xs
xsm
sm
md
lg

3 ค่ายยักษ์ปรับแผนรับกฏคุมราคา เน้นติวเข้มวิธีบริหารจัดการกดต้นทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

”ยูนิลีเวอร์-พีแอนด์จี-ไลอ้อน”ฝุ่นตลบผุดแผนรับมือกระทรวงพาณิชย์ เตรียมบริหารจัดการขนานใหญ่ หลังเดือนพ.ค.ขอขึ้นราคา-ลดไซส์สุดหิน กระทรวงพาณิชย์ดึงเกมสินค้าอุปโภคบริโภครายเล็ก-ใหญ่แข่งยุติธรรม ตั้งป้อมคุม 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ แชมพู-สบู่-ผงซักฟอก เป็นสินค้าควบคุม หลังรายใหญ่ปรับราคาสินค้า-ลดปริมาณอำเภอใจ

ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ช่วงปีที่ผ่านมา และในปีนี้แนวโน้มของราคาน้ำมันก็ยังดีดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามด้วย กรณีดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการสินค้าหลายกลุ่ม ซึ่งรวมไปถึงสินค้าอุปโภคบริโภคหรือของใช้ในชีวิตประจำวัน อย่าง แชมพู ผงซักฟอก สบู่ เป็นต้น เริ่มทยอยขึ้นราคา หรือใช้กลยุทธ์ลดปริมาณลง มาตั้งแต่เดือนมกราคม 2548 อย่างเงียบๆโดยไม่ได้แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ เตรียมออกประกาศควบคุมให้สินค้า 8 กลุ่ม ได้แก่ ปูนซีเมนต์ เม็ดพลาสติก สายไฟฟ้า กระดาษคราฟน์ สุกรและเนื้อสุกร รวมทั้งแชมพู สบู่ ผงซักฟอก เป็นสินค้าควบคุมจากเดิมเป็นสินค้าเฝ้าระวังติดตาม ส่งผลให้สินค้าควบคุมปัจจุบันมีทั้งหมด 24 รายการ ทั้งนี้เพื่อควบคุมการขึ้นราคาหรือลดขนาดลงของผู้ประกอบการโดยพละการ และจากนี้การขึ้นราคาสินค้าใน 3กลุ่ม ผงซักฟอก สบู่ แชมพูจะต้องขออนุญาติจากกระทรวงพาณิชย์ก่อน โดยสินค้าที่ประกาศควบคุมใหม่จะมีผล หลังจากที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายในเดือนพฤษภาคมนี้

แหล่งข่าวบริษัทยูนิลีเวอร์ ไทยเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยกับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า ภาครัฐออกมาตรการดังกล่าวออกมาในครั้งนี้ ในฐานะบริษัทเป็นผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภค ก็ต้องปฏิบัติตามทุกอย่าง แม้ว่าบริษัทจะต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นก็ตาม โดยขณะนี้บริษัทเฝ้าติดตามถึงมาตรการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดว่าจะมีผลเมื่อไร ซึ่งหากมีผลบังคับใช้บริษัทก็ได้เตรียมแผนรองรับไว้ คือจะต้องบริหารจัดการต้นทุนการผลิตสินค้าให้ดีมากขึ้น จากที่ผ่านมาบริษัทก็มีการบริหารจัดการที่ดีอยู่แล้ว

ทั้งนี้ตั้งข้อสังเกตุว่า ปัจจุบันบริษัทยูนิลีเวอร์ เป็นผู้นำตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์แชมพู สบู่ และผงซักฟอก โดยในกลุ่มแชมพูภายใต้แบรนด์ซันซิล คลีนิคเคลียร์ โดฟ มีส่วนแบ่งถึง 56.8% จากมูลค่าตลาด 9,000 ล้านบาท ผงซักฟอกภายใต้แบรนด์บรีส โอโม มีส่วนแบ่ง 65% จากมูลค่าตลาด 10,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มสบู่มีส่วนแบ่ง 26% จากมูลค่า 3,200 ล้านบาท โดยเป็นรายแรกที่ใช้กลยุทธ์ลดปริมาณลงราคาคงเดิม รวมทั้งปรับราคาสินค้าขึ้นใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการลดปริมาณแต่ราคาคงเดิม รวมทั้งปรับราคาสินค้า เริ่มตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม กลุ่มผลิตภัณฑ์แชมพู และครีมนวดซันซิลเพิ่ม 2-3 บาท คลีนิคเคลียร์เพิ่มเป็นเฉพาะบางขนาดเท่านั้น เช่น 380 กรัม จาก 103บาทเป็น 109 บาท และวางแผนจะปรับราคาขึ้นเป็นขั้นบันได ส่วนกลุ่มสบู่ ได้ปรับลดน้ำหนักจาก 90 กรัม เหลือ 85 กรัม แต่ราคาเท่าเดิม 10 บาท รวมทั้งกลุ่มผงซักฟอกลดปริมาณลง 5 กก.เหลือ 4.5 กก.และจำหน่ายราคา 185 บาทเท่าเดิม แต่เมื่อสอบถามไปยังผู้บริหารยูนิลีเวอร์ กลับขอปฏิเสธ

สำหรับกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ออกมาประกาศเปลี่ยนจากสินค้าเฝ้าระวังติดตามอย่างแชมพู ผงซักฟอก สบู่มาเป็นสินค้าควบคุมนั้น วัตถุประสงค์สำคัญอย่างหนึ่งคือ ต้องการสร้างการแข่งขันให้มีความยุติธรรมมากขึ้น เพราะการเป็นผู้นำตลาดก็ถือได้ว่าตราสินค้าได้รับความนิยมจากกลุ่มผู้บริโภค การขึ้นราคาสินค้าหรือลดปริมาณโอกาสที่ผู้บริโภคจะสวิชต์ไปซื้อสินค้าแบรนด์อื่นย่อมมีน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับรายเล็กที่ขึ้นราคา ขณะที่รายอื่นๆเมื่อเห็นว่าผู้นำตลาดยังขึ้นราคาก็ต้องขึ้นตามบ้าง

มาตรการสินค้าควบคุมไม่มีผล
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ภายใต้เครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า มาตรการเปลี่ยนสินค้า 3 กลุ่มเป็นสินค้าควบคุมของกระทรวงพาณิชย์ที่ออกมานั้น เป็นเพราะต้องการทำให้ประชาชนมีความสบายใจมากขึ้น แต่ที่จริงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคถูกควบคุมโดยกลไกทางการตลาดอยู่แล้ว เพราะการแข่งขันในสินค้าทั้ง 3 กลุ่ม มีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยยกตัวอย่างว่า ราคาผงซักฟอกไม่ได้ขยับราคาหรือมีความแตกต่างกันมากนับตั้งแต่วิฤกติเศรษฐกิจ ปี 2540 จนกระทั่งปัจจุบัน ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบหลักเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว

“หลังจากที่บริษัทมีนโยบายตรึงราคาสินค้าไว้ให้นานที่สุด แต่ล่าสุดผู้นำตลาดใช้กลยุทธ์ลดปริมาณลงในสินค้ากลุ่มผงซักฟอก ทำให้บริษัทมีนโยบายลดปริมาณลงจาก 5 ก.ก.เหลือ 4.5 ก.ก.ราคา185บาท โดยจะเริ่มทยอยปรับและคาดว่าอีก 1 เดือนจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้น”

ขณะนี้บริษัทได้เตรียมหามาตรการรองรับผลจากการเปลี่ยนแปลงของทางภาครัฐไว้แล้ว เพราะหลังจากนี้การจะขึ้นราคาสินค้า 3 กลุ่มจะต้องสมเหตุสมผลมากขึ้น โดยบริษัทได้เตรียมจัดซื้อวัตถุดิบแบบโกลบอล ลูกค้าสามารถติดต่อมาเสนอราคาวัตถุดิบได้ ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความหลากหลายในเรื่องของราคาและเลือกราคาที่เหมาะสมที่สุด โดยเป็นวิธีลดต้นทุนการผลิตอย่างหนึ่ง นอกจากนี้ยังได้เตรียมปรับแพกเกจจิ้ง ลดความแข็งแรงของกล่องลง ส่วนความสวยงามยังคงเดิม

P&Gรอดตัวหลังไม่มีแผนขึ้นราคา
นายอมาร์ดีพ คอสล่า กรรมการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศไทย กล่าวว่ากับ”ผู้จัดการรายวัน”ว่า สำหรับข้อกำหนดและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่จะออกมานั้น ทางพีแอนด์จี มีความพร้อมที่จะให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุด ในการรับมือกับความกดดันด้านต้นทุนนั้น คือการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของบริษัท โดยก่อนหน้านี้นางสาวปริญดา หัศฎางค์กุล กรรมการผู้จัดการของบริษัท ได้กล่าวว่า ที่ผ่านมาหลังจากที่ต้นทุนการผลิตโดยรวมสูงขึ้น แต่บริษัทไม่มีนโยบายที่จะปรับราคาสินค้า หรือลดขนาดของสินค้าลง โดยยังคงราคาเดิมไว้ตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นจากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อบริษัทเลย
กำลังโหลดความคิดเห็น