ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ชลประทานจังหวัดฯ เผยน้ำต้นทุนอ่างเก็บน้ำหลักศรีสะเกษ ล่าสุดทั้ง 14 อ่างลดระดับต่อเนื่องเหลือ 44 ล้านลบ.ม.คิดเป็น 52.5% ของความจุ ชี้อ่างห้วยตามายอ. กันทรลักษ์ วิกฤตสุด เหลือแค่ 17% และชาวขุขันธ์ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้รุนแรงที่สุด ระบุชงโครงการของบปี'49 แก้ปัญหาภัยแล้งพันล้านบาท ส่วนงบฯกลางปี'48 จำนวน 256 ล้านบาทยังไม่ได้เงิน
วานนี้( 23 มี.ค.)ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยตามาย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายจรัน เจาลา หัวหน้าโครงการชลประทานศรีสะเกษ เปิดเผยว่า สถานการณ์ปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 14 แห่ง ของจังหวัดศรีสะเกษ ขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ คือ มีปริมาณรวมเหลืออยู่จำนวน 88 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) จากความจุรวมทั้งหมด 170 ล้านลบ.ม. หรือคิดเป็นประมาณ 52.5% ของความจุ
อย่างไรก็ตาม มีปัญหาปริมาณน้ำน้อยเข้าขั้นวิกฤต ที่อ่างเก็บน้ำห้วยตามาย อ.กันทรลักษ์ ซึ่งขณะนี้มีน้ำเหลืออยู่เพียง 6 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 17% ของความจุดทั้งหมด 37 ล้านลบ.ม. เท่านั้น
ส่วนอ่างเก็บน้ำที่ยังมีน้ำอยู่ในเกณฑ์ระดับสูงมี 3 แห่ง คือ อ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู อ.ภูสิงห์ มีน้ำปริมาณ 82 % ของความจุ,อ่างเก็บน้ำห้วยขนุน อ.กันทรลักษ์ 84 % และ อ่างเก็บน้ำโอตาลัด มีน้ำเหลืออยู่ 80% ของความจุ โดยชลประทานได้ทยอยปล่อยน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในเขตชลประทานที่เดือดร้อน ในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภคเป็นหลัก
สำหรับพื้นที่นอกเขตชลประทาน ค่อนข้างจะมีปัญหามาก โดยเฉพาะตามลำน้ำมูลซึ่งขณะนี้ที่ฝายราษีไศล อ.ราษีไศล มีน้ำอยู่หน้าฝายที่ใช้ "สต็อปล็อก" หรือ แผ่นเหล็กวางกั้นตรงช่องประตูเขื่อนกักน้ำไว้ ปัจจุบันเหลืออยู่ประมาณ 7 ล้านลบ.ม. คาดว่าจะสามารถใช้ได้อีกประมาณแค่เดือนเศษเท่านั้น (อนึ่ง ฝายราษีไศลมีปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมและการพิสูจน์สิทธิที่ดิน เพื่อชดเชยค่าเสียหายให้ชาวบ้าน ยังไม่สามารถปิดประตูเขื่อนกักเก็บน้ำได้เต็มรูปแบบ)
"ที่ผ่านมาชลประทานจังหวัดฯได้บรรเทาความเดือดร้อน ด้วยการส่งรถบรรทุกน้ำอุปโภคบริโภค ไปช่วยเหลือประชาชนทั้งหมด 8 อำเภอรวมแล้ว 1,750,000 ลิตร และยังคงช่วยเหลืออยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในหมู่บ้านไหนหรือตำบลใดขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคจะรีบเข้าช่วยทันทีตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งพบว่า อ.ขุขันธ์ ขาดแคลนน้ำรุนแรงหนักมากที่สุดอยู่ในขณะนี้ จึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด" นายจรัน กล่าว
นายจรัน กล่าวถึงการแก้ปัญหาระยะยาว ว่า ในปีงบประมาณประจำปี 2549 ชลประทานจังหวัดได้เสนอแผนและโครงการแก้ปัญหาและพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาล รวมงบประมาณดำเนินการราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งในส่วนปี 2548 ได้รับการเห็นชอบในส่วนงบฯสนับสนุนพิเศษ จากนายกรัฐมนตรีหรืองบฯกลางจำนวน 206 ล้านบาท รวมทั้งได้งบประมาณโครงการผ่าน นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี อีกจำนวน 5 โครงการ ประมาณ 11 ล้านบาท แต่ทั้งหมด ขณะนี้ยังรอการจัดสรรงบประมาณ ลงมาดำเนินการอยู่