สก๊อตรุกตลาดซุปไก่สกัดสูตร 100% หนักหวังเทียบชั้นแบรนด์ ครึ่งปีหลังเร่งอัดกิจกรรมเต็มสูบหวังกระตุ้นยอดขายและเข้าถึงผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ แย้มมีแผนแตกไลน์สินค้าใหม่เปิดตัวปลายปีนี้ คาดยอดขายทั้งซุปไก่และรังนกสิ้นปีโต 15%
นางสาววรวิมล กรรมารางกูร ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสตลาดเครื่องดื่มชาเขียว น้ำผลไม้ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในตลาด ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังสก๊อตจึงเตรียมดำเนินนโยบายเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการทุ่มงบทางการตลาดรวมกว่า 270 ล้านบาทในการทำการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดรายได้และตอบสนองเทรนด์ห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภคที่กำลังมาแรง ในส่วนของผลิตภัณฑ์จะมีการปรับปรุงรูปแบบและสูตรใหม่ๆอยู่เสมอ รวมถึงมีแผนแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับสุขภาพอีก 1 แบรนด์ในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ สก๊อตเตรียมรุกตลาดซุปไก่สกัดสูตร 100% อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวโครงการ “เต็ม 100 กับสก๊อต 100” ภายใต้งบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อต้องการตอกย้ำและกระตุ้นยอดขายของสก๊อตซุปไก่100% ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไปและห่วงใยสุขภาพ โดยจะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ซุปไก่สกัดสก๊อตผ่านภาพยนตร์โฆษณา 3 ชุด และกิจกรรมต่างๆที่แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ อาทิ ออกโรดโชว์ตามถนนหลักของกรุงเทพฯ, กิจกรรมบนสถานีรถไฟฟ้า และกิจกรรมในห้างดิสเคานต์สโตร์ รวมถึงการทำโปรโมชั่นณ จุดขายและให้ส่วนลดแก่ลูกค้า
ปัจจุบันสก๊อตมีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย แบรนด์สก๊อตซุปไก่สกัดสูตร 100% มี 2 ขนาด และแบรนด์ยู-เซน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าใหม่ที่อยากทานซุปไก่แต่ไม่ชอบกลิ่นคาว และรังนกสก๊อตที่มี 2ขนาด
ยอดขายของบริษัทปี 2547 มีรายได้ 500 ล้านบาทและมีการเติบโต 10% แบ่งเป็นสัดส่วนของรังนก 60% และซุปไก่ 40% โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายโต 15% จากการทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกเป็นไปตามเป้า แบ่งเป็นซุปไก่โต10% และรังนก 20% แต่ยอดต้องสะดุดไปบ้างในช่วงต้นปีจากเหตุการณ์ทางภาคใต้และสึนามิ
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีประมาณ 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดซุปไก่ ซึ่งปีที่แล้วมียอด 1,600 ล้านบาทและมีอัตราการโต 5-6% สก๊อตมีส่วนแบ่งทางการตลาด 30% เป็นอันดับ 2 ของตลาดรองจากแบรนด์ ที่มีแชร์ 60% ซึ่งสิ้นปีนี้คาดว่าแชร์ของสก๊อตจะเพิ่มเป็น 35% จากการจัดกิจกรรมทางตลาด ขณะที่ภาพรวมตลาดคาดว่าจะโต 8-10%
ส่วนตลาดรังนกปี2547 มีมูลค่า 1,100 ล้านบาท โดยมีสก๊อตเป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 60% ซึ่งปีที่แล้วรังนกสก๊อตยอดขายโต 18% ปีนี้คาดว่ายอดขายสก๊อตจะโต 20% และมูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 1,400 ล้านบาท
นางสาววรวิมล กรรมารางกูร ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการตลาด บริษัท สก๊อต อินดัสเตรียล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสตลาดเครื่องดื่มชาเขียว น้ำผลไม้ ที่กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในตลาด ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่สำคัญของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังสก๊อตจึงเตรียมดำเนินนโยบายเชิงรุกมากขึ้น ด้วยการทุ่มงบทางการตลาดรวมกว่า 270 ล้านบาทในการทำการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดรายได้และตอบสนองเทรนด์ห่วงใยสุขภาพของผู้บริโภคที่กำลังมาแรง ในส่วนของผลิตภัณฑ์จะมีการปรับปรุงรูปแบบและสูตรใหม่ๆอยู่เสมอ รวมถึงมีแผนแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวกับสุขภาพอีก 1 แบรนด์ในช่วงปลายปีนี้
ทั้งนี้ สก๊อตเตรียมรุกตลาดซุปไก่สกัดสูตร 100% อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวโครงการ “เต็ม 100 กับสก๊อต 100” ภายใต้งบกว่า 50 ล้านบาท เพื่อต้องการตอกย้ำและกระตุ้นยอดขายของสก๊อตซุปไก่100% ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นคนวัยทำงานอายุ 25 ปีขึ้นไปและห่วงใยสุขภาพ โดยจะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ซุปไก่สกัดสก๊อตผ่านภาพยนตร์โฆษณา 3 ชุด และกิจกรรมต่างๆที่แบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ อาทิ ออกโรดโชว์ตามถนนหลักของกรุงเทพฯ, กิจกรรมบนสถานีรถไฟฟ้า และกิจกรรมในห้างดิสเคานต์สโตร์ รวมถึงการทำโปรโมชั่นณ จุดขายและให้ส่วนลดแก่ลูกค้า
ปัจจุบันสก๊อตมีผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่ม ประกอบด้วย แบรนด์สก๊อตซุปไก่สกัดสูตร 100% มี 2 ขนาด และแบรนด์ยู-เซน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าใหม่ที่อยากทานซุปไก่แต่ไม่ชอบกลิ่นคาว และรังนกสก๊อตที่มี 2ขนาด
ยอดขายของบริษัทปี 2547 มีรายได้ 500 ล้านบาทและมีการเติบโต 10% แบ่งเป็นสัดส่วนของรังนก 60% และซุปไก่ 40% โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายโต 15% จากการทำกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งยอดขายของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกเป็นไปตามเป้า แบ่งเป็นซุปไก่โต10% และรังนก 20% แต่ยอดต้องสะดุดไปบ้างในช่วงต้นปีจากเหตุการณ์ทางภาคใต้และสึนามิ
สำหรับมูลค่าตลาดรวมของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมีประมาณ 2,700 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดซุปไก่ ซึ่งปีที่แล้วมียอด 1,600 ล้านบาทและมีอัตราการโต 5-6% สก๊อตมีส่วนแบ่งทางการตลาด 30% เป็นอันดับ 2 ของตลาดรองจากแบรนด์ ที่มีแชร์ 60% ซึ่งสิ้นปีนี้คาดว่าแชร์ของสก๊อตจะเพิ่มเป็น 35% จากการจัดกิจกรรมทางตลาด ขณะที่ภาพรวมตลาดคาดว่าจะโต 8-10%
ส่วนตลาดรังนกปี2547 มีมูลค่า 1,100 ล้านบาท โดยมีสก๊อตเป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 60% ซึ่งปีที่แล้วรังนกสก๊อตยอดขายโต 18% ปีนี้คาดว่ายอดขายสก๊อตจะโต 20% และมูลค่าตลาดรวมจะเพิ่มเป็น 1,400 ล้านบาท