ผู้จัดการรายวัน -โรงน้ำแข็งย่านคลองเตยชุ่ยใช้ลูกจ้างชาวลาวตรวจเช็กวาล์ว ส่งก๊าซแอมโมเนีย แต่ด้วยเหตุรู้เท่าไม่ถึงการณ์กลับใช้ประแจขันนอตเคาะท่อวาล์ว จนเกิดระเบิด ก๊าซแอมโมเนียพวยพุ่งฟุ้งโรงงาน มีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย ชาวบ้านในชุมชนแออัด ครู-นักเรียน หนีอลม่าน ผอ.เขต สั่งปิดโรงงานชั่วคราว พร้อมให้ตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริง
วานนี้(16 ส.ค.)เวลา 12.00 น.พ.ต.ท.ยรรยง สอาด สารวัตรเวร สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุสารเคมีรั่วไหลภายในโรงงานน้ำแข็งใกล้ชุมชนคอกหมู ถนนอาจณรงค์ หลังสำนักงานเขตคลองเตย แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขภิบาล สำนักงานเขตคลองเตย ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานน้ำแข็งของบริษัท ลี 1991 จำกัด เลขที่ 608 ซอยสุขุมวิท 42 แขวงและเขตคลองเตย กทม.เจ้าหน้าที่ พบมีก๊าซแอมโมเนีย รั่วออกมาจากท่อระบายน้ำ จึงเข้าควบคุมปิดโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยมีการปิดวาล์วและอุดตามรอยรั่วของถังแก๊ส และปล่อยให้กลิ่นจางหายไป
ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 1 ไร่ มีเครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ภายในโรงงาน ก่อนเกิดเหตุทางโรงงานกำหนดให้เป็นวันตรวจซ่อมวาล์วก๊าซแอมโมเนียที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งประจำปี โดยทางบริษัทฯว่าจ้างให้ นายสี กับนายวี ลูกจ้างชาวลาวเป็นผู้ตรวจสอบวาล์ว ดังกล่าว แต่ขณะตรวจสอบด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นายสีและนายวี ได้นำประแจขันนอตตีเข้าที่ท่อวาล์วส่งก๊าซ ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง และก๊าซแอมโมเนียได้พวยพุ่งออกมาจำนวนมาก และด้วยความตกใจทั้งนายสีและนายวี ได้กระโดดลงมาจากจุดที่ตรวจซ่อมทำให้ได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก แพทย์ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ขณะที่ นายทวีศักดิ์ บุญโยธา คนงานได้สูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไปมาก เป็นเหตุให้ออกซิเจนในปอดเหลือน้อย ต้องเข้ารับการรักษาภายในห้องไอซียูเป็นการด่วน ส่วน นายอนันต์ ลีลาปัญญาเลิศ อายุ 53 ปี เจ้าของโรงดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้แจกผ้าปิดปากให้กับชาวบ้านในชุมชนคอกหมู โดยชาวบ้านต่างตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายชัยธวัช อยู่สำราญ ผอ.เขตคลองเตย เปิดเผยหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า ได้หลังจากระดมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและเจ้าหน้าที่เขตฯ ฉีดน้ำเพื่อละลายพิษของแอมโมเนีย จากนั้นได้ อพยพนักเรียนระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสามัคคีสงเคราะห์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ไปที่ สน.ท่าเรือ ซึ่งเป็นเขตปลอดภัย ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบโรงงานน้ำแข็ง เพื่อตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัย และตรวจสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากความประมาท หรืออุบัติเหตุ และทำการปิดโรงงานเป็นการชั่วคราว ส่วนการตรวจสอบความผิดนั้นจะต้องรอผลตรวจสอบถึงสาเหตุของก๊าซรั่วก่อนจึงจะสรุปฐานความผิดได้
วานนี้(16 ส.ค.)เวลา 12.00 น.พ.ต.ท.ยรรยง สอาด สารวัตรเวร สน.ท่าเรือ รับแจ้งเหตุสารเคมีรั่วไหลภายในโรงงานน้ำแข็งใกล้ชุมชนคอกหมู ถนนอาจณรงค์ หลังสำนักงานเขตคลองเตย แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขภิบาล สำนักงานเขตคลองเตย ร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานน้ำแข็งของบริษัท ลี 1991 จำกัด เลขที่ 608 ซอยสุขุมวิท 42 แขวงและเขตคลองเตย กทม.เจ้าหน้าที่ พบมีก๊าซแอมโมเนีย รั่วออกมาจากท่อระบายน้ำ จึงเข้าควบคุมปิดโดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยมีการปิดวาล์วและอุดตามรอยรั่วของถังแก๊ส และปล่อยให้กลิ่นจางหายไป
ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 1 ไร่ มีเครื่องทำความเย็นขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ภายในโรงงาน ก่อนเกิดเหตุทางโรงงานกำหนดให้เป็นวันตรวจซ่อมวาล์วก๊าซแอมโมเนียที่ใช้ในการผลิตน้ำแข็งประจำปี โดยทางบริษัทฯว่าจ้างให้ นายสี กับนายวี ลูกจ้างชาวลาวเป็นผู้ตรวจสอบวาล์ว ดังกล่าว แต่ขณะตรวจสอบด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ นายสีและนายวี ได้นำประแจขันนอตตีเข้าที่ท่อวาล์วส่งก๊าซ ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังกึกก้อง และก๊าซแอมโมเนียได้พวยพุ่งออกมาจำนวนมาก และด้วยความตกใจทั้งนายสีและนายวี ได้กระโดดลงมาจากจุดที่ตรวจซ่อมทำให้ได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก แพทย์ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท ขณะที่ นายทวีศักดิ์ บุญโยธา คนงานได้สูดดมก๊าซแอมโมเนียเข้าไปมาก เป็นเหตุให้ออกซิเจนในปอดเหลือน้อย ต้องเข้ารับการรักษาภายในห้องไอซียูเป็นการด่วน ส่วน นายอนันต์ ลีลาปัญญาเลิศ อายุ 53 ปี เจ้าของโรงดังกล่าว เจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาสอบปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้แจกผ้าปิดปากให้กับชาวบ้านในชุมชนคอกหมู โดยชาวบ้านต่างตกใจและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายชัยธวัช อยู่สำราญ ผอ.เขตคลองเตย เปิดเผยหลังตรวจที่เกิดเหตุว่า ได้หลังจากระดมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมและเจ้าหน้าที่เขตฯ ฉีดน้ำเพื่อละลายพิษของแอมโมเนีย จากนั้นได้ อพยพนักเรียนระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนสามัคคีสงเคราะห์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ไปที่ สน.ท่าเรือ ซึ่งเป็นเขตปลอดภัย ขณะเดียวกันได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมเข้าตรวจสอบโรงงานน้ำแข็ง เพื่อตรวจสอบคุณภาพความปลอดภัย และตรวจสอบหาสาเหตุว่าเกิดจากความประมาท หรืออุบัติเหตุ และทำการปิดโรงงานเป็นการชั่วคราว ส่วนการตรวจสอบความผิดนั้นจะต้องรอผลตรวจสอบถึงสาเหตุของก๊าซรั่วก่อนจึงจะสรุปฐานความผิดได้