วีจีไอผนึกไอทีวี เสนอข่าวผ่านจอพลาสม่าบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส คาดเริ่มเร็วๆนี้ ด้านวีจีไอวางแผนรุกหนักปีนี้ เตรียมลุยสื่อโฆษณาใหม่ๆ ประเดิมจอแอลซีดีทีวีในตู้รถไฟฟ้า ลงทุนอีก 100 ล้านบาทรองรับคาดสิ้นปีทยอยให้บริการได้ เผยแนวโน้มขายพื้นที่โฆษณาเหมาทั้งสถานีมีสิทธิ์บูมหลังนำร่องกับกลุ่มจีอีไปแล้ว
แหล่งข่าวจากบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้บริหารพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่โฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทฯได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยทางไอทีวีได้ติดต่อมายังบริษัทฯเพื่อการนำเสนอข่าวผ่านจอพลาสม่า เพื่อเป็นการรายงานข่าวสารต่างๆให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์
ขณะเดียวกันบริษัทฯเองก็มีความสนใจเพราะจะได้บริการข่าวสารให้กับประชาชนได้ ถือเป็นการสร้างบริการใหม่ๆ ในฐานะเจ้าของพื้นที่โครงการดังกล่าวนี้ทางไอทีวีจะเป็นผู้นำเสเนอรายการข่าวต่างๆที่เกิดขึ้น
ขณะที่บริษัทฯเองเป็นผู้รับผิดชอบทางด้านฮาร์ดแวร์และระบบ ถือเป็นการนำเสนอจุดแข็งของทั้งคู่มาร่วมกัน ในลักษณะการแลกเปลี่ยน แต่บริษัทฯสามารถที่จะขายเวลาโฆษณาในช่วงต้นและจบได้ ซึ่งเบื้องต้นนี้คาดว่าจะนำเสนอข่าว 3 ช่วงต่อชั่วโมง ผ่านจอทีวีพลาสม่าเท่านั้นบนชานชลา จำนวน 56 จอคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลอง การทำงานอยู่
ปัจจุบันวีจีไอ มีจอพลาสม่าทีวีแบบนี้ประมาณ 2-4 จอบน 1 ชานชลา และมีทั้งสิ้นจำนวน 15 สถานี ไม่ครบทุกสถานี โดยเปิดบริการสื่อประเภทนี้มานานแล้ว 3 ปี จากตอนแรกมี 11 สถานี โดยเนื้อหาที่นำเสนอก่อนหน้านี้ จะมีหลากหลายเช่น เพลง มิวสิควิดีโอ ข่าวต่างๆ
ความเคลื่อนไหวของไอทีวีที่ร่วมมือกับวีจีไอครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำสถานีข่าวของไอทีวีโดยการขยายช่องทางการนำเสนอออกไปให้มีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยคอนเซ็ปท์ ไอทีวีนิวส์ ออน นิว มีเดีย (ITV News on New Media) เช่น พลาสม่าทีวีบนบีทีเอส, สื่อในลิฟท์อาคารสำนักงานชั้นนำโดยบริษัท พีโอวี มีเดีย, โปรเจคเตอร์ 108 จอบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จำนวน 18 สถานี โดยฮาวคัมเอนเตอร์เทนเม้นท์, จอแอลซีดีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดย เทคอะลุค หน้าเซ็นทรัลเวิลด์, พาโนรามิค แอลซีดี/ดิสคัฟเวอรี่ เคิร์ฟ, มูฟเอเบิ้ล แอลอีดี
โดยแมทชิ่งมูฟวี่ทาวน์ เป็นต้น ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันอังคารที่ 7 นี้
แหล่งข่าวจากวีจีไอกล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทฯวางแผนที่จะบุกตลาดสื่อโฆษณาใหม่ๆต่อเนื่องเพื่อเป็นการขยายตลาด รวมทั้งการจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆในการนำเสนอบริการต่างๆเช่น ปีนี้จะร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเพื่อนำเสนอรายการข่าวผ่านทางสื่อของวีจีไอบนสถานีรถไฟฟ้า
ล่าสุดบริษัทฯวางแผนจะบุกสื่อ “แอลซีดีทีวี” อย่างเต็มที่ หลังจากที่ได้ทำการทดลองมาเมื่อปีที่แล้วได้ระยะหนึ่งและปรากฎว่าได้รับผลตอบรับที่ดีพอสมควร โดยทดลองติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอสเพียงขบวนเดียวเท่านั้น
โดยคาดว่าปีนี้จะเริ่มทยอยวางระบบและเริ่มติดตั้งแอลซีดีทีวีภายในตู้รถไฟฟ้าให้ได้ครบถึงสิ้นปีนี้ โดยรถไฟฟ้า 1 ขบวนจะมี 3 คัน ติดตั้งคันละ 6 จอ รวมทั้งสิ้น 18 จอ คิดเป็นเงินลงทุนทางด้านระบบและเครื่องแอลซีดีทีวีประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าลูกค้าลงโฆษณาจะเริ่มแพร่ภาพโฆษณาได้ต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันบีทีเอสมีรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการอยู่จำนวน 35 ขบวนและมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ย 4 – 5 แสนคนต่อวัน
สื่อรูปแบบใหม่นี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากลูกค้าและเอเจนซี เนื่องจากเป็นสื่อที่มีการเคลื่อนไหวและมีภาพและมีเสียง ซึ่งครบทุกอย่างในการรับรู้ และมุมที่ติดตั้งแอลซีดีทีวีนี้จะอยู่ข้างในรถและอยู่บนตรงกลางของตู้รถไฟฟ้า ซึ่งรายการที่จะแพร่ภาพนั้นก็จะมีหลากหลายทั้งมิวสิควิดีโอ ข่าวสาร สารคดีต่างๆ โดยมีโฆษณาด้วย ที่ผ่านมาบริษัทฯก็มีการพยายามพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ารวมทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯด้วย เช่น แอลซีดีทีวีก็เป็นรูปแบบใหม่ที่นำเสนอออกมา
ส่วนการโฆษณาตัวรถไฟฟ้านั้นเราก็พยายามเพิ่มพื้นที่การโฆษณาให้มากขึ้นเพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า แต่ราคาก็อยู่ประมาณ 4-5 แสนบาทต่อคันต่อเดือน”
นอกจากนั้นแล้วขณะนี้ยังได้เริ่มการขายพื้นที่โฆษณาแบบเหมาทั้งสถานีด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เริ่มทำรูปแบบนี้ โดยมีลูกค้ารายแรกคือ กลุ่มจีอีมันนี่ โดยเหมาสถานีเพลินจิตทั้งหมดนาน 6 เดือนเริ่มตั้งแต่ต้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนพื้นที่โฆษณาที่ยังมีลูกค้าเดิมใช้อยู่แต่ยังไม่หมดสัญญานั้นก็ยังคงติดภาพโฆษณาอยู่เหมือนเดิม และคาดว่าการขายพื้นที่โฆษณาลักษณะเหมาทั้งสถานีนี้จะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่นำมาใช้ได้ดีจากนี้
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้วมีรายได้ประมาณ 600-700 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งมั่นใจว่าตลาดสื่อโฆษณาเอาท์ออฟโฮมที่วีจีไอทำอยู่นี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องส่วนราคาค่าโฆษณานั้น
มีการปรับขึ้นบ้างเล็กน้อยในบางส่วน แต่หากมองในภาพรวมแล้วยังถือได้ว่าราคาค่าโฆษณาปรับขึ้นเพียง 10% เท่านั้นเอง แต่จริงๆแล้วก็จะได้ส่วนลดมากอยู่แล้วเมื่อซื้อปริมาณมาก
ในด้านของการขายพื้นที่โฆษณานั้น บริษัทฯยังใช้กลยุทธ์หลัก 2 แนวทางคือ 1.การขายโฆษณาผ่านเอเจนซี ซึ่งล้วนแต่เป็นรายใหญ่ๆในท้องตลาดมีลูกค้าในมือจำนวนมาก และเป็นช่องทางหลักในการขายด้วย และ 2. การขายโดยตรงของทีมงานบริษัทฯเอง ซึ่งจะไม่ซ้ำซ้อนกับเอเจนซีที่ขายอยู่
แหล่งข่าวจากบริษัท วีจีไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด ผู้บริหารพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่โฆษณาบนสถานีและรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า บริษัทฯได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) โดยทางไอทีวีได้ติดต่อมายังบริษัทฯเพื่อการนำเสนอข่าวผ่านจอพลาสม่า เพื่อเป็นการรายงานข่าวสารต่างๆให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์
ขณะเดียวกันบริษัทฯเองก็มีความสนใจเพราะจะได้บริการข่าวสารให้กับประชาชนได้ ถือเป็นการสร้างบริการใหม่ๆ ในฐานะเจ้าของพื้นที่โครงการดังกล่าวนี้ทางไอทีวีจะเป็นผู้นำเสเนอรายการข่าวต่างๆที่เกิดขึ้น
ขณะที่บริษัทฯเองเป็นผู้รับผิดชอบทางด้านฮาร์ดแวร์และระบบ ถือเป็นการนำเสนอจุดแข็งของทั้งคู่มาร่วมกัน ในลักษณะการแลกเปลี่ยน แต่บริษัทฯสามารถที่จะขายเวลาโฆษณาในช่วงต้นและจบได้ ซึ่งเบื้องต้นนี้คาดว่าจะนำเสนอข่าว 3 ช่วงต่อชั่วโมง ผ่านจอทีวีพลาสม่าเท่านั้นบนชานชลา จำนวน 56 จอคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดลอง การทำงานอยู่
ปัจจุบันวีจีไอ มีจอพลาสม่าทีวีแบบนี้ประมาณ 2-4 จอบน 1 ชานชลา และมีทั้งสิ้นจำนวน 15 สถานี ไม่ครบทุกสถานี โดยเปิดบริการสื่อประเภทนี้มานานแล้ว 3 ปี จากตอนแรกมี 11 สถานี โดยเนื้อหาที่นำเสนอก่อนหน้านี้ จะมีหลากหลายเช่น เพลง มิวสิควิดีโอ ข่าวต่างๆ
ความเคลื่อนไหวของไอทีวีที่ร่วมมือกับวีจีไอครั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่จะตอกย้ำความเป็นผู้นำสถานีข่าวของไอทีวีโดยการขยายช่องทางการนำเสนอออกไปให้มีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยคอนเซ็ปท์ ไอทีวีนิวส์ ออน นิว มีเดีย (ITV News on New Media) เช่น พลาสม่าทีวีบนบีทีเอส, สื่อในลิฟท์อาคารสำนักงานชั้นนำโดยบริษัท พีโอวี มีเดีย, โปรเจคเตอร์ 108 จอบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จำนวน 18 สถานี โดยฮาวคัมเอนเตอร์เทนเม้นท์, จอแอลซีดีที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดย เทคอะลุค หน้าเซ็นทรัลเวิลด์, พาโนรามิค แอลซีดี/ดิสคัฟเวอรี่ เคิร์ฟ, มูฟเอเบิ้ล แอลอีดี
โดยแมทชิ่งมูฟวี่ทาวน์ เป็นต้น ซึ่งจะมีการเปิดตัวในวันอังคารที่ 7 นี้
แหล่งข่าวจากวีจีไอกล่าวต่อว่า ในปีนี้บริษัทฯวางแผนที่จะบุกตลาดสื่อโฆษณาใหม่ๆต่อเนื่องเพื่อเป็นการขยายตลาด รวมทั้งการจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆในการนำเสนอบริการต่างๆเช่น ปีนี้จะร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ไอทีวีเพื่อนำเสนอรายการข่าวผ่านทางสื่อของวีจีไอบนสถานีรถไฟฟ้า
ล่าสุดบริษัทฯวางแผนจะบุกสื่อ “แอลซีดีทีวี” อย่างเต็มที่ หลังจากที่ได้ทำการทดลองมาเมื่อปีที่แล้วได้ระยะหนึ่งและปรากฎว่าได้รับผลตอบรับที่ดีพอสมควร โดยทดลองติดตั้งในรถไฟฟ้าบีทีเอสเพียงขบวนเดียวเท่านั้น
โดยคาดว่าปีนี้จะเริ่มทยอยวางระบบและเริ่มติดตั้งแอลซีดีทีวีภายในตู้รถไฟฟ้าให้ได้ครบถึงสิ้นปีนี้ โดยรถไฟฟ้า 1 ขบวนจะมี 3 คัน ติดตั้งคันละ 6 จอ รวมทั้งสิ้น 18 จอ คิดเป็นเงินลงทุนทางด้านระบบและเครื่องแอลซีดีทีวีประมาณ 100 ล้านบาท และคาดว่าลูกค้าลงโฆษณาจะเริ่มแพร่ภาพโฆษณาได้ต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบันบีทีเอสมีรถไฟฟ้าวิ่งให้บริการอยู่จำนวน 35 ขบวนและมีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ย 4 – 5 แสนคนต่อวัน
สื่อรูปแบบใหม่นี้คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีอย่างมากจากลูกค้าและเอเจนซี เนื่องจากเป็นสื่อที่มีการเคลื่อนไหวและมีภาพและมีเสียง ซึ่งครบทุกอย่างในการรับรู้ และมุมที่ติดตั้งแอลซีดีทีวีนี้จะอยู่ข้างในรถและอยู่บนตรงกลางของตู้รถไฟฟ้า ซึ่งรายการที่จะแพร่ภาพนั้นก็จะมีหลากหลายทั้งมิวสิควิดีโอ ข่าวสาร สารคดีต่างๆ โดยมีโฆษณาด้วย ที่ผ่านมาบริษัทฯก็มีการพยายามพัฒนาสื่อรูปแบบใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้ารวมทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทฯด้วย เช่น แอลซีดีทีวีก็เป็นรูปแบบใหม่ที่นำเสนอออกมา
ส่วนการโฆษณาตัวรถไฟฟ้านั้นเราก็พยายามเพิ่มพื้นที่การโฆษณาให้มากขึ้นเพื่อสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า แต่ราคาก็อยู่ประมาณ 4-5 แสนบาทต่อคันต่อเดือน”
นอกจากนั้นแล้วขณะนี้ยังได้เริ่มการขายพื้นที่โฆษณาแบบเหมาทั้งสถานีด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่เริ่มทำรูปแบบนี้ โดยมีลูกค้ารายแรกคือ กลุ่มจีอีมันนี่ โดยเหมาสถานีเพลินจิตทั้งหมดนาน 6 เดือนเริ่มตั้งแต่ต้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนพื้นที่โฆษณาที่ยังมีลูกค้าเดิมใช้อยู่แต่ยังไม่หมดสัญญานั้นก็ยังคงติดภาพโฆษณาอยู่เหมือนเดิม และคาดว่าการขายพื้นที่โฆษณาลักษณะเหมาทั้งสถานีนี้จะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่นำมาใช้ได้ดีจากนี้
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้วมีรายได้ประมาณ 600-700 ล้านบาท และคาดว่าปีนี้จะมีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 10% ซึ่งมั่นใจว่าตลาดสื่อโฆษณาเอาท์ออฟโฮมที่วีจีไอทำอยู่นี้ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่องส่วนราคาค่าโฆษณานั้น
มีการปรับขึ้นบ้างเล็กน้อยในบางส่วน แต่หากมองในภาพรวมแล้วยังถือได้ว่าราคาค่าโฆษณาปรับขึ้นเพียง 10% เท่านั้นเอง แต่จริงๆแล้วก็จะได้ส่วนลดมากอยู่แล้วเมื่อซื้อปริมาณมาก
ในด้านของการขายพื้นที่โฆษณานั้น บริษัทฯยังใช้กลยุทธ์หลัก 2 แนวทางคือ 1.การขายโฆษณาผ่านเอเจนซี ซึ่งล้วนแต่เป็นรายใหญ่ๆในท้องตลาดมีลูกค้าในมือจำนวนมาก และเป็นช่องทางหลักในการขายด้วย และ 2. การขายโดยตรงของทีมงานบริษัทฯเอง ซึ่งจะไม่ซ้ำซ้อนกับเอเจนซีที่ขายอยู่