ศูนย์ข่าวศรีราชา -สวนเสือศรีราชา เร่งแผนตลาดปี 49 ทั้งเดินหน้าจัดโรดโชว์ทั้งในและต่างประเทศ หวังเพิ่มยอดรายได้และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายชาวไทยและต่างชาติอีก 10% ขณะเดียวกันยังเร่งแผนก่อสร้างไนท์ ซู ที่ต้องชะลอจากผลกระทบทางเศรษฐกิจในปี 2548 ให้แล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการกลางปี 2549
นายวสันต์ เต็มศิริพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ศรีราชา ไทเกอร์ ซู จำกัด (สวนเสือ ศรี ราชา จังหวัดชลบุรี) เผยถึงแผนการตลาดในปี 2549 ว่า นอกจากจะเร่งดำเนินโครงการไนท์ ซู ที่จะ มีทั้งการแสดง ศูนย์รวมอาหารและภัตตาคารทั้งไทย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และศูนย์รวมการแสดงทางวิชาการเกี่ยวกับจระเข้สายพันธุ์ต่างๆ จากทั่วโลก ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2547 ภายใต้งบประมาณ กว่า160 ล้านบาท ที่จะมีทั้งอาคารรูปทรงจระเข้สูง 3 ชั้น ขนาด 300 เมตร ในเนื้อที่ 20 ไร่ ทะเล สาบขนาดใหญ่ โดยบริเวณแนวทะเลสาบจะสร้างภูเขา เพื่อให้เสือกว่า 100 ตัวยืนมองลงมาที่บริเวณจัดแสดงด้านล่าง
ตามแผนงานไนท์ซูจะเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2548 แต่เกิดเหตุการณ์สึนามิในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ต้องชะลอแผนงาน แต่คาดว่าจะสามารถเปิดได้กลางปีแน่นอน
ขณะเดียวกัน สวนเสือศรีราชา ยังจะเร่งเปิดตลาดท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)และสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก เปิดตลาดท่องเที่ยว (โรดโชว์)ในประเทศรัสเซีย อินเดีย อินโดนีเซีย และพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานของประเทศ เพื่อเพิ่มเป้าหมายรายได้และตัวเลขนักท่องเที่ยวให้เติบโตจากปีก่อนอีก 10 %
ทั้งนี้การเปิดให้บริการ ไนท์ ซู กลางปี 2549 จะทำให้สามารถดึงนักท่องเที่ยวช่วงกลางคืน จากเมืองพัทยาให้เข้ามาชมการแสดง ซึ่งขณะนี้สวนเสือศรีราชา อยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะใช้การแสดงใดบ้างเพื่อเป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงนักท่องเที่ยวช่วงกลางคืนจากเมืองพัทยา และสร้างกลุ่มนักท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เดินทางเข้าชมอย่างต่อเนื่อง
"หากเทียบภาวะการท่องเที่ยวและการตลาดของสวนเสือศรีราชา ในปีนี้กับปีก่อน พบว่า ปีนี้น่าจะดีกว่า เพราะปีที่แล้วช่วงต้นปีเช่นนี้ เราได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สึนามิ จนทำให้นักท่องเที่ยวหายไปมาก แต่ตอนนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวแถบเอเชียกลับมาแล้ว และเรากำลังเดินหน้าเปิดตลาดใหม่ ในประเทศอินเดียที่ถือเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสำคัญ ขณะที่กลุ่มอินโดนีเซีย ก็เริ่มเข้ามาท่องเที่ยวกับเราอย่างต่อเนื่อง"
นายวสันต์ ยังเผยอีกว่าการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้ตลาดท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกและสวนเสือศรีราชา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยขณะนี้สวนเสือศรีราชา ยังมีแผนที่จะเข้าไปวางแผนจัดแพกเกจท่องเที่ยวร่วมกับบริษัททัวร์ที่ได้รับสัมปทานตั้งเคาน์เตอร์บริการ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิอีกด้วย โดยสัดส่วนนักท่องเที่ยวของสวนเสือศรีราชา ขณะนี้ยังเป็นต่างชาติถึง 70% ชาวไทย 30%
ส่วนการกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวชาวไทย นอกจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องแล้ว สวนเสือศรีราชา ยังเดินหน้าแจกบัตรเข้าชมฟรี รวมทั้งส่วนลดให้กับพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่โดยรอบ และร่วมกับสถานีวิทยุท้องถิ่น จัดกิจกรรมเพื่อแจกบัตรเข้าชมเพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่