ศูนย์ข่าวภูเก็ต -รถลีมูซีนสนามบินภูเก็ต ยกพลกว่า100 คน ร้องจังหวัดขอให้ยกเลิกเคาน์เตอร์รถแท็กซี่มิเตอร์ออกจากอาคารผู้โดยสาร ชี้เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ลีมูซีน ที่ต้องจ่ายค่าสัมปทานให้แก่การท่าอากาศยานฯ
วานนี้ (20 ก.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ผู้ประกอบการรถลีมูซีน ของสหกรณ์รถยนต์ธุรกิจบริการ ประมาณ 100 คน พร้อมด้วยรถลีมูซีน ประมาณ 50 คัน ได้ชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากจังหวัดภูเก็ต เพื่อให้ยกเลิกการตั้งเคาน์เตอร์ของแท็กซี่มิเตอร์ ที่บริเวณอาคารผู้โดยสารขาเขา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจังหวัดและการท่าอากาศยานภูเก็ต อนุญาตให้ตั้งเคาน์เตอร์รถแท็กซี่มิเตอร์ ในอาคารผู้โดยสารขาเข้า โดยส่งผลให้ผู้ประกอบการรถลีมูซีนได้รับความเดือดร้อน เพราะโดนแย่งผู้โดยสาร เนื่องจากการให้บริการของรถแท็กซี่มิเตอร์ ซึ่งไม่ได้จ่ายค่าสัปทาน หรือเสียค่าใช้จ่ายให้กับการท่าอากาศยานฯ สามารถเรียกเก็บค่าโดยสารได้ถูกกว่ารถลีมูซีน ทำให้ผู้โดยสารเลือกไปใช้บริการของรถดังกล่าว
ในการชุมนุมครั้งนี้กลุ่มผู้ประกอบการรถลีมูซีน ได้ติดป้ายประท้วงเรียกร้องให้จังหวัดแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยมีข้อความต่างๆเช่น "ผู้ว่าฯซีอีโอไม่ใช่เผด็จการ , สึนามิที่ว่าแรงแต่ท่านมาแรงกว่าสุดยอด , ผู้ว่าฯเข้ามาแก้ปัญหาไม่ใช่สร้างปัญหา ,ท่านไปตุลา 48 แต่ท่านขี้ทิ้งเอาไว้ "
การเรียกร้องของกลุ่มรถลีมูซีนในครั้งนี้ ไม่ได้พบกับผู้ว่าฯและรองผู้ว่าฯภูเก็ต เนื่องจากผู้ว่าฯเดินทางไปต่างประเทศ และรองผู้ว่าฯที่เหลือติดภารกิจ จึงมีเพียงนายสุรพล รุ่งเรือง ขนส่งจังหวัดภูเก็ต และนายชาญ เจียมเจริญ รองผู้อำนวยการการท่าอากาศยานภูเก็ต มาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยแจ้งว่า การเข้าไปตั้งเคาน์เตอร์ของแท็กซี่มิเตอร์ เป็นนโยบายของจังหวัด ที่ต้องให้มีรถแท็กซี่มิเตอร์รับผู้โดยสารที่สนามบิน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้โดยสาร และยกระดับการให้บริการทางด้านขนส่ง มีมาตรฐานระดับโลก และต่อไปจะมีการยกระดับรถลีมูซีน ให้เป็นรถระดับสูงขึ้น เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวที่เป็นระดับวีไอพี
ส่วนการเก็บค่าธรรมเนียมของรถแท็กซี่มิเตอร์ ในอนาคตจะต้องมีการเก็บแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งจะต้องมีการตรวจสอบ ในการเข้า-ออกเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งการให้บริการของแท็กซี่มิเตอร์ให้บริการที่แยกออกมาจากรถลีมูซีนแล้ว นอกจากนั้นในสัญญาที่ทำ ไม่ได้มีการผูกขาดว่า ห้ามรถอื่นเข้ามาวิ่งรับผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานฯ
นายอุทัย สุขสิริสัมพันธ์ ตัวแทนผู้ประกอบการรถลีมูซีน กล่าวว่า การกระทำของจังหวัดและการท่าอากาศยานภูเก็ตไม่ยุติธรรมต่อผู้ประกอบการรถลีมูซีน เพราะการเข้าไปประกอบการ จะต้องเสียค่าสัมปทานเป็นวงเงินที่สูง การท่าฯควรที่จะมีขอบเขตในการจัดพื้นที่ สำหรับรถแท็กซี่มิเตอร์ให้เหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมาลีมูซีนยินดีที่จะให้ความร่วมมือ แต่จะต้องมีความเป็นธรรมกับกลุ่มผู้ประกอบการด้วย แต่ที่ผ่านมาได้คุยกันมาแล้วหลายครั้ง เพื่อให้แก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด
ในส่วนของผู้ประกอบการลีมูซีน พร้อมที่จะรับข้อเสนอของการท่าอากาศยานฯที่ต้องการปรับปรุงการบริการให้ได้มาตรฐาน แต่จะต้องนำเคาน์เตอร์ของแท็กซี่มิเตอร์ไปอยู่ที่จุดอื่น
อย่างไรก็ตาม หลังจากปลัดจังหวัดได้เข้ามารับเรื่องร้องเรียนของกลุ่มผู้ชุมชน และรับปากที่จะนำข้อเรียกร้องของกลุ่มรถลีมูซีนเสนอกับผู้ว่าฯ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้แยกย้ายกันกลับ