พิษณุโลก -สองแคว เตรียมชงเรื่องมหาดไทยของบฯ 220 ล้านบาท ตามโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้งในงบกลางปี 49 ขุดลอกบึงตะเครงทำแก้มลิง "บางระกำ" มั่นใจสร้างเสร็จน้ำไม่ท่วม พร้อมดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดต่อไป
เมื่อเร็วๆนี้นายญาณกิตต์ วงศ์วัชระเดช ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร นายสมาน ปางวัชรากร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 จ.พิษณุโลก และคณะได้เดินทางมาตรวจโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นพื้นที่แก้มลิงเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง บริเวณ บึงตะเครง ต.บางระกำ อ.บางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
นายวิบูลย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบางระกำ(อบต.) กล่าวว่า การขุดลอกบึงตะเครงเพื่อทำแก้มลิงแก้ปัญหาน้ำท่วมของพิษณุโลกและพิจิตร กำลังเข้าสู่การพิจารณาคัดเลือก ของคณะกรรมการอำนวยการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นพื้นที่แก้มลิงเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยปี 49
ทั้งนี้หากได้รับงบประมาณสามารถดำเนินการขุดลอกได้ทันที เพราะไม่มีการเวนคืนที่ดิน เนื่องจากเป็นพื้นที่เก็บน้ำเดิม เพียงแต่ตื้นเขินเท่านั้น หลังจากที่กรมชลประทาน สำรวจและเสริมคันดินรอบบึงระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตร และก่อสร้างอาคารบังคับน้ำไว้ตั้งแต่ปี 2543 แล้ว
นายวิบูลย์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับ "บึงตะเครง" เป็นบึงสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 2 พันกว่าไร่ มีประชากร 6 หมู่บ้านอาศัยอยู่รอบบึง มีคลองธรรมชาติ 4 สายนำน้ำเข้าบึง และผันน้ำออกจากบึง 1 สาย ซึ่งหากมีการขุดลอกคลองผันน้ำยมให้กว้าง 5 เมตร ลึก 3.5 เมตร ความยาว 4 กิโลเมตร เพื่อทำเป็นแก้มลิง เชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมตัวอำเภอบางระกำ อีกทั้งสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 ประเมินราคาค่าก่อสร้างไว้เบื้องต้นทั้งสิ้น 220 ล้านบาท
ด้านนายสมาน ปางวัชรากร ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 จ.พิษณุโลก กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยต้องการให้จังหวัดดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นพื้นที่แก้มลิง แก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัย ปี 49 ในพื้นที่ 4 ภาคของประเทศ
ในส่วนของของภาคเหนือได้พิจารณาคัดเลือกจากศูนย์ป้องกันฯ ลำปาง กำแพงเพชร และพิษณุโลก และพบว่า พื้นที่แก้มลิงอำเภอบางระกำ มีความเหมาะสมตามหลักการมากที่สุด เพราะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก ช่วยผันน้ำจากแม่น้ำยมที่เอ่อท่วมตัวอำเภอบางระกำของทุกปีได้ ขณะที่ในฤดูแล้งก็ยังมีน้ำใช้เพื่อการเกษตร รวมทั้งหากไม่เพียงพอสามารถดึงน้ำจากคลองธรรมชาติของแม่น้ำปิง จังหวัดกำแพงเพชรลงสู่พื้นที่แก้มลิงได้
ขณะที่นายญาณกิตต์ วงศ์วัชระเดช ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 8 กำแพงเพชร กล่าวว่า เห็นด้วยกับการพัฒนาบึงตะเครงให้เป็นแก้มลิง ศูนย์ฯเขต 8 พร้อมระดมเครื่องมือและอุปกรณ์ลงมาช่วยในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อร่วมถวายเป็นโครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเนื่องโอกาสพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2550
นายนิยม ช่างพินิจ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 4 พิษณุโลก (อ.บางระกำ-บางกระทุ่ม )เปิดเผยว่า โครงการขุดลองบึงตะเครง เพื่อเป็นแก้มลิงในอำเภอบางระกำ มั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล เพราะหลายครั้งรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง มักเดินทางมาตรวจราชการช่วงน้ำท่วม อ.บางระกำ ต่างมีความเห็นว่า ควรทำแหล่งรับน้ำ แต่เรื่องก็เงียบหายไป
ทั้งนี้เชื่อว่าหากขุดลอกบึงตะเครงสำเร็จ จะสามารถรับน้ำป่าที่เอ่อล้นจากแม่น้ำยมในฤดูน้ำหลากมาจากสุโขทัย ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมตัวเมืองบางระกำได้นอกจากนี้หากผันน้ำจากแม่น้ำปิงมาจากฝายหัว คลองทองแดง จ.กำแพงเพชร มาได้ ก็จะช่วยพื้นที่เกษตรกรรมในฤดูแล้งได้อีกทางด้วย อย่างไรก็ตามโครงการนี้ใช้งบประมาณสูง จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนขอรับงบประมาณจากกระทรวงมหาดไทย และจะต้องผลักดันของบฯกลางปี49
อนึ่งจากหนังสือด่วนที่สุด เลขที่ มท 0619/ว.3864 พฤศจิกายน 48 ลงนาม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย ปฏิบัติการแทนรมว.มหาดไทย ระบุถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้พิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาแหล่งน้ำ และโครงการขุดลอกพัฒนาแหล่งน้ำเป็นแก้มลิงของจังหวัด ใน 6 ลักษณะ คือ โครงการที่ได้รับงบฯปี 49 แล้ว โครงการที่ใช้เครื่องจักรกลของส่วนราชการมีอยู่ โครงการที่ใช้งบฯท้องถิ่น หรือ โครงการที่ใช้งบฯซีอีโอ โครงการขุดลอกแหล่งน้ำสาธารณะที่ตื้นเขิน
โครงการขอรับสนับสนุนจากงบฯกลางจากรัฐบาล พร้อมแจ้งตารางเวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จ ธันวาคม 50 เพื่อป้องกันภัยแล้งและอุทกภัยปี 49-50 ดำเนินการพัฒนาแก้มลิงใหม่ ต้องเป็นพื้นที่ไม่มีปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดิน และให้จังหวัดแต่งตั้งนายช่างแขวง ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุดร่วมเป็นคณะทำงานพัฒนาแหล่งน้ำ