ปีใหม่"เขาค้อ"รีสอร์ตเต็ม-เชียงรายเปิดเที่ยว 3 ภูใน 1 วัน

เพชรบูรณ์/เชียงราย - เคานต์ดาวน์ "เขาค้อ-ภูหินร่องกล้า-หนองแม่นา" คึกคัก นักท่องเที่ยวแห่จองห้องพัก/รีสอร์ตหรูรับไอเย็น-อากาศหนาวเต็มเหยียดตั้งแต่สิ้นปี ยันวันต้อนรับปีใหม่ ส่วนที่เชียงรายเปิดทริปใหม่เที่ยว 3 ภูใน 1 วัน

ท่ามกลางลมหนาวและไอหมอกบนยอดดอย ของภาคเหนือหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นที่ดอยอินทนนท์ - อ่างขาง - ยอดดอยแถบจ.แม่ฮ่องสอน ฯลฯ ที่ถือว่าได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จะใช้เป็นสถานที่เคานต์ดาวน์เป็นประจำทุกปีแล้ว ในปีนี้พบว่า นอกจากยอดดอยเหล่านี้แล้ว นักท่องเที่ยวบางส่วน ได้เตรียมมุ่งหน้าที่จะไปสัมผัสไอหนาวกันบนยอดดอย แถบภาคเหนือตอนล่าง และ 3 ภูของจังหวัดเชียงรายกันมากขึ้น

โดยที่ "เขาค้อ" จ.เพชรบูรณ์ ดินแดนของผู้ชื่นชอบธรรมชาติ จากการสำรวจพบว่า นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ-ต่างถิ่นแห่จองห้องพักรีสอร์ตแน่นขนัด และว่ากันว่าเศรษฐกิจของอ.เขาค้อ รีสอร์ตริมถนนหลวงหมายเลข 12 อยู่ได้ก็เพราะยอดขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ของทุกปี

นายจินดา กมลไท ประธานสมาคมผู้ประกอบธุรกิจ SMEs จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า รายได้ของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มรีสอร์ต - โรงแรมจำนวนมาก เขต ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ ถือว่าฤดูท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่นี้เป็นช่วงตักตวงรายได้

ขณะที่เศรษฐกิจตัวเมืองเพชรบูรณ์ก็ได้รับผลบุญด้วย ไม่ว่าจะเป็น ไก่ย่างวิเชียร ร้านค้าย่อยริมทาง และร้านอาหารชื่อดัง อาทิ "ลาบเป็ด-หล่มสัก" / "ขนมจีน- หล่มเก่า" และมะขามหวาน-ของฝากที่ระลึก

เส้นทางการท่องเที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ แบ่งออกเป็น 2 เส้น คือ นักท่องเที่ยวที่มาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เริ่มตั้งแต่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว-ภูกระดึง(บ้านฟองใต้)-หล่มสัก-หล่มเก่า-ภูทับเบิก-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า-เขาค้อ-อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ขณะที่อีกเส้นทาง เฉพาะนักท่องเที่ยว ที่มาจากกรุงเทพฯ ผ่านตัวเมืองเพชรบูรณ์-อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง(หนองแม่นา)-เขาค้อ-ภูหินร่องกล้า-ภูทับเบิก-บ้านฟองใต้(จ.เลย) ทำให้นักท่องเที่ยวแวะเยือนแหล่งท่องเที่ยวแถบนี้เกิน 2 วันขึ้นไป

ล่าสุดห้องพักของรีสอร์ตเอกชนแถบทุ่งสมอ แคมสน อ.เขาค้อ ช่วงวันปีใหม่เต็มหมดแล้ว แม้มีห้องพักปริมาณมากก็ตาม ตามปกติต้องจองห้องล่วงหน้าตั้งแต่เดือนตุลาคม

รีสอร์ตหลายแห่ง ต้องใช้วิธีบริการให้เช่ากางเต็นท์แก่นักท่องเที่ยวในราคา 500 บาทต่อ 2 คนต่อคืนพร้อมอาหาร 1 มื้อ ขณะที่ราคาห้องพักรีสอร์ตขนาดเล็ก-กลางราคาประมาณ 2,000 บาทต่อห้องเต็มหมด

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องมาแวะพักเขาค้อช่วงปีใหม่ สามารถเดินทางมาได้ แต่อาจเช่าเต็นท์นอนหน้ารีสอร์ต ฉะนั้นสิ่งที่ต้องเตรียมคือ เครื่องนอนสร้างความอบอุ่นเพิ่มเติม เพราะอากาศเย็นมาก ขณะที่ภายในอุทยานแห่งชาติหลายแห่งยังมีจุดกางเต็นท์รองรับ

"ผมติดต่อจองห้องเพียง 1 หลัง ก็ต้องโทรติดต่อถึง 14 รีสอร์ต กว่าจะสำเร็จ เพราะนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางพักรีสอร์ตช่วงวันหยุดปีใหม่(31ธันวาคม 48 -1 มกราคม 49)" นายจินดา กล่าว

เจ้าหน้าที่พนักงานทรัพย์ไพรวัลย์แกรนด์โฮเต็ลรีสอร์ต จ.พิษณุโลก บอกว่า ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 48 - 1 มกราคม 49 ห้องพักทั้งหมด 120 ห้องของทรัพย์ไพรวัลย์ฯ เต็มหมดแล้ว แม้ว่าอัตราค่าบริการจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 กว่าบาท/ห้อง/คืน จากปกติ 1,800 บาทก็ตาม แต่ช่วงก่อน/หลังวันปีใหม่ ยังพอมีห้องว่างรองรับอยู่

ส่วนที่ "ภูแก้วรีสอร์ต" รีสอร์ตหรูระดับ 5 ดาวของเขาค้อ พนักงานบอกว่า ห้องพักทั้งหมด 140 ห้อง เต็มตั้งแต่ 24 ธันวาคม 48 จนถึงปีใหม่ แม้ว่าห้องสูท จะมีราคาสูงถึง 14,000 บาทในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 48 ก็ตาม หากต้องการเข้าพัก จะต้องเข้าหลังวันที่ 3 มกราคม 49 เป็นต้นไป แต่ก็ต้องจองล่วงหน้า

นางวลี ดอนนุชไพร ผู้จัดการบ้านสูงรีสอร์ต (เครือร้านอาหารบ้านเชิงผาและปลายไร่รีสอร์ต) เปิดเผยว่า ห้องพักถูกจองในช่วงปีใหม่ 2 วัน หากเป็นวันอื่นยังสามารถเข้าพักได้ เศรษฐกิจเขาค้อในช่วงปีใหม่ถือว่า หลายรีสอร์ตกำลังจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อบริการแก่นักท่องเที่ยว รีสอร์ตบางรายเตรียมเต็นท์ชั่วคราว และเครื่องนอนไว้รองรับจำนวนมาก

สำหรับห้องพัก/รีสอร์ต เขตอ.เขาค้อ มีจำนวน 560-600 ห้อง เช่น อิมพีเรียลภูแก้วฮิลล์รีสอร์ต, มาเทนพาร์คสวิสเซอร์แลนด์, เข้าค้อรีสอร์ตฟอร์เรสฮิลล์, ภูเพชรฮิลล์รีสอร์ต, เขาค้อลอดจ์,เขาค้อทะเลภู, ชวนชมรีสอร์ต, เรือนเดิม, เขาค้อรีสอร์ต, ไร่เพียงฟ้ารีสอร์ต, เรือนพักผู้ติดตาม(พระตำหนักฯ), ไร่จันทร์แรม บ้านสูงรีสอร์ต,บ้านเชิงผา เป็นต้น ยังไม่รวมถึงเต็นท์บริเวณหน้ารีสอร์ตต่างๆ และ สถานที่กางเต็นท์และบ้านพักภายในอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง

ขณะที่ "ทุ่งแสลงหลวง" แม้ว่าอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 80 บนถนนพิษณุโลก-หล่มสัก แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่ากับหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่สล.8 หนองแม่นา ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพราะมีเพียงป้ายชื่อทุ่งแสลงหลวงกับบ้านพักรับรอง 16 หลังและจุดกางเต็นท์บางส่วน ทว่าไม่สามารถเชื่อมต่อไปยัง"ทุ่งนางพญา"หรือ "ทุ่งโนนสน"อันเป็นจุดขายหลักได้

ทั้งนี้ เพราะอุทยานฯไม่เปิดเส้นทางตรวจป่า เกรงว่าจะกระทบชีวิตสัตว์ป่า ปัจจุบันเป็นถนนลูกรัง ใช้เฉพาะหน้าแล้ง แต่กลับมีงบประมาณก่อสร้างจุดชมวิวถึง 2 แห่งด้วยกัน ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเลือกไปนอนเต็นท์กลางป่าสน ฝั่งหนองแม่นา จ.เพชรบูรณ์ มากกว่า เพราะมีเป้าหมายในกิจกรรมขี่จักรยานท่องเที่ยว บนผืนป่าทุ่งหญ้าสะวันนา ใกล้จุดกางเต็นท์

หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่สล.8 หนองแม่นา ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมคนกรุงเทพฯ ที่ต้องการนอนเต็นท์ เพียงขับรถจากสระบุรีตรงไปยังเพชรบูรณ์ (หมายเลข21) ผ่านตัวเมืองเพชรบูรณ์ 13 กิโลเมตร(นางั่ว)เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาหมายเลข 2258 ผ่าน "สี่แยกรื่นฤดี"สามารถเลือกไปหน่วยพิทักษ์ฯหนองแม่นา หรือพระตำหนักเขาค้อ หากเลี้ยวขวามุ่งหน้าไปอำเภอเขาค้อ พิพิธภัณฑ์อาวุธและอนุสรณ์สถานวีรชน ซึ่งถือว่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในช่วงกลางวันของนักท่องเที่ยว อีกทั้งอยู่ใกล้กับรีสอร์ต บนเส้นทางทางทุ่งสมอ-แคมป์สน หรือหากมาจากพิษณุโลกต้องแวะเข้า แคมป์สน กม.100 ก่อนเข้าน้ำตกศรีดิษฐ์และหนองแม่นา

เชียงรายเปิด 3 ภูใน 1 วันรับ

นายโชคดี อมรวัฒน์ นายอำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้จังหวัดเชียงรายได้จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้ชื่อโครงการ "เที่ยว 3 ภู ใน 1 วัน" โดยได้มีการนำนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 50 คัน ทดลองท่องเที่ยวเปิดเส้นทางไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้

3 ภูในเส้นทางท่องเที่ยวนี้ ประกอบไปด้วย ภูหลงถัง ภูผาตั้ง และภูชี้ฟ้า ซึ่งเส้นทางการท่องเที่ยวจะเริ่มต้นจากอำเภอขุนตาล ลัดเลาะสันเขาไปยังภูหลงถัง ในเขตอ.ขุนตาล ที่ได้รับการเรียกขานว่าเป็น "ดินแดนแห่งสระน้ำมังกร" เพราะเป็นที่มีสระน้ำเกิดขึ้นตามธรรมชาติ อยู่เหนือระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร เมื่ออยู่บนเนินยอดสูงสามารถชมทิวทัศน์ได้ถึง 4 อำเภอ คือ อ.พญาเม็งราย ขุนตาล เวียงแก่น และเทิง โดยที่ภูหลงถัง จะเป็นถิ่นอาศัยของชาวไทยเชื้อสายม้ง อยู่ห่างจากถนนสายเทิง-ขุนตาล-เชียงของ ประมาณ 6 กิโลเมตรเท่านั้น

จากนั้นการเดินทางตามเส้นทางส่งเสริมการท่องเที่ยวนี้จะมุ่งต่อไปยัง ภูผาตั้ง ในเขตอำเภอเวียงแก่น ที่เป็นเขตชายแดนไทย-ลาว อยู่ห่างจากภูหลงถังประมาณ 32 กิโลเมตร เป็นหมู่บ้านชาวจีนคณะชาติ ที่อพยพมาจากมณฑลยูนนาน (หยุนหนัน)เป็นที่ตั้งของจุดชมวิวชายแดนไทย-ลาว ที่เรียกว่า "ผาบ่องประตูสยาม" อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร สูงเหนือระดับน้ำทะเล 1,635 เมตร อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี มองเห็นแม่น้ำโขงที่เลี้ยวลดคดเคี้ยว รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของศาลาอนุสรณ์นายพลหลี ช่องเขาขาด และเนิน 102-103 ซึ่งมีความสวยงามมากด้วย

จุดหมายปลายทางจะไปสิ้นสุดที่ ภูชี้ฟ้า ในวนอุทยานภูชี้ฟ้าในเขตอ.เทิง ซึ่งจะใช้เป็นที่พักแรม โดยภูชี้ฟ้านั้น จะเป็นยอดเขาที่มียอดแหลมชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,628 เมตร มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นเข้าไปในฝั่งประเทศลาว บนยอดภูชี้ฟ้ามีทุ่งกว้างแซมด้วยทุ่งโคลงเคลง ที่มีดอกสีชมพูอมม่วงที่จะบานสะพรั่งในช่วงระหว่างเดือน กรกฎาคม -มกราคม ของทุกปี และเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมพระอาทิตย์ขึ้น รวมทั้งทะเลหมอกที่สวยงาม

นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียง ยังเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านร่มฟ้าทอง ที่มีศูนย์ศิลปาชีพ และพลับพลาทรงงานของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ซึ่งนักท่องเที่ยวมักจะมาชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระ ที่บานในช่วงเดือน ธันวาคม-มกราคม และดอกเสี้ยวหรือชงโคป่า ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม ด้วย
นายบันเทิง เครือวงค์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตับเต่า อ.เทิง กล่าวว่า ในปีนี้คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวภูชี้ฟ้าเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 10% หรือเพิ่มจาก 100,000 คน เป็น 110,000 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเพิ่มขึ้นมาในช่วงเดือน ธันวาคม -มกราคม เพราะเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ทั้งนี้ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้น ห้องพักถูกจองเต็มหมดแล้ว แต่ยังมีที่กางเต็นท์รองรับได้อีกจำนวนมาก