ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องภูเก็ต-พอร์ตแบลร์ ไม่คืบ ติดปัญหาเพียบ "พอร์ตแบลร์"ยังไม่เปิดรับคนจากภายนอกเต็มตัว ผู้ว่าฯภูเก็ต เตรียมเจรจารอบสุดท้ายหากไม่คืบยุติความสัมพันธ์
เมื่อเร็วๆนี้ นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม การพัฒนาความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน ระหว่างภูเก็ต-พอร์ตแบลร์ ประเทศอินเดีย ภายหลังภูเก็ตและพอร์ตแบลร์ได้มีการลงนามสถาปนาการเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกัน ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จังหวัดภูเก็ต ได้เชิญผู้แทนจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ผู้แทนจากกรมส่งเสริมการส่งออก ผู้แทนจากกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มาร่วมหารือ ถึงแนวทางการเชื่อมการค้าและการลงทุนระหว่างกันด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและหาแนวทาง ในการที่จะเดินทางไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอินเดีย ที่กรุงนิวเดลี ประมาณต้นปีหน้า โดยจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือ ไปหารือกับรัฐบาลกลางของอินเดียในหลายประเด็นด้วยกัน คือ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การนำเข้าสัตว์น้ำ และไม้จากพอร์ตแบลร์มายังภูเก็ต ภายหลังจากการเจรจาทางด้านการค้า การลงทุน การบิน การประมง ในระดับภูเก็ต และพอร์ตแบลร์ไม่คืบหน้า เพราะพอร์ตแบลร์ ไม่มีอำนาจการตัดสินใจ ทุกอย่างจะต้องรอนโยบายจากรัฐบาลกลางทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับตัวแทนจากกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนกับอินเดีย ทำให้ทราบว่า การแลกเปลี่ยนการค้าและการลงทุนกับพอร์ตแบลร์ ยังมีปัญหาอุปสรรคอีกมาก
นางสาวเสาวรส กาญจนภูมิ ผู้อำนวยการกองเอเชียใต้ กล่าวว่า การที่จังหวัดภูเก็ตจะเข้าไปเชื่อมการค้าการลงทุนกับพอร์ตแบลร์ จะต้องศึกษากฎระเบียบต่างๆ ของพอร์ตแบลร์ให้ชัดเจนก่อน เพราะอันดามันนิโคบาร์เป็นส่วนที่รัฐบาลอินเดียถือเป็นพื้นที่หวงห้ามเกี่ยวกับความมั่นคง การที่จะเปิดให้คนจากประเทศอื่นๆ เข้าไปค่อนข้างที่จะทำได้ยากมาก การที่จะเข้าไปในพอร์ตแบลร์ได้ ต้องให้รัฐบาลกลางผ่อนคลายกฎต่างๆ ก่อน และบางครั้งแม้ว่ารัฐบาลกลางของอินเดียเห็นชอบแล้ว ก็ไม่แน่ว่า รัฐต่างๆ จะเห็นชอบด้วยหรือไม่
ขณะที่ นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า หากการหารือความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างภูเก็ตกับพอร์ตแบลร์ยังไม่มีความคืบหน้าโดยพอร์ตแบลร์ยังไม่ผ่อนคลายกฎต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย การลงนามเป็นบ้านพี่เมืองน้องระหว่างภูเก็ตกับพอร์ตแบลร์ ก็จะไม่เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสองฝ่ายตามที่ได้คาดหวังกันไว้ โดยเฉพาะการค้าขายในเรื่องของวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่ภูเก็ตพร้อมที่จะส่งไปขายและพอร์ตแบลร์ก็มีความต้องการ ซึ่งการเจรจารอบนี้หากยังไม่มีความคืบหน้า ก็อาจจะยุติความสัมพันธ์ ที่ร่วมลงนามไปก่อนหน้านี้
"ภูเก็ตมีเมืองที่ต้องการเป็นเมืองพี่เมืองน้องอีกหลายเมือง ที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะหากความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าก็จะไม่เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย"
เมื่อเร็วๆนี้ นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุม การพัฒนาความร่วมมือทางด้านการค้า การลงทุน ระหว่างภูเก็ต-พอร์ตแบลร์ ประเทศอินเดีย ภายหลังภูเก็ตและพอร์ตแบลร์ได้มีการลงนามสถาปนาการเป็นเมืองพี่เมืองน้องระหว่างกัน ซึ่งการประชุมในครั้งนี้จังหวัดภูเก็ต ได้เชิญผู้แทนจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ผู้แทนจากกรมส่งเสริมการส่งออก ผู้แทนจากกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา มาร่วมหารือ ถึงแนวทางการเชื่อมการค้าและการลงทุนระหว่างกันด้วย
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและหาแนวทาง ในการที่จะเดินทางไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอินเดีย ที่กรุงนิวเดลี ประมาณต้นปีหน้า โดยจังหวัดภูเก็ตได้เตรียมประเด็นเกี่ยวกับความร่วมมือ ไปหารือกับรัฐบาลกลางของอินเดียในหลายประเด็นด้วยกัน คือ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การนำเข้าสัตว์น้ำ และไม้จากพอร์ตแบลร์มายังภูเก็ต ภายหลังจากการเจรจาทางด้านการค้า การลงทุน การบิน การประมง ในระดับภูเก็ต และพอร์ตแบลร์ไม่คืบหน้า เพราะพอร์ตแบลร์ ไม่มีอำนาจการตัดสินใจ ทุกอย่างจะต้องรอนโยบายจากรัฐบาลกลางทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จากการหารือร่วมกับตัวแทนจากกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการลงทุนกับอินเดีย ทำให้ทราบว่า การแลกเปลี่ยนการค้าและการลงทุนกับพอร์ตแบลร์ ยังมีปัญหาอุปสรรคอีกมาก
นางสาวเสาวรส กาญจนภูมิ ผู้อำนวยการกองเอเชียใต้ กล่าวว่า การที่จังหวัดภูเก็ตจะเข้าไปเชื่อมการค้าการลงทุนกับพอร์ตแบลร์ จะต้องศึกษากฎระเบียบต่างๆ ของพอร์ตแบลร์ให้ชัดเจนก่อน เพราะอันดามันนิโคบาร์เป็นส่วนที่รัฐบาลอินเดียถือเป็นพื้นที่หวงห้ามเกี่ยวกับความมั่นคง การที่จะเปิดให้คนจากประเทศอื่นๆ เข้าไปค่อนข้างที่จะทำได้ยากมาก การที่จะเข้าไปในพอร์ตแบลร์ได้ ต้องให้รัฐบาลกลางผ่อนคลายกฎต่างๆ ก่อน และบางครั้งแม้ว่ารัฐบาลกลางของอินเดียเห็นชอบแล้ว ก็ไม่แน่ว่า รัฐต่างๆ จะเห็นชอบด้วยหรือไม่
ขณะที่ นายอุดมศักดิ์ กล่าวว่า หากการหารือความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างภูเก็ตกับพอร์ตแบลร์ยังไม่มีความคืบหน้าโดยพอร์ตแบลร์ยังไม่ผ่อนคลายกฎต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย การลงนามเป็นบ้านพี่เมืองน้องระหว่างภูเก็ตกับพอร์ตแบลร์ ก็จะไม่เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสองฝ่ายตามที่ได้คาดหวังกันไว้ โดยเฉพาะการค้าขายในเรื่องของวัสดุก่อสร้างต่างๆ ที่ภูเก็ตพร้อมที่จะส่งไปขายและพอร์ตแบลร์ก็มีความต้องการ ซึ่งการเจรจารอบนี้หากยังไม่มีความคืบหน้า ก็อาจจะยุติความสัมพันธ์ ที่ร่วมลงนามไปก่อนหน้านี้
"ภูเก็ตมีเมืองที่ต้องการเป็นเมืองพี่เมืองน้องอีกหลายเมือง ที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างกัน เพราะหากความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าก็จะไม่เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย"