ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - "นิ่มซี่เส็ง" ยักษ์ใหญ่ขนส่งภาคเหนือ ยังขยายการลงทุนไม่หยุด ล่าสุดขึ้นโรงแรมระดับ 2-3 ดาวกลางเมืองเชียงใหม่ พร้อมอพาร์ตเมนต์ร่วม 200-300 ห้อง แต่ชะลอแผนรุกขนส่งข้ามชาติเข้าจีนตอนใต้ไม่มีกำหนด หลังเจอวิกฤตน้ำมันที่มีแนวโน้มพุ่งขึ้นไม่หยุด
ขณะที่ประเทศไทย และสังคมโลกกำลังเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งสูงกันถ้วนหน้า กลุ่ม "นิ่มซี่เส็ง" ภายใต้การกุมบังเหียนของพี่น้องตระกูล "สุวิทย์ศักดานนท์" ที่ลงแรงสร้างอาณาจักรธุรกิจขึ้นมาจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่วงการขนส่งของภาคเหนือ ภายใต้ชื่อ "บริษัทนิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด"
อันเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดเฉพาะเชียงใหม่ได้เกือบ 100% และมีเครือข่ายครอบคลุมเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปาง และกรุงเทพฯอีก 4 สาขา รวมเป็น 14 สาขา มีรถบริการขนส่งในเครือและรถร่วมกว่า 500 คัน พนักงานขนสินค้า/คนขับอีกว่า 1,000 คน ก็ต้องชะลอแผนการขยายการลงทุนด้านธุรกิจขนส่งไปด้วย
ชะลอรุกขนส่งเข้าจีน -ลาว
นายอุดม สุวิทย์ศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษับริษัทนิ่มซี่เส็ง 1988 จำกัด ยักษ์ใหญ่วงการขนส่งสินค้าของภาคเหนือ ที่ครอบส่วนแบ่งตลาดเฉพาะเชียงใหม่ได้เกือบ 100% ภาคเหนือประมาณ 40% และมีเครือข่ายครอบคลุมเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปาง และกรุงเทพฯอีก 4 สาขา รวมเป็น 14 สาขา มีรถบริการขนส่งในเครือและรถร่วมกว่า 500 คัน พนักงานขนสินค้า/คนขับอีกกว่า 1,000 คนบริษัท นิ่มซี่เส็ง 1988 จำกัด กล่าวว่า
ก่อนหน้านี้ บริษัทมีแผนงานที่จะขยายการลงทุนเข้าไปให้บริการขนส่งสินค้า ในกลุ่มอินโดจีน เชื่อมโยงระหว่างไทย - จีนตอนใต้ ผ่านทั้งพม่า และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )ซึ่งในส่วนของพม่าถนนเชื่อมระหว่างเชียงราย - ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-สิบสองปันนา คุนหมิง มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการปรับปรุงแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2547
ขณะที่ถนนที่ผ่าน สปป.ลาว มีกำหนดแล้วเสร็จราวปี 2550-51 ขณะนี้อาจจะต้องชะลอแผนการขยายการลงทุนในส่วนนี้ออกไปก่อน เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นเป็นหลัก ทำให้ต้องกลับมาศึกษาข้อมูลโดยละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ เพราะในด้านการขนส่ง ต้นทุนเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เฉพาะกรณีที่รัฐบาลประกาศปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้น 2 ครั้งที่ผ่านมารวม 3.60 บาท/ลิตร ก็ทำให้บริษัทต้องปรับอัตราค่าบริการขนส่งสินค้าภายในประเทศขึ้นไม่น้อยกว่า 15-20%เป็นอย่างต่ำ และมีต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้นทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไหล่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าดอกเบี้ย ฯลฯ
"คงต้องรอให้สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมให้กลับสู่ภาวะปกติ และนิ่งก่อน จึงจะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง"
ผุดรร.-อพาร์ตเมนต์กลางเมือง
ขยายธุรกิจคลุมเหนือตอนบน
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการขยายเครือข่ายการลงทุนของกลุ่มนิ่มซี่เส็ง แม้ว่าในภาคการขนส่งจะชะลอการขยายตัวก็ตาม แต่กลุ่มนิ่มซี่เส็งยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในสาขาอื่น ๆ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด "โรงแรมนิ่มซี่เส็ง" ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ "ชัยวัฒน์ สุวิทย์ศักดานนท์" บุตรชายของ "เฮียใหญ่ - อุทัต สุวิทย์ศักดานนท์ ประธานกรรมการบริษัท นิ่มซี่เส็งฯ" เตรียมที่จะเปิดตัว "โรงแรมนิ่มซี่เส็งเชียงใหม่" ที่ตั้งอยู่บริเวณ ถนนอ้อมเมืองสายใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมขนาด 100 กว่าห้อง พร้อมด้วยอพาร์ตเมนต์ให้เช่าอีกไม่น้อยกว่า 2-300 ห้องในบริเวณเดียวกัน จากเดิมที่มีโรงแรมนิ่มซี่เส็งเชียงราย ขนาด 70 กว่าห้อง ที่ถือเป็นโรงแรมระดับกลางของเมืองพ่อขุนอยู่แล้ว
ขณะที่บริษัทนิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด 1 ใน 3 กิจการหลักของกลุ่ม "นิ่มซี่เส็ง" ก็สามารถขยายเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบนทั้งเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ ได้อย่างต่อเนื่อง จนมียอดสาขามากกว่า 200 สาขาแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้นกลุ่ม "นิ่มซี่เส็ง" ยังมีเครือข่ายธุรกิจที่แตกไลน์ออกไปอย่างต่อเนื่องอีกไม่น้อยกว่า 2-3 บริษัท เช่น "บริษัท นิ่มซี่เส็ง หิน-ทราย จำกัด" "บริษัท นิ่มซี่เส็งรถยก จำกัด" , "ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิ่มซี่เส็งกลการ" และ"บริษัท นิ่มซี่เส็ง อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายเครือข่ายปั๊มน้ำมันตามจุดต่าง ๆ ระหว่างเส้นทางขนส่งสินค้าหลักกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริหารสต๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เดิมกลุ่มนิ่มซี่เส็งจะมีสต๊อกน้ำมันอยู่เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น
การเติบโตของนิ่มซี่เส็งขนส่ง
2514 เริ่มธุรกิจขนส่งที่ตลาดวโรรส จังหวัดเชียงใหม่ มีสำนักงานเป็นตึกแถวคูหาเดียวในรูปแบบของห้างหุ้นส่วน
2519เปิดที่ทำการสาขาสี่แยกมหานาค กทม.
2521บุกเบิกไปยังสาขา ท่าลี่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
2523เปิดสาขาป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
2524ย้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่จากตลาดวโรรสไปยังตลาดเมืองฟ้า จังหวัดเชียงใหม่ มีสำนักงานที่มีพื้นที่การให้บริการเพิ่มขึ้นจำนวน ประมาณ 4 - 5 ไร่แต่ยังใช้ตึกแถวคูหาเดียวที่ตลาดวโรรสเป็นสาขา
2526 เปิดที่ทำการสาขาขึ้นใหม่ที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และสาขากองลอย
2529เปิดที่ทำการสาขาใหม่ ที่จังหวัด ลำปาง
2531เปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจจาก ห้างหุ้นส่วน มาเป็น "บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด" และเปิดที่ทำการสาขาสันกำแพง
2533ย้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่ มายังสามแยกแม่โจ้จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีพื้นที่ 80 ไร่
2537เปิดที่ทำการสาขาพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อเป็นจุดรับสินค้าขึ้นมา ภาคเหนือ
2539เปิดที่ทำการสาขาลำพูนขึ้น เพื่อรองรับความเจริญเติบโต จ.ลำพูน
2541เปิดบริการการกระจายสินค้าระบบ Logistics
2543เปิดที่ทำการสาขาพุทธมณฑลสาย 5
2545เปิดที่ทำการสาขาพะเยา และเปิดให้บริการส่งสินค้าด่วน "Nim see seng - Express"
2546เปิดให้บริการรับฝากสินค้าห้องเย็น ขนาดพื้นที่ 571.2 ตรม.
2547เปิดที่ทำการสาขาตลาดไท
ขณะที่ประเทศไทย และสังคมโลกกำลังเผชิญกับปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งสูงกันถ้วนหน้า กลุ่ม "นิ่มซี่เส็ง" ภายใต้การกุมบังเหียนของพี่น้องตระกูล "สุวิทย์ศักดานนท์" ที่ลงแรงสร้างอาณาจักรธุรกิจขึ้นมาจนกลายเป็นยักษ์ใหญ่วงการขนส่งของภาคเหนือ ภายใต้ชื่อ "บริษัทนิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด"
อันเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดเฉพาะเชียงใหม่ได้เกือบ 100% และมีเครือข่ายครอบคลุมเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปาง และกรุงเทพฯอีก 4 สาขา รวมเป็น 14 สาขา มีรถบริการขนส่งในเครือและรถร่วมกว่า 500 คัน พนักงานขนสินค้า/คนขับอีกว่า 1,000 คน ก็ต้องชะลอแผนการขยายการลงทุนด้านธุรกิจขนส่งไปด้วย
ชะลอรุกขนส่งเข้าจีน -ลาว
นายอุดม สุวิทย์ศักดานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษับริษัทนิ่มซี่เส็ง 1988 จำกัด ยักษ์ใหญ่วงการขนส่งสินค้าของภาคเหนือ ที่ครอบส่วนแบ่งตลาดเฉพาะเชียงใหม่ได้เกือบ 100% ภาคเหนือประมาณ 40% และมีเครือข่ายครอบคลุมเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน แม่ฮ่องสอน ลำปาง และกรุงเทพฯอีก 4 สาขา รวมเป็น 14 สาขา มีรถบริการขนส่งในเครือและรถร่วมกว่า 500 คัน พนักงานขนสินค้า/คนขับอีกกว่า 1,000 คนบริษัท นิ่มซี่เส็ง 1988 จำกัด กล่าวว่า
ก่อนหน้านี้ บริษัทมีแผนงานที่จะขยายการลงทุนเข้าไปให้บริการขนส่งสินค้า ในกลุ่มอินโดจีน เชื่อมโยงระหว่างไทย - จีนตอนใต้ ผ่านทั้งพม่า และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว )ซึ่งในส่วนของพม่าถนนเชื่อมระหว่างเชียงราย - ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-สิบสองปันนา คุนหมิง มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้รับการปรับปรุงแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2547
ขณะที่ถนนที่ผ่าน สปป.ลาว มีกำหนดแล้วเสร็จราวปี 2550-51 ขณะนี้อาจจะต้องชะลอแผนการขยายการลงทุนในส่วนนี้ออกไปก่อน เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นเป็นหลัก ทำให้ต้องกลับมาศึกษาข้อมูลโดยละเอียดอีกครั้ง
ทั้งนี้ เพราะในด้านการขนส่ง ต้นทุนเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เฉพาะกรณีที่รัฐบาลประกาศปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้น 2 ครั้งที่ผ่านมารวม 3.60 บาท/ลิตร ก็ทำให้บริษัทต้องปรับอัตราค่าบริการขนส่งสินค้าภายในประเทศขึ้นไม่น้อยกว่า 15-20%เป็นอย่างต่ำ และมีต้นทุนทางธุรกิจเพิ่มขึ้นทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไหล่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าดอกเบี้ย ฯลฯ
"คงต้องรอให้สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจโดยรวมให้กลับสู่ภาวะปกติ และนิ่งก่อน จึงจะพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง"
ผุดรร.-อพาร์ตเมนต์กลางเมือง
ขยายธุรกิจคลุมเหนือตอนบน
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของการขยายเครือข่ายการลงทุนของกลุ่มนิ่มซี่เส็ง แม้ว่าในภาคการขนส่งจะชะลอการขยายตัวก็ตาม แต่กลุ่มนิ่มซี่เส็งยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในสาขาอื่น ๆ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด "โรงแรมนิ่มซี่เส็ง" ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ "ชัยวัฒน์ สุวิทย์ศักดานนท์" บุตรชายของ "เฮียใหญ่ - อุทัต สุวิทย์ศักดานนท์ ประธานกรรมการบริษัท นิ่มซี่เส็งฯ" เตรียมที่จะเปิดตัว "โรงแรมนิ่มซี่เส็งเชียงใหม่" ที่ตั้งอยู่บริเวณ ถนนอ้อมเมืองสายใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นโรงแรมขนาด 100 กว่าห้อง พร้อมด้วยอพาร์ตเมนต์ให้เช่าอีกไม่น้อยกว่า 2-300 ห้องในบริเวณเดียวกัน จากเดิมที่มีโรงแรมนิ่มซี่เส็งเชียงราย ขนาด 70 กว่าห้อง ที่ถือเป็นโรงแรมระดับกลางของเมืองพ่อขุนอยู่แล้ว
ขณะที่บริษัทนิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด 1 ใน 3 กิจการหลักของกลุ่ม "นิ่มซี่เส็ง" ก็สามารถขยายเครือข่ายครอบคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนบนทั้งเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เชียงราย แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ ได้อย่างต่อเนื่อง จนมียอดสาขามากกว่า 200 สาขาแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้นกลุ่ม "นิ่มซี่เส็ง" ยังมีเครือข่ายธุรกิจที่แตกไลน์ออกไปอย่างต่อเนื่องอีกไม่น้อยกว่า 2-3 บริษัท เช่น "บริษัท นิ่มซี่เส็ง หิน-ทราย จำกัด" "บริษัท นิ่มซี่เส็งรถยก จำกัด" , "ห้างหุ้นส่วนจำกัด นิ่มซี่เส็งกลการ" และ"บริษัท นิ่มซี่เส็ง อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด" เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายเครือข่ายปั๊มน้ำมันตามจุดต่าง ๆ ระหว่างเส้นทางขนส่งสินค้าหลักกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการบริหารสต๊อกน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เดิมกลุ่มนิ่มซี่เส็งจะมีสต๊อกน้ำมันอยู่เพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น
การเติบโตของนิ่มซี่เส็งขนส่ง
2514 เริ่มธุรกิจขนส่งที่ตลาดวโรรส จังหวัดเชียงใหม่ มีสำนักงานเป็นตึกแถวคูหาเดียวในรูปแบบของห้างหุ้นส่วน
2519เปิดที่ทำการสาขาสี่แยกมหานาค กทม.
2521บุกเบิกไปยังสาขา ท่าลี่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
2523เปิดสาขาป่าซาง อ.ป่าซาง จ.ลำพูน
2524ย้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่จากตลาดวโรรสไปยังตลาดเมืองฟ้า จังหวัดเชียงใหม่ มีสำนักงานที่มีพื้นที่การให้บริการเพิ่มขึ้นจำนวน ประมาณ 4 - 5 ไร่แต่ยังใช้ตึกแถวคูหาเดียวที่ตลาดวโรรสเป็นสาขา
2526 เปิดที่ทำการสาขาขึ้นใหม่ที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และสาขากองลอย
2529เปิดที่ทำการสาขาใหม่ ที่จังหวัด ลำปาง
2531เปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจจาก ห้างหุ้นส่วน มาเป็น "บริษัท นิ่มซี่เส็งขนส่ง 1988 จำกัด" และเปิดที่ทำการสาขาสันกำแพง
2533ย้ายที่ทำการสำนักงานใหญ่ มายังสามแยกแม่โจ้จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีพื้นที่ 80 ไร่
2537เปิดที่ทำการสาขาพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อเป็นจุดรับสินค้าขึ้นมา ภาคเหนือ
2539เปิดที่ทำการสาขาลำพูนขึ้น เพื่อรองรับความเจริญเติบโต จ.ลำพูน
2541เปิดบริการการกระจายสินค้าระบบ Logistics
2543เปิดที่ทำการสาขาพุทธมณฑลสาย 5
2545เปิดที่ทำการสาขาพะเยา และเปิดให้บริการส่งสินค้าด่วน "Nim see seng - Express"
2546เปิดให้บริการรับฝากสินค้าห้องเย็น ขนาดพื้นที่ 571.2 ตรม.
2547เปิดที่ทำการสาขาตลาดไท