xs
xsm
sm
md
lg

ระบุจัดระเบียบวิทยุชุมชนหวังปิดปากฝ่ายตรงข้าม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(31 พ.ค.) มูลนิธิกองทุนไทยและวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต จัดเสวนาเรื่อง “วิทยุชุมชนกับอิสรภาพของสื่อ” โดยนางอัญชลี ไพรีรักษ์ นักจัดรายการวิทยุคลื่นชุมชน เอฟเอ็ม 92.25 กล่าวว่า ทำงานด้านสื่อสารมวลชนมา 20 ปี ไม่เคยเจอยุคที่มีการตีกรอบความคิดมากเท่าสมัยนี้ ที่ต้องมาทำวิทยุชุมชนก็เพราะไร้ที่ยืนในคลื่นกระแสหลัก วันนี้จะจัดระเบียบวิทยุชุมชนง่ายนิดเดียว คือ ต้องยกเลิกระเบียบให้วิทยุชุมชนมีโฆษณา 6 นาทีต่อ ชม.เพราะการจำกัดกำลังส่ง 30 วัตต์ เสาสูงไม่เกิน 30 เมตร ระยะส่งไม่เกิน 15 กม.เป็นเรื่องหลอกลวง ทำกันต่อหน้า เมื่อมีการไปตรวจเท่านั้น อีกทั้งเครื่องส่งที่วิทยุชุมชนแต่ละสถานีนำมาใช้ ยืนยันเลยว่าคนของกรมประชาสัมพันธ์เป็นคนผลิต สามารถเพิ่มกำลังส่งได้ถึง 1,000 วัตต์ และยังติดตั้งให้ฟรีอีกด้วย
“การจัดระเบียบวิทยุชุมชนหัวใจสำคัญ คือ ต้องคิดว่าชุมชนขนาดเท่าใดควรจะมีวิทยุชุมชน 1 แห่ง ซึ่งอาจตามเขตพื้นที่เลือกตั้ง ไม่ใช่จัดแบบ 30-30-15 นั่นมันสูตรปุ๋ย และต้องไม่ให้มีโฆษณา รวมทั้งกรมประชาสัมพันธ์ต้องทำตัวเป็นพี่เลี้ยงด้านเทคนิค ไม่ใช่ไปแทรกแซงด้านเนื้อหา แต่วันนี้สิ่งที่รัฐทำกลับเอาเรื่อง 30-30-15 เป็นตัวตั้ง ใครละเมิดกฎนี้ ภายใน 15 มิ.ย.นี้ไม่แก้ไขจะสั่งปิด พูดอย่างนี้เด็กมาก ถามว่าเอาอำนาจอะไรมาสั่งปิด ปิดแล้วยึดเครื่อง เขาก็ซื้อเครื่องใหม่ได้ โฆษณา 6 นาทีมันคุ้มจะตาย เอาเงินที่ได้จากค่าโฆษณา แล้วซื้อเครื่องใหม่มาจูนก็ทำได้อีก”
นอกจากนี้การที่รัฐบอกว่าคลื่นวิทยุชุมชนไปรบกวนคลื่นวิทยุการบิน เป็นการพูดหลอกลวงเพราะคลื่นวิทยุการบินความจริงแล้วเป็นคนละแบรนด์กับคลื่นของวิทยไม่มีทางที่คลื่นวิทยุชุมชนจะไปสอยเครื่องบินให้ตกลงมาได้ ที่จะสอยได้มีแต่คลื่นทุจริตคอรัปชั่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามจากการที่ตนได้ไปสำรวจการจัดตั้งวิทยุชุมชนในต่างจังหวัดพบว่านักการเมืองไปเปิดวิทยุชุมชนในท้องถิ่นจำนวนมาก แล้วก็จะให้ชาวบ้าน มาเป็นผู้ดำเนินการ โดยอ้างว่าวิทยุทำโดยชาวบ้านกันเอง ซึ่งคิดว่าการที่นักการเมือง ทำเช่นนี้เพื่อควบคุมสารที่จะส่งไปยังชาวบ้าน เอาไว้ใช้ตอนที่จะมีการเลือกตั้ง
“ภาพที่ออกมารัฐบาลคิดอย่างทำอย่าง พูดเรื่องจัดระเบียบแต่กลับปล่อยให้ลูกหลานนักการเมืองในรัฐบาลขายเครื่องส่ง ขายเสาวิทยุชุมชน ทำอย่างนี้โกหกกันชัดๆ”
นางอัญชลีกล่าวว่า สำหรับคลื่น 92.25 วันนี้ เรียกว่าเราเป็นผู้จัดระเบียบตนเอง หลังจากรัฐอ้างว่าเราตั้งเสาสูงเกินกว่าที่กำหนด 30 เมตร เพราะตั้งบนยอดตึกก็มีการย้ายเสามาตั้งบนพื้นดิน แต่ที่ระยะการรับฟังทำได้ไกลรอบปริมณฑล เพราะเราใช้ระบบเครือข่ายกว่า 25 จุด ในการกระจายคลื่น ดังนั้นจะมาว่าเราทำผิดกฎหมายอีกไม่ได้
ด้านนายอนุสรณ์ ศรีแก้ว คณบดีคณะนิเทศศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิต 1 ในคณะกรรมการสรรหา กสช. กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะเพื่อให้ผู้ประกอบการวิทยุทุกประเภทได้มีการพูดคุยหาแนวทางแก้ปัญหา เพราะขณะนี้อยู่ในช่วงสุญญากาศเราไม่แน่ใจว่าจะมีกสช.ได้เมื่อใด แต่ทั้งนี้ส่วนตัวยังเชื่อว่า ในอีกไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้า วุฒิสภาจะคัดเลือกผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกสช.จาก 14 คนให้เหลือ 7 คน แม้รายชื่อทั้งหมดจะถูกมองว่าเป็นร่างทรงของกลุ่มทุนก็ตาม
“ที่ผมมองอย่างนั้นเพราะก่อนหน้านี้ได้คุยกับระดับรัฐมนตรีในรัฐบาลคนหนึ่ง บอกว่าถ้ากระบวนการเลือก กสช.ยังยืดเยื้อออกไปอีก เขาจะออกพระราชกำหนดฉบับหนึ่งขึ้นมาจัดการกับวิทยุชุมชน แต่ก็คิดว่าเขาไม่เน่าเสี่ยงที่จะทำอย่างนั้น เพราะจะเสียมากกว่าได้ ทางที่ดีคิดว่ารัฐน่าจะผลักดันให้ ส.ว.เลือก กสช.ออกมาโดยเร็ว แต่ก็ยังมีปัญหาใหญ่ตามมากับกลุ่มประชาชนที่ทำวิทยุชุมชนไปแล้ว เพราะตอนที่ผมสัมภาษณ์ว่าที่ กสช.ทั้งหลาย เขาบอกเลยว่าวิทยุชุมชนเป็นปัญหาและถ้าเขาได้เป็น กสช. สิ่งแรกที่เขาจะจัดการ คือ วิทยุชุมชน ดังนั้นผู้ที่ทำวิทยุชุมชนต้องมีการรวมตัวกันแล้วสะท้อนความคิดเห็นว่าตนเองมีสิทธิเสรีภาพแค่ไหนในการจัดทำวิทยุชุมชน รวมทั้งควรร่างแผนแม่บทเกี่ยวกับวิทยุชุมชนขึ้นมา เพื่อถึงเวลา กสช.จะได้ไม่มาจัดการผู้ทำวิทยุชุมชนอย่างไม่ถูกต้อง”
น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ เลขาธิการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปสื่อ กล่าวว่า ปัญหาวิทยุชุมชน ถ้ารัฐคิดว่าตนเองควรจะเป็นพี่เลี้ยงในด้านเทคนิค การจัดระเบียบคลื่นมันจะทำได้ เหมือนกับจัดระเบียบคลื่นเอเอ็ม เอฟเอ็ม สคลื่นโทรศัพท์ ดังนั้นการจะแก้ปัญหา รัฐบาลจะต้องมีความจริงใจ ไม่ใช่พูดเรื่องจริงเพียงครึ่งเดียว เอาการเมืองนำความรู้ สและควรมีการทบทวนมติกรมประชาสัมพันธ์ที่ให้มีโฆษณา 6 นาที และอยากจะให้กรรมการสิทธิมาเป็นเจ้าภาพในการจัดระบบความคิดเห็นในการแก้ปัญหาโดยเอาเรื่องสิทธิเป็นตัวตั้ง
นอกจากนี้อยากให้สังคมได้ช่วยกันจับตา พ.ร.บ.กิจการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ที่กำลังจะออกมา รวมถึงเมื่อมี กสช.แล้วก็ต้องคอยตามดูแผนแม่บท มิฉะนั้นเราจะถูกรัฐเข้มาครอบงำ
กำลังโหลดความคิดเห็น