ผู้จัดการรายวัน - ศึกเจ๊ใหญ่-นายหญิงปะทุอีกรอบ ผอ.ศูนย์นเรนทรวิ่งโร่หอบหลักฐานประมูลรถพยาบาลฉาวให้ดีเอสไอ ขอความเป็นธรรมพิสูจน์ใครโกง ใครผิด เผยไม่อยากเป็นแพะรับบาป ถูกฝ่ายการเมืองกลั่นแกล้ง เปรย ็ผมถูกสั่งให้ทำความผิดิ ขณะที่กมธ.สภาสรุปผลสอบคอมพ์ 900 ล.ชี้ชัดิหมอวิชัย-ชาตรีิผิด ขณะที่ ็สุชัยิ สับเละเรื่องวุ่นในสธ.เกิดจากข้าราชการระดับสูงเพียง 6-7 คน ย้ำ 2-3 เรื่องที่กำลังสะสางใกล้จบแล้ว
น.พ.สมชาย กาญจนสุต ผู้อำนวยการสำนักงานระบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน(ศูนย์นเรนทร) เปิดเผยว่า วานนี้(13 ต.ค.)ได้นำเอกสารและหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับการประมูลรถพยาบาล232 คันของกระทรวงสาธารณสุขเท่าที่มีไปมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องการประมูลดังกล่าวว่ามีการทุจริตหรือมีใครถูก-ผิดอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาเรื่องประมูลรถพยาบาลมีความล่าช้ามากกว่า 1 ปีและตนเองกำลังจะกลายเป็นแพะรับบาปได้เรื่องนี้โดยถูกฝ่ายการเมืองกลั่นแกล้ง
สำหรับจุดประสงค์ของการมายื่นเรื่องในครั้งนี้เพื่อต้องการให้มีการสอบสวนอย่างเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาเรื่องการประมูลรถพยาบาลเป็นเรื่องที่มีความสับสนและวุ่นวายมาก ไม่ใช่การกลั่นแกล้งข้าราชการประจำโดยมีฝ่ายการเมืองมาแทรกแซง ถ้ามีคนผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
“ผมโดนบังคับให้ทำความผิด ซึ่งจะเป็นอะไรผมไม่สามารถบอกได้ต้องอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ทุกวันนี้ผมเดือดร้อนถูกกล่าวหา ผมจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นผมจะถูกกล่าวหาว่ามีความผิดในข้อหาล็อคสเปคซึ่งมีคนออกมาให้ข่าวอย่างต่อเนื่อง ถ้าผมไม่เคลียร์ตัวเองในเรื่องนี้ ประวัติผมจะมีมลทิน และการมาในครั้งนี้ไม่ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ท่านใดทั้งสิ้นไม่ได้ปรึกษาปลัดสธ. แต่เป็นการดำเนินการของผมเองทั้งไม่ได้เป็นการโต้ตอบผู้บังคับบัญชาด้วยแต่ทำด้วยศักดิ์ศรีของข้าราชการประจำิ
ส่วนกรณที่มติคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า การประมูลรถพยาบาลมีการล็อคสเปคนั้น ต้องตีความว่าอะไรคือการล็อคสเปก ที่ผ่านมาการกำหนดสเปกรถพยาบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้รายเดียว อยากชี้แจงให้เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้รถพยาบาลที่เต็มประสิทธิภาพด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดศึกรอบใหม่ระหว่าง “เจ๊ใหญ่” กับ “นายหญิง” หลังจากเคยเปิดศึกกันมาแล้วในการโยกย้าย 9 ข้าราชการระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข
ที่รัฐสภา รศ.ดร.สายหยุด นิยมวิภาต เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อและติดตั้งระบบบคอมพิวเตอร์ สธ. ในคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานปลัดสธ. วงเงิน 911,784,000 บาท ว่า
1.กรณีน.พ.วิชัย เทียนถาวร ประกาศยกเลิกการประกวดราคาซื้อและติดตั้งคอมพิวเตอร์เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2548 นั้น กมธ.เห็นว่าเป็นการพิจารณายกเลิกการประกวดราคาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2. การที่คณะกรรมการประกวดราคาที่มี น.พ.ชาตรี บานชื่น เป็นประธานไม่เสนอให้จ้างกิจการร่วมค้าพีสแควร์ไทยคอม ทั้งๆ ที่เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ข้อ50และข้อ53และผิดวินัยข้อ 10 ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 85
3.การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงล่าช้ามากและน่าสงสัยว่าดำเนินการอย่างโปร่งใสหรือไม่
วันเดียวกัน ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีการเสวนาในหัวข้อ ็เงื่อนปมการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ สธ. 900 ล้านกับการโยกย้ายใน สธ.ิ โดยพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบปัญหาการทุจริต วุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคาที่มีน.พ.ชาตรี เป็นประธาน ได้รายงานผลการพิจารณาการประมูลล่าช้าทั้งที่มีการต่อรองราคากันแล้ว เมื่อวันที่ 16 เม.ย.47 แต่กลับเก็บเรื่องแช่ไว้ไม่มีการนำเสนอต่อปลัดกระทรวง
สธ. และในช่วงแรกบริษัทไพร์มลิ้งค์ก็ไม่ได้มีการโต้แย้งที่จะให้บริษัทพีสแคว์ชนะการประมูล แต่กลับทำเรื่องร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการ สธ.แทน และต่อมาคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคายังมีการนำเรื่องราคาต่อประสิทธิภาพของคอมพ์ซึ่งไม่มีกำหนดไว้ในทีโออาร์มาใช้พิจารณา จนในที่สุดคณะกรรมการฯได้เสนอให้ปลัด สธ.ยกเลิกการประกวดราคา
ปัญหาที่อยากชี้ให้เห็น คือ ทำไมคณะกรรมการชุดเดียวกันตอนแรกบอกให้ชนะการประกวดราคา แต่ต่อมากลับไม่ยืนตามมติเดิม ซึ่งต้องมีอำนาจที่เหนือกว่ามาทำให้คณะกรรมการชุดนี้เปลี่ยนความเห็นได้ ดังนั้น คณะกรรมาการชุดนี้จึงมีความเห็นโดยไม่ชอบ ต้องได้รับการพิจารณาโทษทั้งทางวินัย และทางอาญา
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล เลขาธิการมูลนิธิสุขภาพไทยและประธานเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต่อต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า ทางเครือข่ายจะไปยื่นเรื่องต่อ ศ.น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สธ.เพื่อให้ตั้งน.พ.บรรลุ ศิริพานิช หรือกรรมการที่ยอมรับได้ขึ้นมาเป็นกรรมการชุดใหม่โดยคาดว่าจะเข้ายื่นหนังสือได้ภายในสัปดาห์หน้า และอยากให้ ศ.น.พ.สุชัยใช้เวลาที่เหลืออยู่แสดงภาวะผู้นำแก้ไขปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้น
ขณะที่น.พ.วิชัย กล่าวถึงข้อสรุปของทาง กมธ.สธ. สภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันว่าได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนโดยพิจารณาจากระเบียบของทางกระทรวงการคลังที่ทาง สธ.ได้ยืนหารือไปก่อนหน้านี้และในประเด็นในการพิจารณายกเลิกก็ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาของทางคณะกรรมการประกวดราคาคอมพ์ที่มี น.พ.ชาตรี เป็นประธานในวันที่ 16 เม.ย.แต่เป็นความไม่ถูกต้องในกระบวนการจัดซื้อที่ไม่มีการตรวจเอกสารของบริษัทต่าง ๆ
ด้าน น.พ.สุชัยให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาวุ่นวายภายใน สธ. เกิดจากข้าราชการระดับสูงพียง 6 - 7 คน ขอยืนยันว่า สธ.ยังมีคนเก่ง คนดี คนขยันทำงานอีกเป็นจำนวนมากที่สามารถเข้ามาทดแทนได้ แต่คนเหล่านั้นไม่มีโอกาสที่แสดงฝีมือในตำแหน่งผู้บริหารในระดับกรมและกระทรวง บุคคลในส่วนภูมิภาคเหล่านี้เป็นตัวจักรสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนงานและใกล้ชิดประชาชนที่สุด คือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
สำหรับปัญหา 2 - 3 เรื่องที่จะสะสางก่อนถึงวันที่ 31 ต.ค. น.พ.สุชัย กล่าวว่า กำลังดำเนินการ รออีก 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับการจัดซื้อรถพยาบาลที่ขณะนี้ฝ่ายข้าราชการกำลังทำงานเต็มที่ ให้ถูกต้อง โปร่งใส ยึดผลประโยชน์ของราชการ เป็นสำคัญ
น.พ.สมชาย กาญจนสุต ผู้อำนวยการสำนักงานระบบริการการแพทย์ฉุกเฉิน(ศูนย์นเรนทร) เปิดเผยว่า วานนี้(13 ต.ค.)ได้นำเอกสารและหลักฐานทั้งหมดเกี่ยวกับการประมูลรถพยาบาล232 คันของกระทรวงสาธารณสุขเท่าที่มีไปมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้ดำเนินการสอบสวนเรื่องการประมูลดังกล่าวว่ามีการทุจริตหรือมีใครถูก-ผิดอย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมาเรื่องประมูลรถพยาบาลมีความล่าช้ามากกว่า 1 ปีและตนเองกำลังจะกลายเป็นแพะรับบาปได้เรื่องนี้โดยถูกฝ่ายการเมืองกลั่นแกล้ง
สำหรับจุดประสงค์ของการมายื่นเรื่องในครั้งนี้เพื่อต้องการให้มีการสอบสวนอย่างเป็นธรรม เพราะที่ผ่านมาเรื่องการประมูลรถพยาบาลเป็นเรื่องที่มีความสับสนและวุ่นวายมาก ไม่ใช่การกลั่นแกล้งข้าราชการประจำโดยมีฝ่ายการเมืองมาแทรกแซง ถ้ามีคนผิดก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
“ผมโดนบังคับให้ทำความผิด ซึ่งจะเป็นอะไรผมไม่สามารถบอกได้ต้องอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ทุกวันนี้ผมเดือดร้อนถูกกล่าวหา ผมจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นผมจะถูกกล่าวหาว่ามีความผิดในข้อหาล็อคสเปคซึ่งมีคนออกมาให้ข่าวอย่างต่อเนื่อง ถ้าผมไม่เคลียร์ตัวเองในเรื่องนี้ ประวัติผมจะมีมลทิน และการมาในครั้งนี้ไม่ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ท่านใดทั้งสิ้นไม่ได้ปรึกษาปลัดสธ. แต่เป็นการดำเนินการของผมเองทั้งไม่ได้เป็นการโต้ตอบผู้บังคับบัญชาด้วยแต่ทำด้วยศักดิ์ศรีของข้าราชการประจำิ
ส่วนกรณที่มติคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรระบุว่า การประมูลรถพยาบาลมีการล็อคสเปคนั้น ต้องตีความว่าอะไรคือการล็อคสเปก ที่ผ่านมาการกำหนดสเปกรถพยาบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้รายเดียว อยากชี้แจงให้เข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้รถพยาบาลที่เต็มประสิทธิภาพด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่าจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดศึกรอบใหม่ระหว่าง “เจ๊ใหญ่” กับ “นายหญิง” หลังจากเคยเปิดศึกกันมาแล้วในการโยกย้าย 9 ข้าราชการระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข
ที่รัฐสภา รศ.ดร.สายหยุด นิยมวิภาต เลขานุการคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อและติดตั้งระบบบคอมพิวเตอร์ สธ. ในคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดซื้อและติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ของสำนักงานปลัดสธ. วงเงิน 911,784,000 บาท ว่า
1.กรณีน.พ.วิชัย เทียนถาวร ประกาศยกเลิกการประกวดราคาซื้อและติดตั้งคอมพิวเตอร์เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2548 นั้น กมธ.เห็นว่าเป็นการพิจารณายกเลิกการประกวดราคาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
2. การที่คณะกรรมการประกวดราคาที่มี น.พ.ชาตรี บานชื่น เป็นประธานไม่เสนอให้จ้างกิจการร่วมค้าพีสแควร์ไทยคอม ทั้งๆ ที่เป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดเป็นการกระทำที่ขัดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ข้อ50และข้อ53และผิดวินัยข้อ 10 ตามพ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2535 มาตรา 85
3.การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงล่าช้ามากและน่าสงสัยว่าดำเนินการอย่างโปร่งใสหรือไม่
วันเดียวกัน ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้มีการเสวนาในหัวข้อ ็เงื่อนปมการจัดซื้อคอมพิวเตอร์ สธ. 900 ล้านกับการโยกย้ายใน สธ.ิ โดยพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพประธานคณะกรรมการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบปัญหาการทุจริต วุฒิสภา กล่าวว่า คณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคาที่มีน.พ.ชาตรี เป็นประธาน ได้รายงานผลการพิจารณาการประมูลล่าช้าทั้งที่มีการต่อรองราคากันแล้ว เมื่อวันที่ 16 เม.ย.47 แต่กลับเก็บเรื่องแช่ไว้ไม่มีการนำเสนอต่อปลัดกระทรวง
สธ. และในช่วงแรกบริษัทไพร์มลิ้งค์ก็ไม่ได้มีการโต้แย้งที่จะให้บริษัทพีสแคว์ชนะการประมูล แต่กลับทำเรื่องร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการ สธ.แทน และต่อมาคณะกรรมการพิจารณาการประกวดราคายังมีการนำเรื่องราคาต่อประสิทธิภาพของคอมพ์ซึ่งไม่มีกำหนดไว้ในทีโออาร์มาใช้พิจารณา จนในที่สุดคณะกรรมการฯได้เสนอให้ปลัด สธ.ยกเลิกการประกวดราคา
ปัญหาที่อยากชี้ให้เห็น คือ ทำไมคณะกรรมการชุดเดียวกันตอนแรกบอกให้ชนะการประกวดราคา แต่ต่อมากลับไม่ยืนตามมติเดิม ซึ่งต้องมีอำนาจที่เหนือกว่ามาทำให้คณะกรรมการชุดนี้เปลี่ยนความเห็นได้ ดังนั้น คณะกรรมาการชุดนี้จึงมีความเห็นโดยไม่ชอบ ต้องได้รับการพิจารณาโทษทั้งทางวินัย และทางอาญา
ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล เลขาธิการมูลนิธิสุขภาพไทยและประธานเครือข่าย 30 องค์กรพัฒนาเอกชนต่อต้านคอรัปชั่น กล่าวว่า ทางเครือข่ายจะไปยื่นเรื่องต่อ ศ.น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สธ.เพื่อให้ตั้งน.พ.บรรลุ ศิริพานิช หรือกรรมการที่ยอมรับได้ขึ้นมาเป็นกรรมการชุดใหม่โดยคาดว่าจะเข้ายื่นหนังสือได้ภายในสัปดาห์หน้า และอยากให้ ศ.น.พ.สุชัยใช้เวลาที่เหลืออยู่แสดงภาวะผู้นำแก้ไขปัญหาทุจริตที่เกิดขึ้น
ขณะที่น.พ.วิชัย กล่าวถึงข้อสรุปของทาง กมธ.สธ. สภาผู้แทนราษฎร โดยยืนยันว่าได้ดำเนินการไปตามขั้นตอนโดยพิจารณาจากระเบียบของทางกระทรวงการคลังที่ทาง สธ.ได้ยืนหารือไปก่อนหน้านี้และในประเด็นในการพิจารณายกเลิกก็ไม่เกี่ยวกับการพิจารณาของทางคณะกรรมการประกวดราคาคอมพ์ที่มี น.พ.ชาตรี เป็นประธานในวันที่ 16 เม.ย.แต่เป็นความไม่ถูกต้องในกระบวนการจัดซื้อที่ไม่มีการตรวจเอกสารของบริษัทต่าง ๆ
ด้าน น.พ.สุชัยให้สัมภาษณ์ว่า ปัญหาวุ่นวายภายใน สธ. เกิดจากข้าราชการระดับสูงพียง 6 - 7 คน ขอยืนยันว่า สธ.ยังมีคนเก่ง คนดี คนขยันทำงานอีกเป็นจำนวนมากที่สามารถเข้ามาทดแทนได้ แต่คนเหล่านั้นไม่มีโอกาสที่แสดงฝีมือในตำแหน่งผู้บริหารในระดับกรมและกระทรวง บุคคลในส่วนภูมิภาคเหล่านี้เป็นตัวจักรสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนงานและใกล้ชิดประชาชนที่สุด คือ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
สำหรับปัญหา 2 - 3 เรื่องที่จะสะสางก่อนถึงวันที่ 31 ต.ค. น.พ.สุชัย กล่าวว่า กำลังดำเนินการ รออีก 2 สัปดาห์ เช่นเดียวกับการจัดซื้อรถพยาบาลที่ขณะนี้ฝ่ายข้าราชการกำลังทำงานเต็มที่ ให้ถูกต้อง โปร่งใส ยึดผลประโยชน์ของราชการ เป็นสำคัญ