง การผลิตของที่ระลึกเฮลโลคิตตี้ การจัดรายการชิงโชค จัดแคมปัสทัวร์โรงเรียนมัธยมในช่วงเปิดเทอม เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 12-18 ปี โดยน้ำผลไม้มิซุ ประกอบด้วย 3 รสชาติ ได้แก่ ส้ม องุ่น และเบอรี่ ขนาด 350 มล.จำหน่ายราคา 17 บาท ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีเตรียมผลิตขนาด 1 ลิตรออกจำหน่าย
ด้านการกระจายสินค้าขณะนี้ในกรุงเทพฯครอบคลุม 20% แล้ว ในช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งตู้แช่ต่างๆ ส่วนตลาดต่างจังหวัดจะเริ่มทยอยกระจายสินค้าให้ครอบคลุม นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมนำน้ำผลไม้มิซุขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินโดจีน ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่โฮจิมินห์ เวียดนาม สำหรับแนวโน้มตลาดน้ำผลไม้ 25-40% มูลค่า 1,400-1,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีแรกไว้ที่ 150 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 10%
นายสุรัตน์ เกตุรัตนกุล ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ 2 บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า นโยบายโดยรวมปีนี้ของสหพัฒน์จะเน้นพัฒนาและผลิตสินค้าในแนวเพื่อสุขภาพทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคและสินค้าบริโภค ภายใต้งบวิจัยและพัฒนากว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ทั้งนี้เพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรงและผู้บริโภคไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น สำหรับสินค้าในแนวสุขภาพของสหพัฒน์จะเน้นเจาะตลาดแมสเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในตลาดนี้ ทั้งนี้หลังจากปีนี้ที่หันมาชูโรงพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพ จะช่วยผลักดันผลประกอบการโดยรวมของสหพัฒน์มีอัตราการโตเกือบ 20% หรือมีรายได้ 17,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 14,000 ล้านบาท
ล่าสุดในกลุ่มสินค้าบริโภค ซึ่งนับว่ากลุ่มเรือธงที่สร้างรายได้ให้กับสหพัฒน์ โดยมีสัดส่วนถึง 60% ของรายได้รวม ปีนี้ได้เตรียมเปิดตัวสินค้าเพื่อสุขภาพ 3 แบรนด์ใหม่ หรือประมาณ 10 รายการ นำร่องด้วยการเปิดตัวน้ำผลไม้ผสมคอลลาเจน 30% ภายใต้แบรนด์ "มิซุ" โลโก้เป็นเฮลโลคิตตี้ ซึ่งบริษัทได้ไลเซนส์มาจากซานริโอ จากนั้นภายในปีนี้จะเปิดตัวอีก 2 แบรนด์ใหม่ ทั้งนี้การการเปิดตัวน้ำผลไม้มิซุ นับว่าเป็นการประกาศรุกตลาดน้ำผลไม้ครั้งแรกของสหพัฒน์ เพราะเป็นแบรนด์ที่ถูกพัฒนา และสหพัฒน์เป็นผู้ทำการตลาด รวมไปถึงการเป็นผู้จัดจำหน่าย จากที่ผ่านมาแม้ว่าบริษัทจะมีน้ำผลไม้แต่ก็เป็นผู้จัดจำหน่ายเท่านั้น
สำหรับงบการตลาดน้ำผลไม้มิซุวางไว้ที่ 40 ล้านบาท โดยได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ซึ่งล่าสุดได้ดึง "โฟร์-มด" ศิลปินนักร้องจากค่ายอาร์เอสมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้และจดจำแก่ผู้บริโภค พร้อมทั้งแจกสินค้าตัวอย่าง การผลิตของที่ระลึกเฮลโลคิตตี้ การจัดรายการชิงโชค จัดแคมปัสทัวร์โรงเรียนมัธยมในช่วงเปิดเทอม เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 12-18 ปี โดยน้ำผลไม้มิซุ ประกอบด้วย 3 รสชาติ ได้แก่ ส้ม องุ่น และเบอรี่ ขนาด 350 มล.จำหน่ายราคา 17 บาท ซึ่งหากได้รับการตอบรับที่ดีเตรียมผลิตขนาด 1 ลิตรออกจำหน่าย
ด้านการกระจายสินค้าขณะนี้ในกรุงเทพฯครอบคลุม 20% แล้ว ในช่องทางร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น รวมทั้งตู้แช่ต่างๆ ส่วนตลาดต่างจังหวัดจะเริ่มทยอยกระจายสินค้าให้ครอบคลุม นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมนำน้ำผลไม้มิซุขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในอินโดจีน ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่โฮจิมินห์ เวียดนาม สำหรับแนวโน้มตลาดน้ำผลไม้ 25-40% มูลค่า 1,400-1,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทตั้งเป้ายอดขายปีแรกไว้ที่ 150 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่ง 10%