ในหลวงให้ทหารหนักแน่น ทรงห่วงบ้านเมืองไม่น่าไว้ใจ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท แก่ทหารรักษาพระองค์ในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ความว่า ขอขอบใจในคำอวยพร และ คำถวายสัตย์ปฏิญาณที่เกิดจากความจริงใจของทุกคน เป็นที่ทราบกันดีว่า ทหารมีหน้าที่ป้องกันประเทศ และปกป้องคุ้มครองประชาชนให้มีชีวิตอยู่ด้วยความร่มเย็นเป็นปกติสุข หน้าที่ตรงนี้ถือว่าสำคัญมากโดยเฉพาะในระยะปัจจุบัน สถานการณ์ในบ้านเมืองเราอาจจะกล่าวได้ว่าไม่น่าไว้วางใจนัก เหตุเพราะภัยอันตราย และความไม่เป็นปกตินานาประการ ทหารจึงต้องสำนึกตระหนักในความรับผิดชอบนี้ให้ดี และทำหน้าที่ของตนให้เข้มแข็ง หนักแน่นยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากสามารถกระทำได้ครบถ้วนแท้จริง ก็ จะเป็นความสำเร็จ เป็นความดี เป็นเกียรติ เป็นศักดิ์ศรีของทหาร และกองทัพไทย ประชาชนก็จะอยู่เย็นเป็นสุข บ้านเมืองก็จะอยู่รอดปลอดภัย และดำรงอยู่ได้ด้วยความมั่นคง สวัสดี

ทั้งนี้ พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตน และสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ เนื่องในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2548 เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (2ธ.ค.)โดยมี พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช เสนาธิการทหาร พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.โสภณ ศีลพิพัฒน์ เสนาธิการทหารบก พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.ร.อ.วีรพล วรานนท์ เสนาธิการทหารเรือ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต เสนาธิการทหารอากาศ ตามเสด็จพระราชดำเนินทรงตรวจพลสวนสนาม

พล.ต.พฤณท์ สุวรรณทัต ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ ในฐานะผู้บังคับกองผสมนำทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ จำนวน 13 กองพัน ร่วมพิธีสวนสนาม และถวายสัตย์ปฏิญาณตน

จากนั้นเวลา 17.15 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จโดยรถยนต์พระที่นั่ง มายังบริเวณต้นขบวนแถวทหาร จากนั้น พล.ต.พฤณท์ ได้กราบบังคมทูลถวายรายงานขอพระราชทานกราบบังคับทูลอัญเชิญเสด็จพระราชดำเนินตรวจพลสวนสนามด้วยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยนายทหารพิเศษ ประจำหน่วยทหารรักษาพระองค์ 8 นาย ตามเสด็จ ซึ่งภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงตรวจพลสวนสนามแล้ว ได้เสด็จขึ้นสู่พลับพลาที่ประทับ ผู้บังคับกองพันและหมู่เชิญธงชัยเฉลิมพล เข้าประจำที่หน้าพลับพลา

ต่อมาพล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.ทหารสูงสุด นำทหารผู้ใหญ่กราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล หลังจบคำถวายพระพร พล.อ.เรืองโรจน์ นำพานดอกไม้ธูปเทียนแพทูลเกล้าฯ ถวายจากนั้นได้นำทหารถวายคำสัตย์ปฏิญาณความว่า “ทหารรักษาพระองค์จักยอมตามเพื่อรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งมหากษัตริย์เจ้าจะถวายรักษาความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทจนชีวิตหาไม่ พร้อมทั้งเชิดชูและรักษาไว้ ซึ่งเกียรติยศเกียรติศักดิ์ของทหารรักษาพระองค์” จากนั้นผู้บังคับกองผสมสั่งถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมปล่อยลูกโป่งและแพถวายพระพรทรงพระเจริญ พร้อมปืนใหญ่ยิงสลุตถวาย 21 นัด

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสร็จหน้าพลับพลาที่ประทับ พระราชทานพระบรมราโชวาท แก่นายทหารผู้ใหญ่ที่เข้าเฝ้าฯ และทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ เมื่อกล่าวจบผู้บังคับกองผสมได้สั่งกองผสมสวนสนามผ่านหน้าพลับพลาที่ประทับจำนวน 12 กองพัน และ กองพันทหารม้ารักษาพระองค์ 1 กองพัน สวนสนามผ่านหน้าพลับพลาตามลำดับ ภายหลังเสร็จสิ้นการสวนสนามกองดุริยางขับร้องเพลง “ป่ารักน้ำ”ภายหลังจบเพลงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถฯ เสด็จกลับ ด้วยรถยนต์พระที่นั่ง ผู้บังคับกองผสม พร้อมทหารนำถวายพระพรเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ”พร้อมกัน 3 ครั้ง เป็นอันเสร็จพิธี

สำหรับในช่วงเช้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.สิริชัย ธัญญสิริ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานนำข้าราชการกระทรวงกลาโหม ทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ เพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธ.ค.48 โดยในพิธี พล.อ.สิริชัย เป็นประธานเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ กล่าวต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ว่า เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ขอเชิญชวนข้าราชการในสังกักระทรวงกลาโหมพร้อมใจกันเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เกิดประโยชน์สุขแก่ประเทศชาติและประชาชนสืบไป เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นราชสักการะ เป็นราชสดุดี และร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงครองแผ่นดินโดยธรรมโดยตลอด

จากนั้นประธานในพิธีได้กล่าวนำถวายสัตย์ปฏิญาณว่า จะประพฤติปฏิบัติเป็นข้าราชการที่ดีตามรอยพระยุคลบาท จะมุ่งมั่นแน่วแน่แก้ไขปัญหาของชาติและประชาชน และเสริมสร้างคุณประโยชน์ให้แก่แผ่นดิน โดยยึดมั่นในหลักธรรมและความถูกต้องตลอดไป

ส่วนที่กองบัญชาการกองทัพเรือ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสการฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในปี 2549 กองทัพเรือจะจัดแสดงนิทรรศการพระราชกรณียกิจ 60 ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่หอประชุมกองทัพเรือ และแสดงกระบวนพระยุหยาตราทางชลมารคในเวลากลางคืนในวันที่ 12 มิถุนายน 2549 โดยมีเรือเข้าร่วมกระบวนทั้งสิ้น 52 ลำ ซึ่งกองทัพเรือได้เตรียมฝึกฝีพายเรือจำนวน 2,400 คน ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ทั้งนี้ เพื่อถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งพระมหากษัตริย์จากอีก 28 ประเทศที่จะมาร่วมทอดพระเนตร ซึ่งกองทัพเรือจะจัดซ้อมใหญ่เหมือนจริงในแม่น้ำจำนวน 7 ครั้ง เป็นเวลากลางวัน 2 ครั้ง กลางคืน 5 ครั้ง จึงเป็นโอกาสที่ประชาชนจะได้ชมล่วงหน้า เพื่อจะได้ไม่ต้องมาเบียดแออัดในวันจริง จึงอยากจะเชิญประชาชนให้ติดตามชมในเวลากลางคืนที่กองทัพเรือจัดซ้อม

ด้านนายรองพล เจริญพันธุ์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ประจำปี 2548 ที่กรมประชาสัมพันธ์ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีข้าราชการสังกัดสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมพิธี โดยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลและถวายสัตย์ปฏิญาณตนเป็นข้าราชการที่ดีและเป็นพลังของแผ่นดิน พร้อมร้องเพลง ภูมิแผ่นดินนวมินทร์มหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยมีข้าราชการเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก