xs
xsm
sm
md
lg

ท่าเรือภูเก็ตสู่สากลเสร็จก.ค.49ขออีก40ล้านผุด"ซีฟูดมาร์เกต"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต -โครงการยกระดับท่าเรือประมงภูเก็ต สู่ท่าเรือมาตรฐานสากลรุดหน้าไปกว่า 20% สิ้นเดือนก.ค .49 เสร็จแน่นอน ผอ.ท่าเรือคุยหลังปรับปรุงเสร็จ ภูเก็ตจะเป็นศูนย์กลางกองเรือประมงทูน่าและการส่งออก พร้อม เตรียมของบฯอีก40ล้านบาท ทำโครงการ "ซีฟูดมาร์เกตเซ็นเตอร์"ส่งเสริมการประมงคู่กับการท่องเที่ยว

นายประมวล รักษ์ใจ ผู้อำนวยการกองท่าเทียบเรือภูเก็ต องค์การสะพานปลา เปิดเผยถึงความคืบหน้า การก่อสร้างและปรับปรุงท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต ว่า หลังได้รับงบประมาณจำนวน 299 ล้านบาท ในการปรับปรุงและขยายท่าเรือสู่มาตรฐานสากล ของอียู ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าไปแล้ว 22% คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนกรกฎาคม 2549

ทั้งนี้ การปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต เป็นผลสืบเนื่องมาจาก ท่าเทียบเรือมีความยาวเพียง 180 เมตร ทำให้การจอดเรือแออัดและยังไม่ได้มาตรฐาน องค์การสะพานปลาจึงได้เสนอของบประมาณ 299 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือให้กว้างขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามถูกสุขลักษณะ เป็นไปตามมาตรฐานของอียู

โดยท่าเรือประมงภูเก็ต เป็น 1ใน 5 แห่งของท่าเรือที่ส่งสัตว์น้ำผ่านไปยังกลุ่มประเทศอียู ทั่วประเทศ ที่จะต้องปรับ ปรุง คือ จังหวัด สมุทรปราการ นครศรีธรรมราช นราธิวาส สงขลา และภูเก็ต

โครงการปรับปรุงและขยายท่าเทียบเรือ ประกอบด้วยการปรับปรุงท่าเทียบเรือ ให้เป็นท่าเทียบเรือที่ได้มาตรฐานสากลและเป็นที่ยอมรับของอียู มีการก่อสร้างระบบน้ำสะอาดสำหรับล้างปลา การทำระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้สำหรับบำบัดน้ำที่ใช้ล้างปลา ล้างพื้น ก่อนที่จะปล่อยลงสู่คลองท่าจีน ที่ตั้งสำหรับคัดเลือกปลา ขยายถนนเป็น4เลน ขยายความยาวของท่าเทียบเรือเพิ่มอีกประมาณ 600 เมตร และมีโรงงานที่ต่อเนื่องจากการทำประมง เช่นโรงงานตัดแต่งชิ้นส่วนปลาเพื่อการส่งออก

นายประมวล กล่าวต่อไปว่า หลังจากการปรับปรุงเสร็จ ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลาแห่งนี้ จะเป็นท่าเทียบเรือที่ได้มาตรฐาน มีการดำเนินการครบวงจรและจะผลักดันให้กองเรือประมงทูน่าจากประเทศต่างๆเข้ามาจอดและขึ้นปลาที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งการเข้ามาขึ้นปลาของกองเรือทูน่าจะทำให้ภูเก็ตกลายเป็นศูนย์กลางการส่งออกปลาทูน่าในภูมิภาคนี้ ซึ่งขณะนี้เรามีคู่แข่งคือปีนัง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องความสะดวกในการส่งออกแล้ว ถือว่าภูเก็ตมีความเหมาะสมมากที่สุดเพราะมีสายการบินจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม นอกจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับกองเรือทูน่าแล้ว ในส่วนของเรือประมงอื่นๆก็สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันนี้การเข้าจอดเทียบท่าต้องใช้เวลาทำให้ขึ้นปลาได้ช้า แต่หลังจากที่มีการปรับปรุงเสร็จเรือประมงขนาดเล็กและขนาดกลาง จะสามารถจอดเรือได้เพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก และปลาที่มาขึ้นที่ท่าเทียบเรือดังกล่าวจะเป็นปลาที่ถูกสุขอนามัยเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

นายประมวล กล่าวต่อไปว่า นอกจากนั้น เพื่อพัฒนาการประมงควบคู่ไปกับการท่องเที่ยวเหมือนในต่างประเทศ องค์การสะพานปลา ได้เสนอไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเพื่อผลักดันโครงการ "ซีฟูดมาร์เกตเซ็นเตอร์" เพื่อส่งเสริมธุรกิจการประมงและการท่องเที่ยว ให้สามารถเดินไปด้วยกันได้ และดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้ออาหารทะเลสดๆ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตได้อีกทางหนึ่ง

"ขณะนี้ได้มอบพื้นที่ที่จะดำเนินการไว้ 2 จุด คือ ที่ดินที่เป็นของป่าไม้ บริเวณใกล้กับองค์การสะพานปลา และบริเวณที่เป็นทะเล ซึ่งจะต้องมีการศึกษารายละเอียดอีกครั้ง คาดว่าจะใช้งบประมาณถึง 40 ล้านบาท"
กำลังโหลดความคิดเห็น