ผู้จัดการรายวัน – โดฟ จับกระแสเทรนด์ทำสีผมคนเอเชียมาแรง ทุ่ม 180 ล้านบาท ปรับภาพลักษณ์ใหม่สู่ผู้เชี่ยวชาญดูแลเส้นผมแห้งเสีย สร้างความแตกต่างหวังเลี่ยงเดินเกมชนแพนทีน ขอเวลา 1 ปีโค่นบัลลังก์แพนทีน หวังสิ้นปีแชร์ขยับเป็น 11%
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการ-ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายครีมแชมพูโดฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับภาพลักษณ์ของครีมแชมพู “โดฟ”ให้มีความชัดเจนในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลเส้นผมแห้งเสียมากขึ้น หลังจากเปิดตัวโดฟมากกว่า 3 ปี เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างคู่แข่งแชมพูระดับพรีเมียมด้วยกันเอง
ในปัจจุบันยังไม่มีแชมพูแบรนด์ใดที่โดดเด่นในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผมแห้งเสียและจากภาพลักษณ์ที่โดฟวางไว้ ทำให้จะต้องมีการพัฒนาสูตรใหม่ๆอย่างต่อเนื่องตลอดทุกปี โดยวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 1 ปี หรือปี 2549 โดฟจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแชมพูและครีมนวดระดับพรีเมียมแทนที่แพนทีน จากส่วนแบ่งล่าสุดรอบเดือนก.ค.โดฟ 9.9% สิ้นปีตั้งเป้าเพิ่มเป็น 11%
ล่าสุดบริษัทได้ปรับปรุงครีมแชมพูโดฟ 3 สูตรใหม่ ได้แก่ โดฟ เดลิเคท แคร์, โดฟ เอสเซนเชียล แคร์ และโดฟ มอยซ์เจอร์เธอราพี ซึ่งถือว่าเป็นสูตรหลักของโดฟ และได้เพิ่มครีมคอนดิชั่นเนอร์ใหม่ให้ครบทั้ง 3 สูตร จากก่อนหน้านี้มีเพียง 1 สูตรเท่านั้น เพื่อตอบสนองสภาพเส้นผมที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังได้เปิดตัว “โดฟ มอยซ์เจอร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก” ครีมหมักผมสูตรเข้มข้นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ครีมแชมพูสู่ระดับโกลบอลดีไซน์ โดยการรีลอนช์ในครั้งนี้ทำขึ้นที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก
จากการศึกษาของศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของยูนิลีเวอร์ พบว่า แนวโน้มผู้หญิงในเอเชียมีการทำสีผม ดัด หรือยืดผม ความร้อน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผมเกิดความแห้งเสียได้ ล่าสุดจากการสำรวจเมื่อปลายปี 2547 พบคนไทย 53% มีผมเสียถึงเสียมาก 28% มีผมธรรมดา และ18% มีหนังศีรษะและเส้นผมบอบบาง
สำหรับงบการตลาดในการรีลอนช์ครั้งนี้ 180 ล้านบาท ผ่านการสื่อสารอย่างครบวงจร มีหนังโฆษณาชุดใหม่ เตรียมจัดโรดโชว์ไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งจับมือร่วมกับคลิก เรดิโอ จัดคอนเสิร์ต “Special Live Concert by Dove Specialist” ขึ้นในวันที่ 12 ตุลาคม 2548
แนวโน้มตลาดแชมพูและครีมนวดมูลค่า 8,900 ล้านบาทในปีนี้คาดว่าเติบโต 2-3% แบ่งเป็นแชมพูระดับพรีเมียม 2,225 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 2-3% ส่วนแชมพูทั่วไปมูลค่า 6,675 ล้านบาท เติบโตน้อยกว่า 2-3% โดยปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่งโดยรวม 55% แบ่งเป็น ซันซิล 27.2% คลินิคเคลียร์ 19.9% และโดฟมีส่วนแบ่งลดลงจาก 10.2-10.5% เป็น 9.9% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีจัดกิจกรรมการตลาดมากนัก
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการ-ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคล บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายครีมแชมพูโดฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับภาพลักษณ์ของครีมแชมพู “โดฟ”ให้มีความชัดเจนในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลเส้นผมแห้งเสียมากขึ้น หลังจากเปิดตัวโดฟมากกว่า 3 ปี เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างคู่แข่งแชมพูระดับพรีเมียมด้วยกันเอง
ในปัจจุบันยังไม่มีแชมพูแบรนด์ใดที่โดดเด่นในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผมแห้งเสียและจากภาพลักษณ์ที่โดฟวางไว้ ทำให้จะต้องมีการพัฒนาสูตรใหม่ๆอย่างต่อเนื่องตลอดทุกปี โดยวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 1 ปี หรือปี 2549 โดฟจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแชมพูและครีมนวดระดับพรีเมียมแทนที่แพนทีน จากส่วนแบ่งล่าสุดรอบเดือนก.ค.โดฟ 9.9% สิ้นปีตั้งเป้าเพิ่มเป็น 11%
ล่าสุดบริษัทได้ปรับปรุงครีมแชมพูโดฟ 3 สูตรใหม่ ได้แก่ โดฟ เดลิเคท แคร์, โดฟ เอสเซนเชียล แคร์ และโดฟ มอยซ์เจอร์เธอราพี ซึ่งถือว่าเป็นสูตรหลักของโดฟ และได้เพิ่มครีมคอนดิชั่นเนอร์ใหม่ให้ครบทั้ง 3 สูตร จากก่อนหน้านี้มีเพียง 1 สูตรเท่านั้น เพื่อตอบสนองสภาพเส้นผมที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังได้เปิดตัว “โดฟ มอยซ์เจอร์ ทรีทเม้นท์ มาส์ก” ครีมหมักผมสูตรเข้มข้นพิเศษ นอกจากนี้ยังได้ปรับบรรจุภัณฑ์ครีมแชมพูสู่ระดับโกลบอลดีไซน์ โดยการรีลอนช์ในครั้งนี้ทำขึ้นที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก
จากการศึกษาของศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมของยูนิลีเวอร์ พบว่า แนวโน้มผู้หญิงในเอเชียมีการทำสีผม ดัด หรือยืดผม ความร้อน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ผมเกิดความแห้งเสียได้ ล่าสุดจากการสำรวจเมื่อปลายปี 2547 พบคนไทย 53% มีผมเสียถึงเสียมาก 28% มีผมธรรมดา และ18% มีหนังศีรษะและเส้นผมบอบบาง
สำหรับงบการตลาดในการรีลอนช์ครั้งนี้ 180 ล้านบาท ผ่านการสื่อสารอย่างครบวงจร มีหนังโฆษณาชุดใหม่ เตรียมจัดโรดโชว์ไปตามซูเปอร์มาร์เก็ตและไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมทั้งจับมือร่วมกับคลิก เรดิโอ จัดคอนเสิร์ต “Special Live Concert by Dove Specialist” ขึ้นในวันที่ 12 ตุลาคม 2548
แนวโน้มตลาดแชมพูและครีมนวดมูลค่า 8,900 ล้านบาทในปีนี้คาดว่าเติบโต 2-3% แบ่งเป็นแชมพูระดับพรีเมียม 2,225 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 2-3% ส่วนแชมพูทั่วไปมูลค่า 6,675 ล้านบาท เติบโตน้อยกว่า 2-3% โดยปัจจุบันยูนิลีเวอร์มีส่วนแบ่งโดยรวม 55% แบ่งเป็น ซันซิล 27.2% คลินิคเคลียร์ 19.9% และโดฟมีส่วนแบ่งลดลงจาก 10.2-10.5% เป็น 9.9% เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้มีจัดกิจกรรมการตลาดมากนัก