"ผัน"เผย 23 พ.ย.นี้ น่าจะรู้ว่าจะได้ตุลาการศาลปกครองหรือไม่ เชื่อทุกคนกลัวปัญหาเปลืองตัวจึงไม่อยากมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
นายผัน จันทรปาน ตุลการศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติหน้าที่ประธานที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง กรณีการส่งรายชื่อตุลาการศาลปกครองสูงสุด มาให้กับวุฒิสภาเพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าในเรื่องดังกล่าวทางวุฒิสภาได้เป็นตัวกลางในการประสาน ให้ศาลปกครองส่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดมาให้พิจารณา ซึ่งได้ส่งเรื่องไปยังศาลปกครองเป็นครั้งที่ 3 แล้ว และให้ตอบมาภายในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพราะมีปัญหาในเรื่องตั้งคณะกรรมการสรรหา กกต.
ทั้งนี้หากศาลปกครองส่งมาเมื่อไร และผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว ทางศาลรัฐธรรมนูญก็พร้อมที่จะเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที
"อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการที่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดไม่มีใครสมัครใจมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเขาทำงานในฐานะตุลาการศาลปกครองเข้าที่เข้าทางแล้ว และเป็นข้าราชการประจำ ซึ่งมีลักษณะต่างกับการมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องเปลืองตัว และดูได้จากตุลการศาลปกครองบางคนที่เป็นรุ่นเดียวกับผม ซึ่งปัจจุบันบางคนได้เป็นหัวหน้าคณะ จึงเป็นว่า การอยู่ที่ศาลปกครองจะดีกว่า"นายผัน กล่าว
นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด ส่งรายชื่อไปยังวุฒิสภา และทางวุฒิสภาส่งเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตาม มาตรา 255 วรรค 2 และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ทำการคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญได้แล้ว ก็จะแจ้งเรื่องไปยังวุฒิสภา เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และถวายสัตย์ต่อไป ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้รับแจ้งจากทางวุฒิสภา ในขั้นตอนการดำเนินการของศาลคงไม่ล่าช้า และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญที่จะเข้าไปทำหน้าที่ได้ทันกับกระบวนการสรรหา กกต.ตามที่กฎหมายกำหนด
นายผัน จันทรปาน ตุลการศาลรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติหน้าที่ประธานที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง กรณีการส่งรายชื่อตุลาการศาลปกครองสูงสุด มาให้กับวุฒิสภาเพื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าในเรื่องดังกล่าวทางวุฒิสภาได้เป็นตัวกลางในการประสาน ให้ศาลปกครองส่งตุลาการศาลปกครองสูงสุดมาให้พิจารณา ซึ่งได้ส่งเรื่องไปยังศาลปกครองเป็นครั้งที่ 3 แล้ว และให้ตอบมาภายในวันที่ 23 พ.ย.นี้ เพราะมีปัญหาในเรื่องตั้งคณะกรรมการสรรหา กกต.
ทั้งนี้หากศาลปกครองส่งมาเมื่อไร และผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว ทางศาลรัฐธรรมนูญก็พร้อมที่จะเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญได้ทันที
"อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการที่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดไม่มีใครสมัครใจมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนหนึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเขาทำงานในฐานะตุลาการศาลปกครองเข้าที่เข้าทางแล้ว และเป็นข้าราชการประจำ ซึ่งมีลักษณะต่างกับการมาเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่ต้องเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งเป็นเรื่องเปลืองตัว และดูได้จากตุลการศาลปกครองบางคนที่เป็นรุ่นเดียวกับผม ซึ่งปัจจุบันบางคนได้เป็นหัวหน้าคณะ จึงเป็นว่า การอยู่ที่ศาลปกครองจะดีกว่า"นายผัน กล่าว
นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เมื่อที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุด ส่งรายชื่อไปยังวุฒิสภา และทางวุฒิสภาส่งเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตาม มาตรา 255 วรรค 2 และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้ทำการคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญได้แล้ว ก็จะแจ้งเรื่องไปยังวุฒิสภา เพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และถวายสัตย์ต่อไป ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้รับแจ้งจากทางวุฒิสภา ในขั้นตอนการดำเนินการของศาลคงไม่ล่าช้า และไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการคัดเลือกประธานศาลรัฐธรรมนูญที่จะเข้าไปทำหน้าที่ได้ทันกับกระบวนการสรรหา กกต.ตามที่กฎหมายกำหนด