"ทักษิณ"ทนเสียงวิจารณ์ไม่ไหวลงหาดใหญ่เช้าวันนี้ ตอกกลับฝ่ายค้านตอนลงวางแผนแก้น้ำท่วมไปอยู่เสียที่ไหน เหน็บคงต้องรายงานให้ทราบ มั่นใจขุดคลอง ร.1 เรียบร้อยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้แน่ "อภิสิทธิ์"สวนกลับทันควันรัฐบาลบรรเทาน้ำท่วมภาคใต้ไม่ได้เรื่อง "จุฬาราชมนตรี"เชิญชวนซับน้ำตาชาวใต้ อุตุฯเตือนใต้ระวังฝนยังตกหนักอีก 22-24 ธ.ค.นี้
วานนี้ (22 ธ.ค.) ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา มอบหมายให้ ม.ร.ว.สมลาภ กิตติยากร เลขานุการในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงพระราชทานของมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก 695 ถุง ไปแจกจ่ายให้กับพสกนิกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมใน จ.ยะลา โดยมีนางสิริกาญจน์ สุวรรณรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา พร้อมสมาชิกเป็นผู้รับมอบและนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ยะหา และ อ.กาบัง
**ทักษิณทนไม่ไหวลงใต้อาทิตย์นี้
ด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่ จ.สงขลา ในเช้าวันนี้ หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ที่ไม่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตาม เมื่อเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้คุยกับนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีหาดใหญ่ถึงการแก้ปัญหาแล้ว
"ในการระบายน้ำตอนนี้เหลือเฉพาะริมทะเล เพราะน้ำทะเลหนุนสูง การระบายน้ำยังไม่ค่อยได้ แต่น้ำในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ได้ระบายไปหมดแล้วทั้งฝ่ายซ้ายและขวาของหาดใหญ่ คลอง ร.1 ก็ยังติดขัดไม่เรียบร้อย แต่เราก็ระบายน้ำได้ โดยใช้เส้นทางผ่านทางรถไฟเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าขุดคลอง ร.1 เรียบร้อย ทางรถไฟที่ขวางทางน้ำอยู่ก็จะใช้ท่อลอดผ่านทางรถไฟไป ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่กรมอุตุฯเตือนว่าจะมีมรสุมเข้ามาอีกรอบในวันที่ 22-24 ธ.ค.นี้นั้นเท่าที่ดูแล้วฝนจะตกอีกใน 1-2 วันนี้และคิดว่าปริมาณน้ำคงจะไม่มาก ถ้าอยู่ในระดับ 40 มิลลิเมตรยังพอรับไหว ที่ผ่านมาตกแต่ละครั้งมีปริมาณ 100-200 มิลลิเมตรทั้งนั้น บางครั้งถึง 500 มิลลิเมตร แต่ถ้าตกต่ำกว่า 100 มิลลิเมตรเราสามารถเอาอยู่ ยกเว้นพื้นที่ริมทะเลต้องรอน้ำทะเลลดถึงจะระบายน้ำลงได้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่านายกฯจะลงหรือไม่ลงไปดูปัญหาน้ำท่วมภาคใต้นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า ความจริงไปมาแล้วรอบหนึ่งจำได้หรือไม่ ได้มีการประชุมเตรียมการไม่อย่างนั้นจะแย่กว่านี้อีก เราได้เตรียมการเจ้าหน้าที่กันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งก็มีนายกเทศมนตรีหาดใหญ่ มาร่วมประชุมด้วย
"ก็เห็นใจ คงไม่รู้จะตีเรื่องอะไร ก็คิดกันไปได้เรื่อยๆ และที่ว่าผมมี 2 มาตรฐานนั้นทีตอนที่ผมไปก่อนหน้านี้พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน วันหลังไปต้องรายงานให้ทราบ ผมไปมาก่อนแล้ว ตอนน้ำท่วมรอบแรกได้นั่ง ฮ.ตรวจดู และไปดูชาวบ้านส่วนหนึ่งแล้ว ไปดูเรื่องคลองระบายน้ำและได้มีการสั่งการไว้ หลังจากนั้นได้มีการสั่งการทางโทรศัพท์ตลอดเวลา" นายกฯ กล่าว
**ปชป.จวกกลับ รบ.แก้ปัญหาแย่มาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาค่อนข้างจะเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย การคมนาคมที่ถูกตัดขาดไปมาก รวมไปถึงการขาดแคลนน้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งประชาชนยังคงรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาในเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ลงไปในพื้นที่ยังไม่ทั่วถึง แม้ในพื้นที่จะมีงบประมาณเพียงพอก็ตาม แต่ไม่สามารถจะซื้อสิ่งของที่จำเป็นได้ เพราะเกิดวิกฤตการณ์ในการขาดแคลน สินค้าจึงทำให้ต้องรอความช่วยเหลือจากส่วนกลางเช่นกัน
"การช่วยเหลือยังมีข้อจำกัดอยู่ในเรื่องของกฎระเบียบที่ล้าสมัยไม่ทันกับสถานการณ์ เช่น เรื่องระเบียบในการจ่ายค่าชดเชยสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนไปก่อน รวมทั้งยังจะต้องมีการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาวภายหลังจากที่น้ำลด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาชีพและสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร"
**อุตุฯเตือนใต้ฝนตกอีก-เหนือหนาว
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 9 (210/2548) เรื่องภาคใต้ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในอ่าวไทยและประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค.นี้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล มีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ราบลุ่มและที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดที่กล่าวมาได้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงไปและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นโดยจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตรขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
**จุฬาราชมนตรีเปิดรับบริจาคช่วยใต้
ที่รัฐสภา คณะทำงานรวมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดภาคใต้นำโดยนายอาหะหมัด ขามเทศทอง นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ และ ดร.ปกรณ์ ปารียากร ได้ร่วมกันแถลงเชิญชวนประชาชนร่วมใจบริจาค เงิน สิ่งของ อาหารแห้งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ว่า นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี มีความเป็นห่วงชาวใต้ที่ถูกน้ำท่วม จึงตั้งคณะทำงานฯขึ้นช่วยเหลือ โดยขอความร่วมมือไปยังประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดทั้ง 36 จังหวัดเพื่อประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ และจะมีการจัดรายการเพื่อรับบริจาคทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ในวันที่ 28 หรือ 29 ธ.ค.นี้เวลา 22.30 น.ด้วย และในวันที่ 23 ธ.ค.มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย จะมีการระดมการรับบริจาคผู้ที่มาละหมาดด้วย ทั้งนี้ ผู้สนใจช่วยเหลือสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง 9 สำนักจุฬาราชมนตรี โทร 02-949-4288 สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร โทร.02-949-4259 หรือที่ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง ซอย 2 สวนหลวง กรุงเทพฯ โทร. 02-314-5638
วานนี้ (22 ธ.ค.) ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิตติยาภา มอบหมายให้ ม.ร.ว.สมลาภ กิตติยากร เลขานุการในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ เป็นผู้แทนพระองค์นำถุงพระราชทานของมูลนิธิเพื่อนพึ่งภายามยาก 695 ถุง ไปแจกจ่ายให้กับพสกนิกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วมใน จ.ยะลา โดยมีนางสิริกาญจน์ สุวรรณรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดยะลา พร้อมสมาชิกเป็นผู้รับมอบและนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ อ.บันนังสตา อ.ยะหา และ อ.กาบัง
**ทักษิณทนไม่ไหวลงใต้อาทิตย์นี้
ด้านพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเดินทางไปตรวจเยี่ยมประชาชนที่ จ.สงขลา ในเช้าวันนี้ หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ที่ไม่ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตาม เมื่อเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้คุยกับนายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีหาดใหญ่ถึงการแก้ปัญหาแล้ว
"ในการระบายน้ำตอนนี้เหลือเฉพาะริมทะเล เพราะน้ำทะเลหนุนสูง การระบายน้ำยังไม่ค่อยได้ แต่น้ำในพื้นที่ส่วนอื่นๆ ได้ระบายไปหมดแล้วทั้งฝ่ายซ้ายและขวาของหาดใหญ่ คลอง ร.1 ก็ยังติดขัดไม่เรียบร้อย แต่เราก็ระบายน้ำได้ โดยใช้เส้นทางผ่านทางรถไฟเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถ้าขุดคลอง ร.1 เรียบร้อย ทางรถไฟที่ขวางทางน้ำอยู่ก็จะใช้ท่อลอดผ่านทางรถไฟไป ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย"
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ที่กรมอุตุฯเตือนว่าจะมีมรสุมเข้ามาอีกรอบในวันที่ 22-24 ธ.ค.นี้นั้นเท่าที่ดูแล้วฝนจะตกอีกใน 1-2 วันนี้และคิดว่าปริมาณน้ำคงจะไม่มาก ถ้าอยู่ในระดับ 40 มิลลิเมตรยังพอรับไหว ที่ผ่านมาตกแต่ละครั้งมีปริมาณ 100-200 มิลลิเมตรทั้งนั้น บางครั้งถึง 500 มิลลิเมตร แต่ถ้าตกต่ำกว่า 100 มิลลิเมตรเราสามารถเอาอยู่ ยกเว้นพื้นที่ริมทะเลต้องรอน้ำทะเลลดถึงจะระบายน้ำลงได้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่านายกฯจะลงหรือไม่ลงไปดูปัญหาน้ำท่วมภาคใต้นั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า ความจริงไปมาแล้วรอบหนึ่งจำได้หรือไม่ ได้มีการประชุมเตรียมการไม่อย่างนั้นจะแย่กว่านี้อีก เราได้เตรียมการเจ้าหน้าที่กันอย่างเข้มแข็ง ซึ่งก็มีนายกเทศมนตรีหาดใหญ่ มาร่วมประชุมด้วย
"ก็เห็นใจ คงไม่รู้จะตีเรื่องอะไร ก็คิดกันไปได้เรื่อยๆ และที่ว่าผมมี 2 มาตรฐานนั้นทีตอนที่ผมไปก่อนหน้านี้พวกเขาไปอยู่ที่ไหนกัน วันหลังไปต้องรายงานให้ทราบ ผมไปมาก่อนแล้ว ตอนน้ำท่วมรอบแรกได้นั่ง ฮ.ตรวจดู และไปดูชาวบ้านส่วนหนึ่งแล้ว ไปดูเรื่องคลองระบายน้ำและได้มีการสั่งการไว้ หลังจากนั้นได้มีการสั่งการทางโทรศัพท์ตลอดเวลา" นายกฯ กล่าว
**ปชป.จวกกลับ รบ.แก้ปัญหาแย่มาก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ว่า จากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาค่อนข้างจะเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย การคมนาคมที่ถูกตัดขาดไปมาก รวมไปถึงการขาดแคลนน้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ซึ่งประชาชนยังคงรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่ นอกจากนี้ ยังพบปัญหาในเรื่องการจัดสรรงบประมาณที่ลงไปในพื้นที่ยังไม่ทั่วถึง แม้ในพื้นที่จะมีงบประมาณเพียงพอก็ตาม แต่ไม่สามารถจะซื้อสิ่งของที่จำเป็นได้ เพราะเกิดวิกฤตการณ์ในการขาดแคลน สินค้าจึงทำให้ต้องรอความช่วยเหลือจากส่วนกลางเช่นกัน
"การช่วยเหลือยังมีข้อจำกัดอยู่ในเรื่องของกฎระเบียบที่ล้าสมัยไม่ทันกับสถานการณ์ เช่น เรื่องระเบียบในการจ่ายค่าชดเชยสำหรับสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายยังไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในเบื้องต้นอย่างเร่งด่วนไปก่อน รวมทั้งยังจะต้องมีการวางแผนเพื่อแก้ไขปัญหาระยะกลางและระยะยาวภายหลังจากที่น้ำลด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาชีพและสัตว์เลี้ยงของเกษตรกร"
**อุตุฯเตือนใต้ฝนตกอีก-เหนือหนาว
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 9 (210/2548) เรื่องภาคใต้ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในอ่าวไทยและประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ธ.ค.ว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมอ่าวไทยตอนล่าง ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้และทะเลอันดามันมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 22-24 ธ.ค.นี้ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกบริเวณ จ.ชุมพร สุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล มีฝนตกหนักถึงหนักมากเกิดขึ้นในระยะ 1-2 วันนี้ ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ราบลุ่มและที่ลาดเชิงเขาของพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดที่กล่าวมาได้ สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ลงไปและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นโดยจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตรขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
**จุฬาราชมนตรีเปิดรับบริจาคช่วยใต้
ที่รัฐสภา คณะทำงานรวมใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดภาคใต้นำโดยนายอาหะหมัด ขามเทศทอง นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ และ ดร.ปกรณ์ ปารียากร ได้ร่วมกันแถลงเชิญชวนประชาชนร่วมใจบริจาค เงิน สิ่งของ อาหารแห้งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ว่า นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรี มีความเป็นห่วงชาวใต้ที่ถูกน้ำท่วม จึงตั้งคณะทำงานฯขึ้นช่วยเหลือ โดยขอความร่วมมือไปยังประธานคณะกรรมการอิสลาม ประจำจังหวัดทั้ง 36 จังหวัดเพื่อประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยภาคใต้ และจะมีการจัดรายการเพื่อรับบริจาคทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ในวันที่ 28 หรือ 29 ธ.ค.นี้เวลา 22.30 น.ด้วย และในวันที่ 23 ธ.ค.มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย จะมีการระดมการรับบริจาคผู้ที่มาละหมาดด้วย ทั้งนี้ ผู้สนใจช่วยเหลือสามารถบริจาคได้ที่ศูนย์บริหารกิจการศาสนาอิสลาม เฉลิมพระเกียรติ คลอง 9 สำนักจุฬาราชมนตรี โทร 02-949-4288 สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร โทร.02-949-4259 หรือที่ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ถนนรามคำแหง ซอย 2 สวนหลวง กรุงเทพฯ โทร. 02-314-5638