ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "สภาธุรกิจ IMT-GT" ฝ่าวิกฤตสึนามิและแผ่นดินไหวได้แล้ว กำหนดเปิดเวทีเจรจาร่วมที่อินโดนีเซีย 12-14 มิ.ย."สภาธุรกิจชายแดนใต้" เตรียมชง 2 โครงการใหม่ให้พิจารณา จัดงานแสดงสินค้าหวังดันโอทอปไทยโกอินเตอร์ และจัดค่ายทายาทนักธุรกิจ หวังสานสัมพันธ์ด้านการลงทุนในอนาคต ส่วนโครงการเก่าเก็บ IMT-GT TRADE FAIR ขอจัดขึ้นพร้อมงานเทศกาลสงกรานต์ปีหน้าที่หาดใหญ่
นายสุรชัย จิตภักดีบดินทร์ เลขาธิการสภาธุรกิจชายแดนใต้ ภายใต้กรอบความร่วมมือในโครงการสามเหลี่ยมเศรษฐกิจ อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) เปิดเผย "ผู้จัดการรายวัน"ว่า หลังจากที่มีการเลื่อนการประชุมร่วมของสภาธุรกิจ 3 ชาติ หรือ JBC-IMT-GT (Joint Business Council IMT-GT) ในช่วงที่ผ่านมาหลายครั้ง เนื่องจากได้เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มเมื่อปลายปี 2547 และเกิดแผ่นดินไหวตามมาหลายครั้ง ขณะนี้ได้ข้อสรุปแล้วว่า จะมีการจัดประชุมร่วม JBC-IMT-GT ขึ้นในระหว่างวันที่ 12-14 มิถุนายน ณ เมืองบาตัม ประเทศอินโดนีเซีย
นายสุรชัย กล่าวว่า ในส่วนของสภาธุรกิจชายแดนใต้ได้จัดประชุม ครั้งที่ 2/2548 ขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการประชุมเพื่อเตรียมข้อเสนอของฝ่ายไทย ที่จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาธุรกิจร่วม 3 ฝ่าย JBC-IMT-GT โดยมีนายสมเกียรติ อนุราษฎร์ ในฐานะประธานสภาธุรกิจชายแดนใต้ เป็นประธานการประชุม ซึ่งผลการประชุมมีมติให้นำเสนอ 2 โครงการหลัก ประกอบด้วย
1. ให้มีการจัดโครงการ IMT-GT PLAZA หรืองานแสดงสินค้าร่วมกันของ 3 ชาติคือ ไทย มาเลเซียและอินโดนีเซีย โดยฝ่ายไทยจะใช้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการนำสินค้าโอทอปไปแสดงให้เป็นที่รู้จักของต่างชาติ และยังจะเป็นการอาศัยโครงการนี้โปรโมตการลงทุนในธุรกิจ SMEs ของฝ่ายไทยด้วย
2. ให้มีการจัดโครงการ IMT-GT YOUTH CAMP ซึ่งจะมีการคัดเลือกเยาวชนจาก 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างของไทย เพื่อเข้าแคมป์สร้างการเรียนรู้ในระดับรุ่นเยาว์ในเรื่องของภาษา วัฒนธรรม และความแตกต่างด้านอื่นๆ
"โดยฝ่ายไทยมีข้อเสนอที่น่าสนใจ คือ ให้มีการนำบุตรหลานของนักธุรกิจของทั้ง 3 ชาติที่พร้อมจะเป็นสปอนเซอร์ให้แก่ตัวเองเข้าร่วมด้วย เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ และให้ทายาทนักธุรกิจของชาติต่างๆ ได้สร้างความรู้จัก คุ้นเคยต่อกัน อันจะนำไปสู่สัมพันธภาพที่ดี ต่อการทำธุรกิจและสร้างความเชื่อถือต่อกันในอนาคต" นายสุรชัย กล่าวและว่า
การจัดงาน IMT-GT TRADE FAIR ที่ฝ่ายไทยเสนอให้ 3 ชาติร่วมกันจัดขึ้น แต่ที่ผ่านมาได้มีการเลื่อนการจัดงานมาหลายครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ที่ประชุมฯมีข้อเสนอว่าจะให้จัดงานขึ้นระหว่างเทศกาลสงกรานต์ปี 2549 ซึ่งจะได้มีการขอความเห็นชอบต่อที่ประชุมร่วม 3 ชาติที่ประเทศอินโดนีเซียด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ในส่วนของการสนับสนุนการท่องเที่ยว จะจัดทำโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศในระหว่างที่มีการจัดงาน IMT-GT TRADE FAIR ด้วย
ด้าน นายโอฬาร อุยะกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา กล่าวถึงปัญหาของการเจรจาร่วม 3 ชาติในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมฮาลาล ซึ่งตั้งอยู่ใน จ.ปัตตานีว่า ในภาพรวมแล้วอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีขนาดใหญ่กว่าประเทศมาเลเซียประมาณ 5 เท่า แต่ในกลุ่มของอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลของไทยจะมีขนาดเล็กกว่ามาเลเซีย แต่ไทยก็มีจุดได้เปรียบคือ มีความพร้อมทั้งในเรื่องวัตถุดิบและแรงงาน ยกเว้นเรื่องการบริหารจัดการและมาตรฐานเท่านั้นที่มาเลเซียได้รับการยอมรับจากตลาดมุสลิมโลก
"ล่าสุดมาเลเซียประกาศว่า อาหารฮาลาลที่จะส่งไปขายในประเทศเขา หากไม่ได้รับการตรวจสอบจากองค์การภายในของเขาจะไม่สามารถจำหน่ายได้ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ทั้งไทยและอินโดนีเซียพยายามเรียกร้องให้มีการช่วยเหลือด้านการสร้างมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลร่วม 3 ชาติไปพร้อมๆกัน และในอนาคตจะได้มีการสร้าง IMT-GT HALAL BRAND ขึ้นมารองรับ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วโอกาสที่นิคมอุตสาหกรรมฮาลาลของไทยจะเกิดอย่างเป็นรูปธรรมและเติบโตก็จะเป็นไปได้ยาก" นายโอฬาร กล่าว