3 จังหวัดชายแดนใต้ป่วนรายวัน คนร้ายเหิมเผาจุดตรวจ ชรบ.จูโว-ยิงผู้ใหญ่บ้านปาเร๊ะลูโบ๊ะดับ หน่วยข่าวในพื้นที่เผยพบแผน"11 กุมภาฯ"นับถอยหลัง 45 วัน ของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพื่อก่อเหตุใหญ่หลายจุดทั้งใน กทม.และภาคใต้ พร้อมสั่งเก็บหัวคะแนนทรท.เพื่อตอบโต้รัฐบาลที่จับกุมสมุน"สะแปอิง บาซอ"นายกฯเรียก กอ.สสส.-หน่วยความมั่นคง หารือปรับยุทธวิธีใหม่วันนี้ก่อนลงใต้ลงใต้
ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 00.30น. วานนี้ (13 ก.พ.) คนร้ายได้ลอบขว้างระเบิดเพลิงใส่จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จูโว หมู่ 3 ต.กาเย๊าะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาสจนได้รับความเสียหาย
หลังจากได้รับแจ้ง ร.ต.ต.ภาณุมาศ แสงบัวขาว ร้อยเวร สภ.อ.บาเจาะ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อส.กว่า 50 นายไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเปลวไฟกำลังลุกโชนที่บริเวณหลังคา ซึ่งทำด้วยจากโดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันดับไฟกันอย่างชุลมุน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไฟจึงมอด ตรวจสอบความเสียหายและที่เกิดเหตุพบเศษขวดเบียร์ที่คนร้ายใช้ประกอบเป็นระเบิดเพลิงตกแตกกระจายเกลื่อนอยู่หน้าจุดตรวจ และบริเวณริมถนน โดยก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ไม่ทราบสี และแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ ขี่ออกมาจากถนนในหมู่บ้านเมื่อถึงจุดตรวจของ ชรบ.คนนั่งซ้อนท้ายได้ใช้ระเบิดเพลิงขว้างใส่แล้วรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยมีประชาชนในหมู่บ้านขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปมา จึงช่วยกันจอดรถ และดับเพลิงไว้ก่อนที่จุดตรวจของ ชรบ.จะได้รับความเสียหายทั้งหมด
เช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.ไพบูลย์ ระตะวัน ร้อยเวร สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งคนถูกยิงที่บนถนนสายจารุเสถียร หมู่ 7 บ้านชอมอง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จึงระดมกำลังตำรวจ และทหารไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 คนนอนร้องครวญครางอยู่ริมถนน คือ นายมะนาเซ สะมะแอ อายุ 38 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านปาเร๊ะลูโบ๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 83 บ้านปาเร๊ะลูโบ๊ะ หมู่ 9 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง และนางรอกีเย๊าะ สะมะแอ อายุ 41 ปีเป็นภรรยา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง แต่นายมะนาเซ อาการสาหัสมากเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางรอกีเย๊าะ ให้ปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อไปกรีดยางพารา ซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 1 กิโลเมตรเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีชายฉกรรจ์ 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ ไม่ทราบสีและแผ่นป้ายทะเบียนประกบปาดหน้า โดยคนนั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นจากเอวออกมากระหน่ำยิง 4 นัดซ้อน เมื่อสามีเสียหลักรถล้มลงกับพื้น คนร้ายจึงเร่งความเร็วรถหลบหนีไปมุ่งหน้าไปทาง อ.สุไหงปาดี
เวลาเดียวกันนายสวัสดิ์ บุญสนอง อายุ 56 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลาว่า มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนเข้าไปภายในสวนยางพาราตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.ท่าธง อ.รามัน และได้ทำลายต้นยางพาราได้รับความเสียหายในเนื้อที่ 8 ไร่กว่า 138 ต้นโดยคนร้ายใช้มีดและเลื่อยตัดจนขาดท่อนไม่สามารถที่จะกรีดยางได้อีกต่อไป
ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้เป็นการตอบโต้รัฐบาลที่ก่อนหน้าที่รัฐบาลมีคำสั่งจับคนในกลุ่มของนายสะแปอิง บาซอ แกนนำคนสำคัญในการก่อความไม่สงบ ผู้ต้องหาที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษออกหมายจับและมีค่าหัวหลายล้านบาทและเพื่อเป็นการตอกย้ำความพ่ายแพ้ของพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้ง ส.ส.เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า เวลานี้กลุ่มขบวนการทั้งหมดยังมีศักยภาพอยู่ โดยมีกลุ่มข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วันได้มีการโปรยใบปลิวไปทั่ว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาว่า "มีคำสั่งให้เก็บหัวคะแนนพรรคไทยรักไทยทั้งหมด" จนทำให้หัวคะแนนพรรคไทยรักไทยในขณะนี้เกิดความหวาดระแวงอย่างมาก
"ที่สำคัญกลุ่มขบวนการก่อการร้ายได้มีการออก "แผน 11 ก.พ." นับถอยหลัง 45 วัน เพื่อก่อเหตุใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ก็จะมีการก่อเหตุความวุ่นวายขึ้นโดยจะมีการวางระเบิดพร้อมกันในหลายจุด ซึ่งขณะนี้ได้มีการรายงานข่าวให้ระดับผู้บังคับบัญชาทราบถึงเรื่องนี้แล้ว" แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่ภาคใต้เผย
แหล่งข่าวคนเดียวกัน เปิดเผยอีกว่า การที่พรรคไทยรักไทยพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการสั่งสอนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แกนนำกลุ่มวาดะห์ ที่ไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มวาดะห์ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่กรือแซะ จนมาถึงเหตุการณ์ที่ตากใบ ถึงกับมีการส่งคนไปเคาะประตูของชาวบ้านไม่ให้เลือกพรรคไทยรักไทย ในขณะที่ผู้ชนะการเลือกตั้งก็รู้ล่วงหน้าก่อน 3 วันว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยที่ไม่รู้ว่าชนะมาได้อย่างไร
ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เริ่มขึ้นแรงขึ้นอีกว่า วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 10.30 น.จะเรียกประชุมกองอำนวยการสร้างเสริมสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อปรับกระบวนทัศน์และยุทธศาสตร์ใหม่ และจะหารือในรายละเอียดกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อนำไปใช้ในช่วงลงไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 16-17 ก.พ.นี้
ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ถูกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อเวลา 00.30น. วานนี้ (13 ก.พ.) คนร้ายได้ลอบขว้างระเบิดเพลิงใส่จุดตรวจชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จูโว หมู่ 3 ต.กาเย๊าะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาสจนได้รับความเสียหาย
หลังจากได้รับแจ้ง ร.ต.ต.ภาณุมาศ แสงบัวขาว ร้อยเวร สภ.อ.บาเจาะ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อส.กว่า 50 นายไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเปลวไฟกำลังลุกโชนที่บริเวณหลังคา ซึ่งทำด้วยจากโดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันดับไฟกันอย่างชุลมุน โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ไฟจึงมอด ตรวจสอบความเสียหายและที่เกิดเหตุพบเศษขวดเบียร์ที่คนร้ายใช้ประกอบเป็นระเบิดเพลิงตกแตกกระจายเกลื่อนอยู่หน้าจุดตรวจ และบริเวณริมถนน โดยก่อนเกิดเหตุได้มีคนร้ายเป็นวัยรุ่น 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า ไม่ทราบสี และแผ่นป้ายทะเบียนเป็นพาหนะ ขี่ออกมาจากถนนในหมู่บ้านเมื่อถึงจุดตรวจของ ชรบ.คนนั่งซ้อนท้ายได้ใช้ระเบิดเพลิงขว้างใส่แล้วรีบขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยมีประชาชนในหมู่บ้านขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปมา จึงช่วยกันจอดรถ และดับเพลิงไว้ก่อนที่จุดตรวจของ ชรบ.จะได้รับความเสียหายทั้งหมด
เช้าวันเดียวกัน ร.ต.ท.ไพบูลย์ ระตะวัน ร้อยเวร สภ.อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งคนถูกยิงที่บนถนนสายจารุเสถียร หมู่ 7 บ้านชอมอง ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จึงระดมกำลังตำรวจ และทหารไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บ 2 คนนอนร้องครวญครางอยู่ริมถนน คือ นายมะนาเซ สะมะแอ อายุ 38 ปี เป็นผู้ใหญ่บ้านปาเร๊ะลูโบ๊ะ อยู่บ้านเลขที่ 83 บ้านปาเร๊ะลูโบ๊ะ หมู่ 9 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง และนางรอกีเย๊าะ สะมะแอ อายุ 41 ปีเป็นภรรยา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเจาะไอร้อง แต่นายมะนาเซ อาการสาหัสมากเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นางรอกีเย๊าะ ให้ปากคำว่า ก่อนเกิดเหตุตนและสามีขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อไปกรีดยางพารา ซึ่งห่างจากบ้านพักประมาณ 1 กิโลเมตรเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีชายฉกรรจ์ 2 คนใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ ไม่ทราบสีและแผ่นป้ายทะเบียนประกบปาดหน้า โดยคนนั่งซ้อนท้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นจากเอวออกมากระหน่ำยิง 4 นัดซ้อน เมื่อสามีเสียหลักรถล้มลงกับพื้น คนร้ายจึงเร่งความเร็วรถหลบหนีไปมุ่งหน้าไปทาง อ.สุไหงปาดี
เวลาเดียวกันนายสวัสดิ์ บุญสนอง อายุ 56 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ต.ท่าธง อ.รามัน จ.ยะลาว่า มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนเข้าไปภายในสวนยางพาราตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ต.ท่าธง อ.รามัน และได้ทำลายต้นยางพาราได้รับความเสียหายในเนื้อที่ 8 ไร่กว่า 138 ต้นโดยคนร้ายใช้มีดและเลื่อยตัดจนขาดท่อนไม่สามารถที่จะกรีดยางได้อีกต่อไป
ด้านแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้เป็นการตอบโต้รัฐบาลที่ก่อนหน้าที่รัฐบาลมีคำสั่งจับคนในกลุ่มของนายสะแปอิง บาซอ แกนนำคนสำคัญในการก่อความไม่สงบ ผู้ต้องหาที่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษออกหมายจับและมีค่าหัวหลายล้านบาทและเพื่อเป็นการตอกย้ำความพ่ายแพ้ของพรรคไทยรักไทยในการเลือกตั้ง ส.ส.เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า เวลานี้กลุ่มขบวนการทั้งหมดยังมีศักยภาพอยู่ โดยมีกลุ่มข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย และก่อนหน้านี้ประมาณ 2-3 วันได้มีการโปรยใบปลิวไปทั่ว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเนื้อหาว่า "มีคำสั่งให้เก็บหัวคะแนนพรรคไทยรักไทยทั้งหมด" จนทำให้หัวคะแนนพรรคไทยรักไทยในขณะนี้เกิดความหวาดระแวงอย่างมาก
"ที่สำคัญกลุ่มขบวนการก่อการร้ายได้มีการออก "แผน 11 ก.พ." นับถอยหลัง 45 วัน เพื่อก่อเหตุใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ขณะที่พื้นที่ภาคใต้ก็จะมีการก่อเหตุความวุ่นวายขึ้นโดยจะมีการวางระเบิดพร้อมกันในหลายจุด ซึ่งขณะนี้ได้มีการรายงานข่าวให้ระดับผู้บังคับบัญชาทราบถึงเรื่องนี้แล้ว" แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวในพื้นที่ภาคใต้เผย
แหล่งข่าวคนเดียวกัน เปิดเผยอีกว่า การที่พรรคไทยรักไทยพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ส.ส.ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องการสั่งสอนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา แกนนำกลุ่มวาดะห์ ที่ไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนต่อการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มวาดะห์ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่กรือแซะ จนมาถึงเหตุการณ์ที่ตากใบ ถึงกับมีการส่งคนไปเคาะประตูของชาวบ้านไม่ให้เลือกพรรคไทยรักไทย ในขณะที่ผู้ชนะการเลือกตั้งก็รู้ล่วงหน้าก่อน 3 วันว่าจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง โดยที่ไม่รู้ว่าชนะมาได้อย่างไร
ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบที่เริ่มขึ้นแรงขึ้นอีกว่า วันนี้ (14 ก.พ.) เวลา 10.30 น.จะเรียกประชุมกองอำนวยการสร้างเสริมสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อปรับกระบวนทัศน์และยุทธศาสตร์ใหม่ และจะหารือในรายละเอียดกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อนำไปใช้ในช่วงลงไปตรวจเยี่ยมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 16-17 ก.พ.นี้