“สุรนันทน์” เคลียร์ปัญหาช่อง 11 ขึ้นค่าเช่าเวลามหาโหด ยอมรับไม่เป็นธรรมจริง เสนอให้ทยอยขึ้น ครั้งแรก 25% ก่อน สั่งทำเวิร์คช็อป มุ่งให้ “กรมกร๊วก”เป็นสถานีที่ให้ข้อมูลที่เชื่อถือได้
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ผลิตรายการของช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ได้เข้าพบ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความขอบคุณ ที่ช่วยไกล่เกลี่ย ให้ความเป็นธรรมกรณีที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(สทท.) ประกาศขึ้นราคาค่าเช่าเวลาในอัตรา 100-300 % โดยมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพียง 1 วัน
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการและผู้จัดรายการทราบดีว่า สทท.มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นราคาค่าเช่าเวลา เนื่องจากไม่ได้มีการปรับมานานหลายปีแล้ว ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับกรมประชาสัมพันธ์ แต่ขอให้ขึ้นอย่างเป็นธรรม และเป็นขั้นตอน ค่อย ๆ ขึ้น เพื่อที่จะได้สามารถปรับตัวได้ และจะได้สามารถปรับโครงสร้างการทำงานของเขาได้ เพื่อที่จะร่วมผลิตรายการต่อไป
ส่วนเรื่องระยะเวลาการแจ้งของกรมประชาสัมพันธ์ที่แจ้งกระชั้นชิดเกินไปนั้น เนื่องจากเมื่อมีการปรับผังวันที่ 1 เม.ย.แล้ว ทางกรมประชาสัมพันธ์จึงต้องการให้ปรับราคาด้วยเลย ดังนั้นการแจ้งกับผู้ประกอบการจึงกระชั้นไป ซึ่งเมื่อตนได้หารือกับผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์แล้วก็ยอมรับว่าการแจ้งลักษณะนี้อาจไม่เป็นธรรม
นายสุรนันทน์ กล่าวต่อว่า ได้คุยกันว่า โครงสร้างราคาของกรมประชาสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจน จึงได้แนะแนวทางให้ทางกรมประชาสัมพันธ์ ยืดเวลาพิจารณาอัตราราคาใหม่ตามที่ผู้ประกอบการเสนอ โดยในช่วง 3 เดือนนี้ให้ขึ้น 25% และในระหว่าง 3 เดือนนี้ ทางกรมประชาสัมพันธ์ ต้องทำแผนยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ และระดมสมองจากนักวิชาการ ผู้มีส่วนได้เสีย มาระดมความคิดว่า ทำอย่างไรให้ได้รายการที่มีคุณภาพ ในอัตราราคาที่ตกลงกันได้ ไม่แพงเกินไป ไม่ถูกเกินไป
“ผมได้ให้นโยบายกับกรมประชาสัมพันธ์ให้ทำ เวิร์คช็อปแนวทางการประชาสัมพันธ์ และปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นสถานีที่ให้ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้ โดยจะทำเวิร์คช็อปประมาณเดือน พฤษภาคม และหลังจากนี้อีก 3 เดือน คงได้แนวทางที่เห็นพ้องกันระหว่างรัฐกับผู้ประกอบการ จากนั้น ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ก็จะมีการทดลองว่า การทำงาน การขึ้นราคา จะเป็นอย่างไร จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม ผังรายการ และโครงสร้างต้นทุนจะนิ่ง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำให้การทำงานของกรมประชาสัมพันธ์จะดีขึ้น เป็นงานใหญ่ที่จะทำใน 6 เดือนต่อไปนี้” นายสุรนันทน์กล่าว
เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล กลุ่มผู้ผลิตรายการของช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ได้เข้าพบ นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อแสดงความขอบคุณ ที่ช่วยไกล่เกลี่ย ให้ความเป็นธรรมกรณีที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย(สทท.) ประกาศขึ้นราคาค่าเช่าเวลาในอัตรา 100-300 % โดยมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพียง 1 วัน
นายสุรนันทน์ กล่าวว่า ทางผู้ประกอบการและผู้จัดรายการทราบดีว่า สทท.มีความจำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นราคาค่าเช่าเวลา เนื่องจากไม่ได้มีการปรับมานานหลายปีแล้ว ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการก็พร้อมจะให้ความร่วมมือกับกรมประชาสัมพันธ์ แต่ขอให้ขึ้นอย่างเป็นธรรม และเป็นขั้นตอน ค่อย ๆ ขึ้น เพื่อที่จะได้สามารถปรับตัวได้ และจะได้สามารถปรับโครงสร้างการทำงานของเขาได้ เพื่อที่จะร่วมผลิตรายการต่อไป
ส่วนเรื่องระยะเวลาการแจ้งของกรมประชาสัมพันธ์ที่แจ้งกระชั้นชิดเกินไปนั้น เนื่องจากเมื่อมีการปรับผังวันที่ 1 เม.ย.แล้ว ทางกรมประชาสัมพันธ์จึงต้องการให้ปรับราคาด้วยเลย ดังนั้นการแจ้งกับผู้ประกอบการจึงกระชั้นไป ซึ่งเมื่อตนได้หารือกับผู้บริหารกรมประชาสัมพันธ์แล้วก็ยอมรับว่าการแจ้งลักษณะนี้อาจไม่เป็นธรรม
นายสุรนันทน์ กล่าวต่อว่า ได้คุยกันว่า โครงสร้างราคาของกรมประชาสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจน จึงได้แนะแนวทางให้ทางกรมประชาสัมพันธ์ ยืดเวลาพิจารณาอัตราราคาใหม่ตามที่ผู้ประกอบการเสนอ โดยในช่วง 3 เดือนนี้ให้ขึ้น 25% และในระหว่าง 3 เดือนนี้ ทางกรมประชาสัมพันธ์ ต้องทำแผนยุทธศาสตร์การประชาสัมพันธ์ และระดมสมองจากนักวิชาการ ผู้มีส่วนได้เสีย มาระดมความคิดว่า ทำอย่างไรให้ได้รายการที่มีคุณภาพ ในอัตราราคาที่ตกลงกันได้ ไม่แพงเกินไป ไม่ถูกเกินไป
“ผมได้ให้นโยบายกับกรมประชาสัมพันธ์ให้ทำ เวิร์คช็อปแนวทางการประชาสัมพันธ์ และปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นสถานีที่ให้ข้อมูลข่าวสารที่เชื่อถือได้ โดยจะทำเวิร์คช็อปประมาณเดือน พฤษภาคม และหลังจากนี้อีก 3 เดือน คงได้แนวทางที่เห็นพ้องกันระหว่างรัฐกับผู้ประกอบการ จากนั้น ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน ก็จะมีการทดลองว่า การทำงาน การขึ้นราคา จะเป็นอย่างไร จนกระทั่งวันที่ 1 ตุลาคม ผังรายการ และโครงสร้างต้นทุนจะนิ่ง และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ทำให้การทำงานของกรมประชาสัมพันธ์จะดีขึ้น เป็นงานใหญ่ที่จะทำใน 6 เดือนต่อไปนี้” นายสุรนันทน์กล่าว