“ทักษิณ”เรียกประชุมแกนนำ ทรท.คาดหารือตั้งครม.แต่บอกว่าเป็นการมอบงานแก้ปัญหาภาคใต้ ขณะที่ส.ส.หลายคนหนุน"โภคิน"นั่งประธานสภา "เสริมศักดิ์"แบะท่าพร้อมนั่งรมช.มหาดไทย แต่ยังไม่ได้รับการทาบทามอย่างเป็นทางการ
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (21ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกแกนนำฝ่ายการเมืองพรรคไทยรักไทย เข้าหารือที่บ้านพิษณุโลก อาทิ นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี นายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรมว.คมนาคม นายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง
ทั้งนี้ ก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการเรียกแกนนำเข้าหารือดังกล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นการมอบหมายงานเฉพาะบุคคลให้ทำ แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เรียกรัฐมนตรีกระทรวงไหนหารือบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เป็นพวกผู้แทนทั้งนั้น เมื่อถามว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ จะมีความยากลำบากหรือไม่ เพราะพรรคไทยรักไทยไม่ได้ผู้แทนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็นี่ไง เป็นเพราะไม่มีส.ส.แต่ ส.ส.พื้นที่อื่นก็สามารถไปช่วยทำงานได้ แต่จะให้ไปช่วยอย่างไรนั้นเวลานี้ยังตอบไม่ได้ ต้องคุยกันก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการคาดหมายกันว่า นายโภคิน พลกุล จะได้รับตำแหน่งนั้น ก็ยังคงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากส.ส.กลุ่มต่างๆในพรรคไทยรักไทย
นายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นนักกฎหมาย แต่ควรที่จะเป็นคนที่แม่นข้อบังคับ รู้จักอะลุ่มอล่วย และรู้จักหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ดังนั้นคนที่เหมาะสมที่สุดขณะนี้ก็คือ นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ เพราะเคยทำหน้าที่มาก่อน และเป็นคนที่แม่นข้อบังคับ อีกทั้งการทำหน้าที่ประธานสภาฯไม่จำเป็นต้องเอากฎหมายมาใช้
“ผมเป็นห่วงท่านโภคิน(พลกุล) เพราะท่านไม่รู้จักหน้า ส.ส.จะลำบากตอนขานชื่อ เรียกชื่อ และยกมือ จะมาบอกว่า เข้าไปก็จำชื่อได้เองผมว่าใช้เวลานานกว่าจะจำชื่อ ส.ส.ได้ และฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ เล่นรุนแรง กลัวว่านักกฎหมายจะเก็บอารมณ์นิ่งเกินไป ต้องรู้ทันเกมฝ่ายค้านด้วย และต้องรู้ว่ารัฐบาลจะยกมือเวลาไหน ผมเป็นห่วง ท่านโภคินเก่งกฎหมายจริง แต่น่าจะไปเป็นรัฐมนตรีมากกว่า แม้ว่าผมจะเป็นเด็กของนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องนี้ผมก็ต้องพูดได้บ้าง”นายประทีป กล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในความเห็นของตนจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่มีความคิดจะย้ายรัฐสภาไปอยู่ที่อื่น จะเป็นส.ส.ระบบเขต หรือระบบบัญชีรายชื่อก็ไม่ขัดข้อง ขอเพียงมีภาพลักษณ์ดี เก่งเรื่องกฎหมาย ทันเกม และตรงไปตรงมา ซึ่งล่าสุดเห็นว่าเป็นชื่อของ นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย ก็ถือว่าเหมาะสมมาก ส่วนที่มีเสียงส.ส.หลายคนบอกว่านายโภคินไม่รู้จัก ส.ส.นั้น ตนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะการเป็นประธานรัฐสภา ตัวประธานไม่จำเป็นต้องมาทักสมาชิกก็ได้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องมาดูแลกลุ่ม และส.ส.เองก็มีเงินเดือนอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้ทำหน้าที่ให้ดี เมื่อเป็นประธานสภา ก็รู้จักเราเอง
นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ที่บางคนอ้างว่านายโภคิน ไม่รู้จักส.ส.นั้นไม่เป็นความจริง นายโภคิน รู้จักทุกคน ที่ผ่านมายังเคยเรียกตนและ ส.ส.นนทบุรีทั้ง 6 คนไปรับประทานอาหารด้วยกัน ก็เห็นว่านายโภคินเป็นคนง่ายๆไม่ถือตัว และห่วงใย ส.ส.เขตมาก ยังบอกกับพวกตนว่า ถ้ามีปัญหาในพื้นที่ขอให้บอกมา คนที่จะมาเป็นประธานสภาฯ ควรจะเป็นคนที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นทั้งสองฝ่าย และเห็นว่าผู้ที่เหมาะสมควรจะมาจากระบบบัญชีรายชื่อ เพราะ ส.ส.เขตนั้นเปรียบเทียบแล้ววุฒิภาวะยังน้อยไป
สำหรับนายโภคินถือว่าเหมาะสมที่จะเป็นประธานฯ เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์ทางการเมืองสูงและเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม ถือว่าวุฒิภาวะยังน้อย น่าจะให้ดูแลกระทรวงเดิมต่อไป
นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ถ้านายโภคิน มาเป็นประธานรัฐสภาก็ดี ตนเห็นด้วย เพราะเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นนักกฎหมาย ทำงานบริหารมามากมาทำงานด้านนิติบัญญัติก็ดี ส่วนที่เกรงว่าจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ เพราะไม่รู้จักใครนั้น ตนเห็นว่า เมื่อมีตำแหน่งและทำงานไปก็เข้ากับคนอื่น ๆ ได้เอง
**“เสริมศักดิ์”รับถูกทาบนั่งเก้าอี้รมช.มท.
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยอีกครั้งภายหลังการประชุมเรื่อง “การปรับปรุงระบบบริหารราชการ”ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานโดยยอมรับว่า ถ้าหากมีความเป็นไปได้ หรือได้รับมอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่านี้ ตนก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขอเรียนว่ายังไม่ได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทยอย่างเป็นทางการ จึงขอทำงานให้เต็มความสามารถตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อน
ต่อข้อถามว่า ข่าวว่ามีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการแล้ว นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เชิง ส่วนถ้าเข้าไปแล้ว จะรับผิดชอบดูแลงานอะไรในกระทรวงมหาดไทย คงต้องมานั่งคุยกันระดับรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วย ส่วนบุคคลที่จะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแทนนั้น นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีกรมหลายกรม แต่กรมหลัก ๆ ที่ทำงานคู่กับกระทรวงก็คือกรมการปกครอง แต่ใครจะมาแทนก็ต้องพิจารณากันหลายฝ่าย
เมื่อเวลา 18.30 น.วานนี้ (21ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกแกนนำฝ่ายการเมืองพรรคไทยรักไทย เข้าหารือที่บ้านพิษณุโลก อาทิ นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี นายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เลขาธิการพรรคไทยรักไทย และรมว.คมนาคม นายปรีชา เลาหะพงศ์ชนะ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง
ทั้งนี้ ก่อนออกจากทำเนียบรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวถึงการเรียกแกนนำเข้าหารือดังกล่าวว่า ไม่มีอะไร เป็นการมอบหมายงานเฉพาะบุคคลให้ทำ แต่ยังไม่รู้ว่าเรื่องอะไรบ้าง แต่มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ผู้สื่อข่าวถามว่า เรียกรัฐมนตรีกระทรวงไหนหารือบ้าง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า เป็นพวกผู้แทนทั้งนั้น เมื่อถามว่าการแก้ไขปัญหาภาคใต้ จะมีความยากลำบากหรือไม่ เพราะพรรคไทยรักไทยไม่ได้ผู้แทนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็นี่ไง เป็นเพราะไม่มีส.ส.แต่ ส.ส.พื้นที่อื่นก็สามารถไปช่วยทำงานได้ แต่จะให้ไปช่วยอย่างไรนั้นเวลานี้ยังตอบไม่ได้ ต้องคุยกันก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีการคาดหมายกันว่า นายโภคิน พลกุล จะได้รับตำแหน่งนั้น ก็ยังคงมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากส.ส.กลุ่มต่างๆในพรรคไทยรักไทย
นายประทีป กรีฑาเวช ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภา ว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นนักกฎหมาย แต่ควรที่จะเป็นคนที่แม่นข้อบังคับ รู้จักอะลุ่มอล่วย และรู้จักหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ดังนั้นคนที่เหมาะสมที่สุดขณะนี้ก็คือ นายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ เพราะเคยทำหน้าที่มาก่อน และเป็นคนที่แม่นข้อบังคับ อีกทั้งการทำหน้าที่ประธานสภาฯไม่จำเป็นต้องเอากฎหมายมาใช้
“ผมเป็นห่วงท่านโภคิน(พลกุล) เพราะท่านไม่รู้จักหน้า ส.ส.จะลำบากตอนขานชื่อ เรียกชื่อ และยกมือ จะมาบอกว่า เข้าไปก็จำชื่อได้เองผมว่าใช้เวลานานกว่าจะจำชื่อ ส.ส.ได้ และฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาธิปัตย์ เล่นรุนแรง กลัวว่านักกฎหมายจะเก็บอารมณ์นิ่งเกินไป ต้องรู้ทันเกมฝ่ายค้านด้วย และต้องรู้ว่ารัฐบาลจะยกมือเวลาไหน ผมเป็นห่วง ท่านโภคินเก่งกฎหมายจริง แต่น่าจะไปเป็นรัฐมนตรีมากกว่า แม้ว่าผมจะเป็นเด็กของนายกรัฐมนตรี แต่เรื่องนี้ผมก็ต้องพูดได้บ้าง”นายประทีป กล่าว
ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ในความเห็นของตนจะเป็นใครก็ได้ที่ไม่มีความคิดจะย้ายรัฐสภาไปอยู่ที่อื่น จะเป็นส.ส.ระบบเขต หรือระบบบัญชีรายชื่อก็ไม่ขัดข้อง ขอเพียงมีภาพลักษณ์ดี เก่งเรื่องกฎหมาย ทันเกม และตรงไปตรงมา ซึ่งล่าสุดเห็นว่าเป็นชื่อของ นายโภคิน พลกุล รมว.มหาดไทย ก็ถือว่าเหมาะสมมาก ส่วนที่มีเสียงส.ส.หลายคนบอกว่านายโภคินไม่รู้จัก ส.ส.นั้น ตนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะการเป็นประธานรัฐสภา ตัวประธานไม่จำเป็นต้องมาทักสมาชิกก็ได้ รวมถึงไม่จำเป็นต้องมาดูแลกลุ่ม และส.ส.เองก็มีเงินเดือนอยู่แล้ว เพียงแต่ขอให้ทำหน้าที่ให้ดี เมื่อเป็นประธานสภา ก็รู้จักเราเอง
นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ที่บางคนอ้างว่านายโภคิน ไม่รู้จักส.ส.นั้นไม่เป็นความจริง นายโภคิน รู้จักทุกคน ที่ผ่านมายังเคยเรียกตนและ ส.ส.นนทบุรีทั้ง 6 คนไปรับประทานอาหารด้วยกัน ก็เห็นว่านายโภคินเป็นคนง่ายๆไม่ถือตัว และห่วงใย ส.ส.เขตมาก ยังบอกกับพวกตนว่า ถ้ามีปัญหาในพื้นที่ขอให้บอกมา คนที่จะมาเป็นประธานสภาฯ ควรจะเป็นคนที่เปิดกว้าง รับฟังความคิดเห็นทั้งสองฝ่าย และเห็นว่าผู้ที่เหมาะสมควรจะมาจากระบบบัญชีรายชื่อ เพราะ ส.ส.เขตนั้นเปรียบเทียบแล้ววุฒิภาวะยังน้อยไป
สำหรับนายโภคินถือว่าเหมาะสมที่จะเป็นประธานฯ เพราะเป็นผู้ที่มีความรู้ ประสบการณ์ทางการเมืองสูงและเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะ ขณะที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ยุติธรรม ถือว่าวุฒิภาวะยังน้อย น่าจะให้ดูแลกระทรวงเดิมต่อไป
นายโสภณ เพชรสว่าง ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ถ้านายโภคิน มาเป็นประธานรัฐสภาก็ดี ตนเห็นด้วย เพราะเป็นคนที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นนักกฎหมาย ทำงานบริหารมามากมาทำงานด้านนิติบัญญัติก็ดี ส่วนที่เกรงว่าจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้ เพราะไม่รู้จักใครนั้น ตนเห็นว่า เมื่อมีตำแหน่งและทำงานไปก็เข้ากับคนอื่น ๆ ได้เอง
**“เสริมศักดิ์”รับถูกทาบนั่งเก้าอี้รมช.มท.
นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยอีกครั้งภายหลังการประชุมเรื่อง “การปรับปรุงระบบบริหารราชการ”ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานโดยยอมรับว่า ถ้าหากมีความเป็นไปได้ หรือได้รับมอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่านี้ ตนก็ขอน้อมรับด้วยความเต็มใจ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขอเรียนว่ายังไม่ได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งรมช.มหาดไทยอย่างเป็นทางการ จึงขอทำงานให้เต็มความสามารถตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อน
ต่อข้อถามว่า ข่าวว่ามีการพูดคุยกันอย่างไม่เป็นทางการแล้ว นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า ก็ไม่เชิง ส่วนถ้าเข้าไปแล้ว จะรับผิดชอบดูแลงานอะไรในกระทรวงมหาดไทย คงต้องมานั่งคุยกันระดับรัฐมนตรี และรัฐมนตรีช่วย ส่วนบุคคลที่จะมารับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยแทนนั้น นายเสริมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีกรมหลายกรม แต่กรมหลัก ๆ ที่ทำงานคู่กับกระทรวงก็คือกรมการปกครอง แต่ใครจะมาแทนก็ต้องพิจารณากันหลายฝ่าย