ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "อิมพีเรียล นราธิวาส"จัดซอฟต์โอเพ่นนิ่งสัปดาห์หน้า พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไม่เกินปลายกันยาฯ มั่นใจธุรกิจไปได้สวย หลังดึงมือดีลูกหม้อเก่ามากว่า 25 ปีนั่งบริหารงานด้านการตลาด วาดแผนสร้างความมั่นใจให้คนในพื้นที่ ก่อนรุกเจาะตลาดชาวมาเลเซีย เตรียมจับมือยักษ์ใหญ่ธุรกิจเรือสำราญสตาร์ครุยซ์ พร้อมเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับเกาะ Perhacian ในรัฐตรังกานูของเสือเหลือง
นายวาที ยามา กรรมการบริหารการตลาด บริษัท สยามนราออยล์ปาล์ม แพลนเทชั่น จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาด้านการตลาดโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภายหลังที่บริษัท กลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล จำกัด ได้ตกลงซื้อโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส นราธิวาส จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในราคา 70 ล้านบาท แล้วนำมาเปลี่ยนชื่อใหม่และพร้อมจะเปิดให้บริการไม่เกินเดือนกันยายนนั้น ตนได้รับการติดต่อจากผู้บริหารกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ให้เข้ามาช่วยดูแลงานด้านการตลาดของโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส ที่กำลังจะเปิดให้บริการใหม่
"เหตุผลที่กลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลขอให้ผมไปช่วยด้านการตลาด คาดว่าคงเป็นเพราะผมคือลูกหม้อเก่าของอิมพีเรียลนั่นเอง ผมทำงานกับเครือโรงแรมแห่งนี้มากว่า 25 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตอนนี้มาทำธุรกิจส่วนตัวที่มีติดต่อการค้ากับฝั่งประเทศมาเลเซียด้วย ผู้ใหญ่เลยขอให้ช่วย ซึ่งผมก็ยินดีเพราะเป็นการช่วยเหลือบ้านเมืองเราด้วยอีกทางหนึ่ง" นายวาทีกล่าวและว่า
ในเบื้องต้นที่มีการปรึกษากับผู้ใหญ่ของกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าหลังการเซ็นสัญญารับมอบโรงแรมจากแบงก์ไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมาที่ จ.ปัตตานี โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยาน ผู้บริหารต้องการผลักดันให้โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส กลับมาเปิดบริการให้เร็วที่สุด ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าอย่างน้อยต้องไม่เกินเดือนกันยายนหน้านี้
"ที่ผ่านมาเราได้มีการสำรวจโครงสร้างอาคารโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส อย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่จะต้องมีการตกแต่งใหม่เพิ่มเติมเข้าไปเท่านั้น ซึ่งก็ได้เร่งดำเนินการกันไปแล้ว ล่าสุดมีการหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ช่วงสัปดาห์หน้าโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส จะมีซอฟต์โอเพ่นนิ่ง หรือการเปิดแบบอย่างไม่เป็นทางการ แต่ยังไม่กำหนดว่าจะเป็นวันไหน ซึ่งก็จะมีบางส่วนของโรงแรมเปิดให้บริการลูกค้าได้"
ที่ปรึกษาด้านการตลาดโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส กล่าวต่อไปว่า การตัดสินใจทำธุรกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลครั้งนี้ เหตุผลสำคัญที่สุดคือผู้บริหารเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ และต้องการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างความมั่นใจทั้งต่อนักลงทุนในพื้นที่ จากต่างถิ่นและจากต่างประเทศ ดังนั้นในเรื่องของนโยบายการตลาดก็ต้องอาศัยคนพื้นที่เป็นกำลังสำคัญเช่นกัน จากนั้นจึงจะมีการขยับขยายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
"สิ่งแรกที่เราวาดหวังคือ คนในพื้นที่ต้องมาร่วมมือกัน ร่วมกันคิดใหม่หมดว่าขนาดกลุ่มทุนต่างถิ่นยังกล้าที่จะเข้ามาลงทุน แล้วคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยังกลัวอะไร พื้นที่นี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด แต่หากพิจารณาให้ดีจะเห็นศักยภาพมากมาย เห็นความหลากหลายของผู้คนในสังคมนี้ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าสำคัญก็คือกลุ่มคนในพื้นที่ เราจะมีบริการรองรับที่ไม่ขัดแย้งกับวัฒนธรรมประเพณี จากนั้นก็เป็นกลุ่มคนไทยด้วยกัน แล้วก็จะมีการดึงนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียให้มาเป็นลูกค้าหลักด้วย"
นายวาที กล่าวด้วยว่า การเปิดตลาดในช่วงแรกจะมุ่งเน้นที่กลุ่มประชุมสัมมนา โดยเฉพาะหน่วยราชการต่างๆ ควรต้องร่วมช่วยเหลือกันในการฟันฝ่าวิกฤตต่างๆ ไปให้ได้ นอกจากนี้โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เองตั้งอยู่กลางใจเมือง ซึ่งห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซียไม่ถึง 100 กิโลเมตร จึงเชื่อว่าจะง่ายในการทำตลาดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย โดยในอีกไม่นานนี้จะมีการเดินทางไปเปิดตลาดที่นั่น
"ตอนนี้ที่ผมคิดไว้แล้วคือ โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เราจะต้องทำตลาดในมาเลเซีย ประกอบด้วย เราจะจับมือทางธุรกิจกับกลุ่มสตาร์ครุยซ์ เจ้าของธุรกิจเรือสำราญรายใหญ่ อีกทั้งจะพยายามเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับเกาะ Perhacian ในรัฐตรังกานูทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก จ.นราธิวาสของไทยเรา ที่เกาะแห่งนั้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวคล้ายๆ กับเกาะสมุยในบ้านเรา ผมจึงมั่นใจว่าโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส จะต้องเดินหน้าไปได้อย่างสง่างาม" นายวาทีกล่าวในที่สุด
สำหรับโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส นราธิวาสนั้น ในช่วงที่ยังเปิดดำเนินการอยู่จัดเป็นโรงแรมอันดับ 1 ของ จ.นราธิวาส แต่ในเกณฑ์ทั่วไปจัดอยู่ในระดับ 4 ดาว มีห้องพักให้บริการทั้งสิ้น 117 ห้อง ราคาอยู่ระหว่าง 800-2,300 บาท ภายในมีบริการแบบครบวงจรเหมือนโรงแรมมีระดับทั่วๆ ไปไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมสัมมนา ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส เป็นต้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระลอกใหม่ หรือนับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนค่ายทหารวันที่ 14 มกราคม 2547 ก็ได้ประสบภาวะทางธุรกิจจนถึงขั้นต้องประกาศปิดตัวเองมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา
นายวาที ยามา กรรมการบริหารการตลาด บริษัท สยามนราออยล์ปาล์ม แพลนเทชั่น จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาด้านการตลาดโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภายหลังที่บริษัท กลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล จำกัด ได้ตกลงซื้อโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส นราธิวาส จากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในราคา 70 ล้านบาท แล้วนำมาเปลี่ยนชื่อใหม่และพร้อมจะเปิดให้บริการไม่เกินเดือนกันยายนนั้น ตนได้รับการติดต่อจากผู้บริหารกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ให้เข้ามาช่วยดูแลงานด้านการตลาดของโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส ที่กำลังจะเปิดให้บริการใหม่
"เหตุผลที่กลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลขอให้ผมไปช่วยด้านการตลาด คาดว่าคงเป็นเพราะผมคือลูกหม้อเก่าของอิมพีเรียลนั่นเอง ผมทำงานกับเครือโรงแรมแห่งนี้มากว่า 25 ปี โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตอนนี้มาทำธุรกิจส่วนตัวที่มีติดต่อการค้ากับฝั่งประเทศมาเลเซียด้วย ผู้ใหญ่เลยขอให้ช่วย ซึ่งผมก็ยินดีเพราะเป็นการช่วยเหลือบ้านเมืองเราด้วยอีกทางหนึ่ง" นายวาทีกล่าวและว่า
ในเบื้องต้นที่มีการปรึกษากับผู้ใหญ่ของกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียล ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าหลังการเซ็นสัญญารับมอบโรงแรมจากแบงก์ไทยพาณิชย์ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมาที่ จ.ปัตตานี โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีร่วมเป็นสักขีพยาน ผู้บริหารต้องการผลักดันให้โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส กลับมาเปิดบริการให้เร็วที่สุด ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่าอย่างน้อยต้องไม่เกินเดือนกันยายนหน้านี้
"ที่ผ่านมาเราได้มีการสำรวจโครงสร้างอาคารโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส อย่างละเอียดแล้ว พบว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย เพียงแต่จะต้องมีการตกแต่งใหม่เพิ่มเติมเข้าไปเท่านั้น ซึ่งก็ได้เร่งดำเนินการกันไปแล้ว ล่าสุดมีการหารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ช่วงสัปดาห์หน้าโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส จะมีซอฟต์โอเพ่นนิ่ง หรือการเปิดแบบอย่างไม่เป็นทางการ แต่ยังไม่กำหนดว่าจะเป็นวันไหน ซึ่งก็จะมีบางส่วนของโรงแรมเปิดให้บริการลูกค้าได้"
ที่ปรึกษาด้านการตลาดโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส กล่าวต่อไปว่า การตัดสินใจทำธุรกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกลุ่มโรงแรมอิมพีเรียลครั้งนี้ เหตุผลสำคัญที่สุดคือผู้บริหารเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่ และต้องการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างความมั่นใจทั้งต่อนักลงทุนในพื้นที่ จากต่างถิ่นและจากต่างประเทศ ดังนั้นในเรื่องของนโยบายการตลาดก็ต้องอาศัยคนพื้นที่เป็นกำลังสำคัญเช่นกัน จากนั้นจึงจะมีการขยับขยายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
"สิ่งแรกที่เราวาดหวังคือ คนในพื้นที่ต้องมาร่วมมือกัน ร่วมกันคิดใหม่หมดว่าขนาดกลุ่มทุนต่างถิ่นยังกล้าที่จะเข้ามาลงทุน แล้วคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะยังกลัวอะไร พื้นที่นี้ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด แต่หากพิจารณาให้ดีจะเห็นศักยภาพมากมาย เห็นความหลากหลายของผู้คนในสังคมนี้ ดังนั้นกลุ่มลูกค้าสำคัญก็คือกลุ่มคนในพื้นที่ เราจะมีบริการรองรับที่ไม่ขัดแย้งกับวัฒนธรรมประเพณี จากนั้นก็เป็นกลุ่มคนไทยด้วยกัน แล้วก็จะมีการดึงนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวจากมาเลเซียให้มาเป็นลูกค้าหลักด้วย"
นายวาที กล่าวด้วยว่า การเปิดตลาดในช่วงแรกจะมุ่งเน้นที่กลุ่มประชุมสัมมนา โดยเฉพาะหน่วยราชการต่างๆ ควรต้องร่วมช่วยเหลือกันในการฟันฝ่าวิกฤตต่างๆ ไปให้ได้ นอกจากนี้โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เองตั้งอยู่กลางใจเมือง ซึ่งห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซียไม่ถึง 100 กิโลเมตร จึงเชื่อว่าจะง่ายในการทำตลาดนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย โดยในอีกไม่นานนี้จะมีการเดินทางไปเปิดตลาดที่นั่น
"ตอนนี้ที่ผมคิดไว้แล้วคือ โรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส เราจะต้องทำตลาดในมาเลเซีย ประกอบด้วย เราจะจับมือทางธุรกิจกับกลุ่มสตาร์ครุยซ์ เจ้าของธุรกิจเรือสำราญรายใหญ่ อีกทั้งจะพยายามเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับเกาะ Perhacian ในรัฐตรังกานูทางตอนเหนือของประเทศมาเลเซีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจาก จ.นราธิวาสของไทยเรา ที่เกาะแห่งนั้นเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวคล้ายๆ กับเกาะสมุยในบ้านเรา ผมจึงมั่นใจว่าโรงแรมอิมพีเรียล นราธิวาส จะต้องเดินหน้าไปได้อย่างสง่างาม" นายวาทีกล่าวในที่สุด
สำหรับโรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส นราธิวาสนั้น ในช่วงที่ยังเปิดดำเนินการอยู่จัดเป็นโรงแรมอันดับ 1 ของ จ.นราธิวาส แต่ในเกณฑ์ทั่วไปจัดอยู่ในระดับ 4 ดาว มีห้องพักให้บริการทั้งสิ้น 117 ห้อง ราคาอยู่ระหว่าง 800-2,300 บาท ภายในมีบริการแบบครบวงจรเหมือนโรงแรมมีระดับทั่วๆ ไปไม่ว่าจะเป็นห้องประชุมสัมมนา ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส เป็นต้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบระลอกใหม่ หรือนับตั้งแต่เหตุการณ์ปล้นปืนค่ายทหารวันที่ 14 มกราคม 2547 ก็ได้ประสบภาวะทางธุรกิจจนถึงขั้นต้องประกาศปิดตัวเองมาแล้วเป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา