ผบ.สส.เผยโผทหารถึงมือรมว.กลาโหมแล้ว ชี้เกณฑ์คัดเลือกผบ.เหล่าทัพ ความรู้ความสามารถมาอันดับหนึ่ง เรื่องรุ่นเป็นรอง ไม่ปิดกั้นเรื่องศาสนา มั่นใจได้ผู้ที่เหมาะสม ไม่ยี้
วานนี้ (8 ส.ค.) พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.)เปิดเผยว่า ได้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำให้กับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหมแล้ว ไม่ติดขัดอะไร และ บก.สส.ก็ทำในส่วนของบก.สส.ก่อนรวบรวมส่งไปที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเสนอ รมว.กลาโหม พร้อมกัน
สำหรับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.สส.ต้องมีความสามารถ เพราะชื่อเสียงของหน่วยก็สำคัญ คิดว่าคงไม่ผิดหวัง แต่ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด ต้องรอ รมว.กลาโหมพิจารณาอีกครั้ง ท่านมีสิทธิ์เปลี่ยน หลังจากนั้นท่านก็นำไปให้นายกรัฐมนตรีนำทูลเกล้าฯ
"ในส่วนของผมก็ได้เสนอบุคคลจากบก.สส.ให้ รมว.กลาโหมพิจารณาในตำแหน่งผบ.ทบ.ด้วย โดยเสนอทางวาจา แต่มันอยู่อีกขั้นหนึ่ง ต้องไปคุยกัน วันนี้รมว.กลาโหม คงได้คุยกันถ้าผบ.เหล่าทัพ หากว่างตรงกัน ในส่วนของผมเสนอไปก็จบแล้ว สิทธิผมมีแค่นี้ ก็ยืนยันไป แต่เมื่อทำเป็นโผเสนอขึ้นไป แล้วได้ตกลงร่วมกันเห็นว่าเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน เพราะ รมว.กลาโหมใหญ่สุด แต่ไม่ต้องห่วงเพราะ รมว.กลาโหม มาจากทหาร ท่านรู้ลึก เอาเป็นว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ไม่ยี้ก็แล้วกัน พอเข้าประชุมกันทุกคนมีข้อมูลของแต่ละแคนดิเดทขึ้นมาพูด คุณว่าของคุณดีอย่างไร ของฉันดีอย่างไร การตัดสินใจอยู่ที่ รมว.กลาโหม"
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้ผู้ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.มีประสบการณ์ด้านการรบ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ถูกต้อง ความเป็นผู้นำกองทัพ สิ่งหนึ่งที่จะมัดใจทหารได้คือ ประสบการณ์ที่ได้ปฏิบัติมา แต่ในอนาคตก็จะน้อยลง คนที่มีประสบการณ์ด้านนี้จะน้อยลงทุกวัน เพราะว่าไม่มีศึกสงคราม เรื่องเหล่าก็มีความสำคัญ เพราะ ผบ.ทบ.ก็ควรเหล่าราบ ม้า ปืน ช่าง แต่ในอนาคตก็อาจจะมีเหล่าอื่น เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนไป ไม่มีการรบ เราก็ต้องการความเป็นผู้นำ
"เรื่องความรู้ ความสามารถ ต้องมาอันดับหนึ่ง จะเอารุ่นมาอันดับหนึ่งไม่ได้ แต่ถ้าแคนดิเดทด้วยกัน จอมพลเหมือนกันหมด เราก็น่าจะเอารุ่นมาจับได้ เพราะว่าไม่รู้จะเอาอะไรจับ ก็ต้องเอาอาวุโสมาจับ เพราะขีดความสามารถพอกันหมด เพราะฉะนั้น ผมว่าการพิจารณาค่อนข้างจะเข้มข้นนิดหน่อย การจะเข้ามาสู่ระดับท็อปต้อง clean พอสมควร และก็ต้องสมาร์ทพอสมควร บางคนเหมาะสมสำหรับเป็นเสธ. บางคนเหมาะเป็นคอมมานด์ แต่เชื่อว่าจบ จปร.สามารถปฏิบัติงานได้หมด ถ้าให้ผมทำโผก็จะทำแบบนี้ ถ้าไม่ให้ทำก็ช่วยไม่ได้"
ส่วนผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.จะเปิดกว้างให้ผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยให้ทุกศาสนาเท่ากันหมด ไม่ได้ขัดข้อง ผบ.ทบ.คนปัจจุบันจะเป็นคนเลือกเสนอขึ้นมา ถ้ามองในเรื่องจิตวิทยาก็มีส่วน ทั้งนี้ หาก ผบ.ทบ.เสนอใครขึ้นมาเราก็เห็นด้วยทั้งนั้น ส่วนที่นายกฯ มองว่าไม่ควรให้ผู้ที่มีอายุราชการ 1 ปี เป็นผบ.เหล่าทัพนั้น ตนมองว่ารุ่นหลังๆ มันโดนบอนไซกันหมด มันจะเอาปีที่ไหนไปอยู่ 3 ปี 4 ปี ก็รุ่นพี่ๆ เขาเป็นกัน 4 ปี 5 ปี เหลือรุ่นเล็กๆ ที่จะต้องขึ้นมาก็ได้อีกคนละ 1 ปีเท่านั้น ถ้าเป็นกันคนละ 2 ปีเหมือนกัน ทุกคนก็จะได้เป็นคนละ 2 ปีเท่าๆกัน มันอยู่ที่เก่าๆทำไว้ แล้วก็ตกทอดมารุ่นหลัง
"รับรองว่าการพิจารณารอบคอบ เหมาะสม สมาร์ท ไม่ต้องห่วง เรียบร้อย และไม่ยี้ ต้องเชื่อมั่น กองทัพไม่ได้อยู่ได้เพราะนาย อยู่ที่แม่ทัพ นายกอง เหมือนกัน" พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว และว่า ในส่วนของนายกฯท่านไม่ได้แนะนำอะไร ท่านคงรับข้อมูล อาจจะไปพิจารณาในขั้นสุดท้าย เช่น ใครที่สูสีกัน ท่านก็อาจจะเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ถือเป็นสิทธิของท่าน ขอให้สบายใจ ทุกเหล่าทัพก็สบายใจเหมือนกันหมด แต่ก็ไม่แน่ว่า ระหว่างการพิจารณาในระดับข้างบน เนื่องจาก รมว.กลาโหม ท่านเป็นทหารเก่า อาจจะรู้อะไรลึกๆ ก็อาจจะพิจารณาคนที่มีตำหนิน้อยที่สุดและ มีคุณภาพที่สุดมาเป็น สมาร์ทก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วง ประกาศมาแล้วบอกได้เลยว่าเยี่ยม
วานนี้ (8 ส.ค.) พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.สส.)เปิดเผยว่า ได้ส่งบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำให้กับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหมแล้ว ไม่ติดขัดอะไร และ บก.สส.ก็ทำในส่วนของบก.สส.ก่อนรวบรวมส่งไปที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเสนอ รมว.กลาโหม พร้อมกัน
สำหรับผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่ง ผบ.สส.ต้องมีความสามารถ เพราะชื่อเสียงของหน่วยก็สำคัญ คิดว่าคงไม่ผิดหวัง แต่ตอนนี้ยังไม่สิ้นสุด ต้องรอ รมว.กลาโหมพิจารณาอีกครั้ง ท่านมีสิทธิ์เปลี่ยน หลังจากนั้นท่านก็นำไปให้นายกรัฐมนตรีนำทูลเกล้าฯ
"ในส่วนของผมก็ได้เสนอบุคคลจากบก.สส.ให้ รมว.กลาโหมพิจารณาในตำแหน่งผบ.ทบ.ด้วย โดยเสนอทางวาจา แต่มันอยู่อีกขั้นหนึ่ง ต้องไปคุยกัน วันนี้รมว.กลาโหม คงได้คุยกันถ้าผบ.เหล่าทัพ หากว่างตรงกัน ในส่วนของผมเสนอไปก็จบแล้ว สิทธิผมมีแค่นี้ ก็ยืนยันไป แต่เมื่อทำเป็นโผเสนอขึ้นไป แล้วได้ตกลงร่วมกันเห็นว่าเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยน เพราะ รมว.กลาโหมใหญ่สุด แต่ไม่ต้องห่วงเพราะ รมว.กลาโหม มาจากทหาร ท่านรู้ลึก เอาเป็นว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย ไม่ยี้ก็แล้วกัน พอเข้าประชุมกันทุกคนมีข้อมูลของแต่ละแคนดิเดทขึ้นมาพูด คุณว่าของคุณดีอย่างไร ของฉันดีอย่างไร การตัดสินใจอยู่ที่ รมว.กลาโหม"
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีต้องการให้ผู้ดำรงตำแหน่งผบ.ทบ.มีประสบการณ์ด้านการรบ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ถูกต้อง ความเป็นผู้นำกองทัพ สิ่งหนึ่งที่จะมัดใจทหารได้คือ ประสบการณ์ที่ได้ปฏิบัติมา แต่ในอนาคตก็จะน้อยลง คนที่มีประสบการณ์ด้านนี้จะน้อยลงทุกวัน เพราะว่าไม่มีศึกสงคราม เรื่องเหล่าก็มีความสำคัญ เพราะ ผบ.ทบ.ก็ควรเหล่าราบ ม้า ปืน ช่าง แต่ในอนาคตก็อาจจะมีเหล่าอื่น เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนไป ไม่มีการรบ เราก็ต้องการความเป็นผู้นำ
"เรื่องความรู้ ความสามารถ ต้องมาอันดับหนึ่ง จะเอารุ่นมาอันดับหนึ่งไม่ได้ แต่ถ้าแคนดิเดทด้วยกัน จอมพลเหมือนกันหมด เราก็น่าจะเอารุ่นมาจับได้ เพราะว่าไม่รู้จะเอาอะไรจับ ก็ต้องเอาอาวุโสมาจับ เพราะขีดความสามารถพอกันหมด เพราะฉะนั้น ผมว่าการพิจารณาค่อนข้างจะเข้มข้นนิดหน่อย การจะเข้ามาสู่ระดับท็อปต้อง clean พอสมควร และก็ต้องสมาร์ทพอสมควร บางคนเหมาะสมสำหรับเป็นเสธ. บางคนเหมาะเป็นคอมมานด์ แต่เชื่อว่าจบ จปร.สามารถปฏิบัติงานได้หมด ถ้าให้ผมทำโผก็จะทำแบบนี้ ถ้าไม่ให้ทำก็ช่วยไม่ได้"
ส่วนผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ทบ.จะเปิดกว้างให้ผู้นับถือศาสนาอิสลาม หรือไม่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ประเทศไทยให้ทุกศาสนาเท่ากันหมด ไม่ได้ขัดข้อง ผบ.ทบ.คนปัจจุบันจะเป็นคนเลือกเสนอขึ้นมา ถ้ามองในเรื่องจิตวิทยาก็มีส่วน ทั้งนี้ หาก ผบ.ทบ.เสนอใครขึ้นมาเราก็เห็นด้วยทั้งนั้น ส่วนที่นายกฯ มองว่าไม่ควรให้ผู้ที่มีอายุราชการ 1 ปี เป็นผบ.เหล่าทัพนั้น ตนมองว่ารุ่นหลังๆ มันโดนบอนไซกันหมด มันจะเอาปีที่ไหนไปอยู่ 3 ปี 4 ปี ก็รุ่นพี่ๆ เขาเป็นกัน 4 ปี 5 ปี เหลือรุ่นเล็กๆ ที่จะต้องขึ้นมาก็ได้อีกคนละ 1 ปีเท่านั้น ถ้าเป็นกันคนละ 2 ปีเหมือนกัน ทุกคนก็จะได้เป็นคนละ 2 ปีเท่าๆกัน มันอยู่ที่เก่าๆทำไว้ แล้วก็ตกทอดมารุ่นหลัง
"รับรองว่าการพิจารณารอบคอบ เหมาะสม สมาร์ท ไม่ต้องห่วง เรียบร้อย และไม่ยี้ ต้องเชื่อมั่น กองทัพไม่ได้อยู่ได้เพราะนาย อยู่ที่แม่ทัพ นายกอง เหมือนกัน" พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าว และว่า ในส่วนของนายกฯท่านไม่ได้แนะนำอะไร ท่านคงรับข้อมูล อาจจะไปพิจารณาในขั้นสุดท้าย เช่น ใครที่สูสีกัน ท่านก็อาจจะเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด ถือเป็นสิทธิของท่าน ขอให้สบายใจ ทุกเหล่าทัพก็สบายใจเหมือนกันหมด แต่ก็ไม่แน่ว่า ระหว่างการพิจารณาในระดับข้างบน เนื่องจาก รมว.กลาโหม ท่านเป็นทหารเก่า อาจจะรู้อะไรลึกๆ ก็อาจจะพิจารณาคนที่มีตำหนิน้อยที่สุดและ มีคุณภาพที่สุดมาเป็น สมาร์ทก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วง ประกาศมาแล้วบอกได้เลยว่าเยี่ยม