เชียงราย - ไทย-ลาว นัดชี้ขาดสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง บริเวณอำเภอเชียงของ เดือนหน้า รับเส้นทางสาย R3e ที่เชื่อมโยง ไทย-ลาว-จีน หลังได้ข้อสรุปบริเวณจุดก่อสร้างแล้ว ส่วนการค้าชายแดนซบเซา เก็บภาษีได้น้อยลง เหตุสู้รบในพม่า-น้ำโขงแห้ง-FTA ไทย-จีน
นายสมยศ กันแตง นายด่านศุลกากรเชียงของ จังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่อำเภอเชียงของว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการชายแดน ไทย-ลาว ส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย-แขวงบ่อแก้ว ได้ประชุมกันที่เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้วสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว( สปป.ลาว(เพื่อหารือถึงบริเวณที่จะก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวมูลค่า 1 พันล้านบาท โดยเสนอพื้นที่ 3 จุด คือ บ้านห้วยกอก ม.14 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ บ้านดอนมหาวัน ม.9 ตำบลเวียง อำเภอเชียงของ และบ้านปากอิงใต้ ม.16 ตำบลศรีดอนชัย อำเภอเชียงของ
ในเบื้องต้น มีข้อสรุป ที่จะสร้างสะพานบริเวณบ้านดอนมหาวัน ม.9 ตำบลเวียง ห่างจากตัวเมืองเชียงของไปทางทิศใต้ราว 4-5 กิโลเมตรโดยสะพานจะมีความยาวประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะตรงกับจุดที่ สปป.ลาว เตรียมสร้าง โรงเรียนนายร้อยทหารลาวขึ้น ถือว่าเป็นเขตที่การคมนาคมและพื้นที่เหมาะสมมาก
ส่วนพื้นที่บ้านปากอิงใต้ ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ จากบ้านดอนมหาวันไปอีกราว 5 กิโลเมตร ทราบว่าด้านฝั่งไทย เป็นทางภูเขาที่สูงชันถึงแม้ระยะทางข้ามน้ำโขงจะแค่ 300 เมตรแต่เส้นทางลำบาก ซึ่งตอนแรกฝ่ายลาวต้องการสร้างบริเวณนี้
สำหรับบริเวณบ้านห้วยกอก ม.14 ตำบลเวียง ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอำเภอเชียงของ 5 กิโลเมตร ก็จะตรงกับพื้นที่ป่าเขาในฝั่งลาว และต้องตัดถนนเข้าไปเชื่อมต่อทำให้การดำเนินการไม่สะดวก
อย่างไรก็ตาม จะมีการหารือกันอีกรอบในการประชุมคณะกรรมการชายแดนไทย-ลาว ส่วนท้องถิ่นจังหวัดเชียงราย-แขวงบ่อแก้ว ในราวต้นเดือนกันยายน 2548 นี้ด้วยที่แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว โดยจะมีนายวรเกียรติ สมสร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และเจ้าแขวงบ่อแก้วเข้าร่วมประชุมด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากกว่านี้
สำหรับการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งนี้ จะรองรับกับถนนสาย R3e จากคุนหมิง สิบสองปันนา จีน-แขวงหลาวน้ำทา แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว-เชียงของ จังหวัดเชียงราย และกรุงเทพฯ-แหลมฉบัง ที่ทั้ง 3 ประเทศกำลังร่วมกันก่อสร้างอยู่มีกำหนดแล้วเสร็จประมาณปี 2550 อันจะทำให้การเดินทางจากเชียงของ-แขวงบ่อแก้ว แขวงหลวงน้ำทา ผ่านด่านบ่อหาร บ่อเต็น-สิบสองปันนา ระยะทางประมาณ 500 กว่ากิโลเมตรสะดวกมากยิ่งขึ้น และเป็นเส้นทางคมนาคมทางเลือกอีกช่องทางหนึ่ง หากระดับน้ำในแม่น้ำโขง มีปัญหาจนเป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือสินค้าขนาดใหญ่
นายเอนก อรธนาลัย ศุลกากรภาค 3 เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีศุลกากรภาค 3 ในปี 2548 นี้ น่าจะลดลงจากเป้าหมายราว 20% เนื่องจากชายแดนภาคเหนือมีปัญหาการสู้รบในประเทศพม่า รวมทั้งระดับแม่น้ำโขงแห้งไม่มีเรือสินค้าเข้ามาเทียบท่าทำให้การจัดเก็บภาษีได้ลดลง
ทั้งนี้ ด่านศุลกากรแม่สายได้มีการนำระบบ วันสต็อปเซอร์วิสเข้ามาใช้เพื่อทำให้ผู้ประกอบการประทับใจ และเชื่อว่าในอนาคต หากมีการส่งเสริมการบริการและการคมนาคมที่ดีขึ้นน่าจะทำให้การค้ามีปริมาณมากขึ้น
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ส่งทหารผ่านศึกเข้าไปก่อสร้างอาคารด่านศุลกากรและปรับพื้นที่ให้กับสหภาพพม่า มูลค่าประมาณ 11 ล้านบาทตั้งแต่ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาคาดจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดใช้งานได้พร้อมกับการเปิดสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่สอง อำเภอแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก
ด้านนายพชรดิษฐ์ สินสวัสดิ์ นายด่านศุลกากรเชียงแสน เปิดเผยว่า การจัดเก็บภาษีของด่านศุลกากรเชียงแสน ขณะนี้เก็บได้ประมาณ 110 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปี 2548 จะเก็บได้ประมาณ 120 ล้านบาท ทำให้ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ที่ 140 กว่าล้านบาท เนื่องจากระดับแม่น้ำโขงที่แห้ง ทำให้ไม่ค่อยมีการเดินเรือ รวมทั้งการเปิดเสรีการค้าไทย-จีน หรือ FTA ทำให้การเก็บภาษีสินค้าผัก ผลไม้ ทำไม่ได้อีกต่อไป