สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร แจ้งความดำเนินคดี “พินิจ” ฐานทำงานล่าช้าจนหนี้เกษตรกรบาน ขณะที่ “พินิจ” ไม่สนระบุเป็นเครื่องของเหลือบที่กำลังเคลื่อนไหว เพราะไ ม่พอใจนโยบายนายกฯที่สั่งให้กำจัดพวกเหล่านี้ให้หมดไปจากกองทุนฯ บอกเกษตรกรตัวจริงรอหน่อยรัฐบาลช่วยแน่
แหล่งข่าวจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า วานนี้ (2 มิ.ย.) เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฯทั่วประเทศได้เข้าแจ้งความในจังหวัดของสมาชิกแต่ละท่าน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกองทุนฯ เกี่ยวกับความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ตามเจตนารมณ์ ของกองทุนฯ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าที่จะแก้ไขปัญหาให้กับสมาชิกที่ขึ้นทะเบียนกว่า 1 แสนคนและสะสางหนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท และปัจจุบันหนี้ภาคเกษตรมีตัวเลขที่สูงขึ้นมาก
ด้านนายพินิจ จารุสมบัติ กล่าวว่า ตนจะไม่ดำเนินการอะไร เมื่อแจ้งความ ดำเนินคดีกับตนก็ว่ากันไป ไม่สนใจอะไรเพราะได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือเกษตรกร
ส่วนปัญหาของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 7 ที่นายประสาน หวังรัตนปราณีได้ลาออกไปเพื่อไปเป็นรักษาการเลขาธิการฯนั้นขณะนี้ตนได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตีความ และก็เร่งให้ดำเนินการแล้ว ส่วนที่นายกรัฐมนตรีขอให้ตนแก้ปัญหาเรื่องเหลือบที่เข้ามาหาผลประโยชน์กับเกษตรกร ตนก็ดำเนินการอยู่ “ในกองทุนฯ มีพวกที่เข้ามาจากหลายที่หลายแห่งมีทั้งมาดีและมีวาระซ้อนเร้น
รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรทุกคนที่ผ่านมาก็มีการช่วยพักชำระหนี้ไปหลายราย มีการขึ้นทะเบียนคนจน มีโครงการเอสพีวี โครงการ SML กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ดังนั้นเกษตรกรตัวจริงก็ควรจะใจเย็น แต่พวกที่แอบแฝง เข้ามาหาประโยชน์ก็จะต้องหมดไป ผมเห็นว่าพวกที่ดำเนินการแจ้งความก็เหมือนกับเหลือบที่กำลังเคลื่อนไหว”
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากทราบว่าถูกเกษตรกรแจ้งความดำเนินคดี นายพินิจ ได้สอบถามที่ปรึกษาฯถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารคนที่ 7 ซึ่งมีปัญหาอยู่ จนทำให้กองทุนฯไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจากการหารืออย่างเคร่งเครียดก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติอะไรได้
รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านั้นในการหารือระหว่างนายพินิจ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะประธานกรรมาธิการติดตาม ผลการปฏิบัติตามมติสภาผู้แทนราษฎร และนายประสาน หวังรัตนปราณี ถึงปัญหาการตั้งรักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและการพัฒนาเกษตรกร โดยรายงานข่าว ระบุว่า นายพินิจ ได้ตกลงที่ลงนามเพื่อแต่งตั้งนายประสาน เนื่องจากต้องการที่จะรีบจ่ายเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่ในกองทุนก่อนเพราะคาราคาซังมานาน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายประสานรักษาการเลขาธิการกองทุนฯ นั้น ถือว่า มีความใกล้ชิดกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สมัยดำรงตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้แต่งตั้งมาโดยคณะกรรมการบริหารชุดเดิม ทั้งนี้นายพินิจ พยายามที่จะเสนอชื่อคนอื่น แต่เนื่องจากนายประสานเป็นคนที่บอร์ด กองทุนฯ เลือกขึ้นมา เรื่องจึงถูกยื้อมาโดยตลอด นายพินิจ ในฐานะกำกับดูแลกองทุนฯ ก็ไม่ยอมเซ็นต์แต่งตั้ง โดยให้เหตุผลว่า นายประสาน เป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ อยู่ในกองทุนฯด้วย หากดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการกองทุนฯ ก็จะทำให้คณะกรรมการฯไม่ครบจำนวน 7 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายพินิจ ได้เชิญเจ้าหน้าที่กองทุนฯจากส่วนกลาง รวมทั้งนายประสาน ตัวแทนธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ มารับนโยบาย ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขอให้ธนาคารต่างๆ ไปรวบรวมข้อมูลปัญหาและตัวเลขหนี้สินของเกษตรกรทั้งหมดมารายงานต่อนายพินิจโดยตรงและเร็วที่สุด
แหล่งข่าวจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า วานนี้ (2 มิ.ย.) เกษตรกรที่เป็นสมาชิกกองทุนฯทั่วประเทศได้เข้าแจ้งความในจังหวัดของสมาชิกแต่ละท่าน เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานกองทุนฯ เกี่ยวกับความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกร ตามเจตนารมณ์ ของกองทุนฯ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าที่จะแก้ไขปัญหาให้กับสมาชิกที่ขึ้นทะเบียนกว่า 1 แสนคนและสะสางหนี้กว่า 5 หมื่นล้านบาท และปัจจุบันหนี้ภาคเกษตรมีตัวเลขที่สูงขึ้นมาก
ด้านนายพินิจ จารุสมบัติ กล่าวว่า ตนจะไม่ดำเนินการอะไร เมื่อแจ้งความ ดำเนินคดีกับตนก็ว่ากันไป ไม่สนใจอะไรเพราะได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยเหลือเกษตรกร
ส่วนปัญหาของผู้ทรงคุณวุฒิคนที่ 7 ที่นายประสาน หวังรัตนปราณีได้ลาออกไปเพื่อไปเป็นรักษาการเลขาธิการฯนั้นขณะนี้ตนได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อตีความ และก็เร่งให้ดำเนินการแล้ว ส่วนที่นายกรัฐมนตรีขอให้ตนแก้ปัญหาเรื่องเหลือบที่เข้ามาหาผลประโยชน์กับเกษตรกร ตนก็ดำเนินการอยู่ “ในกองทุนฯ มีพวกที่เข้ามาจากหลายที่หลายแห่งมีทั้งมาดีและมีวาระซ้อนเร้น
รัฐบาลจะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรทุกคนที่ผ่านมาก็มีการช่วยพักชำระหนี้ไปหลายราย มีการขึ้นทะเบียนคนจน มีโครงการเอสพีวี โครงการ SML กองทุนหมู่บ้าน ฯลฯ รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ดังนั้นเกษตรกรตัวจริงก็ควรจะใจเย็น แต่พวกที่แอบแฝง เข้ามาหาประโยชน์ก็จะต้องหมดไป ผมเห็นว่าพวกที่ดำเนินการแจ้งความก็เหมือนกับเหลือบที่กำลังเคลื่อนไหว”
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากทราบว่าถูกเกษตรกรแจ้งความดำเนินคดี นายพินิจ ได้สอบถามที่ปรึกษาฯถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารคนที่ 7 ซึ่งมีปัญหาอยู่ จนทำให้กองทุนฯไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจากการหารืออย่างเคร่งเครียดก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติอะไรได้
รายงานข่าวแจ้งว่าก่อนหน้านั้นในการหารือระหว่างนายพินิจ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ในฐานะประธานกรรมาธิการติดตาม ผลการปฏิบัติตามมติสภาผู้แทนราษฎร และนายประสาน หวังรัตนปราณี ถึงปัญหาการตั้งรักษาการเลขาธิการกองทุนฟื้นฟูและการพัฒนาเกษตรกร โดยรายงานข่าว ระบุว่า นายพินิจ ได้ตกลงที่ลงนามเพื่อแต่งตั้งนายประสาน เนื่องจากต้องการที่จะรีบจ่ายเงินเดือนให้กับเจ้าหน้าที่ในกองทุนก่อนเพราะคาราคาซังมานาน
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายประสานรักษาการเลขาธิการกองทุนฯ นั้น ถือว่า มีความใกล้ชิดกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา สมัยดำรงตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้แต่งตั้งมาโดยคณะกรรมการบริหารชุดเดิม ทั้งนี้นายพินิจ พยายามที่จะเสนอชื่อคนอื่น แต่เนื่องจากนายประสานเป็นคนที่บอร์ด กองทุนฯ เลือกขึ้นมา เรื่องจึงถูกยื้อมาโดยตลอด นายพินิจ ในฐานะกำกับดูแลกองทุนฯ ก็ไม่ยอมเซ็นต์แต่งตั้ง โดยให้เหตุผลว่า นายประสาน เป็นกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิ อยู่ในกองทุนฯด้วย หากดำรงตำแหน่งรักษาการเลขาธิการกองทุนฯ ก็จะทำให้คณะกรรมการฯไม่ครบจำนวน 7 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายพินิจ ได้เชิญเจ้าหน้าที่กองทุนฯจากส่วนกลาง รวมทั้งนายประสาน ตัวแทนธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ มารับนโยบาย ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยขอให้ธนาคารต่างๆ ไปรวบรวมข้อมูลปัญหาและตัวเลขหนี้สินของเกษตรกรทั้งหมดมารายงานต่อนายพินิจโดยตรงและเร็วที่สุด