รองผู้การกองทะเบียน ระบุวีซีดีปาร์ตี้ฉาว “โจอี้ บอย” ถือเป็นอุทาหรณ์สำหรับ บุคคลสาธารณะ ที่จะต้องระมัดระวังให้ดี พร้อมเตรียมประสาน สภ.อ.ปากท่อ ตรวจสอบว่ามีการทำผิด กม.หรือไม่ ด้าน ผู้การฯราชบุรี ชี้เป็นสิทธิส่วนบุคคล หากไม่ถูกเผยแพร่ ก็ไม่เกิดเรื่อง ด้านคดี"จอยซ์"ร่วมค้ายา ปปส.อายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบแล้ว
วานนี้(28 พ.ย.) พ.ต.อ.วิสุทธิ์ วานิชุบุตร รอง ผบก.กองทะเบียน เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีวีซีดีปาร์ตี้ฉาว โดยมีนักร้องชื่อดัง "โจอี้ บอย" หรือ นายอภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ปรากฎตัวอยู่ในงานดังกล่าวว่า ได้ดูวีซีดีดังกล่าวไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่จบ และหลังจากตรวจสอบสถานที่จัดงานปาร์ตี้ฉาวแล้ว ปรากฎว่าเป็นการจัดงานในท้องที่ สภ.อ.ปากท่อ จังหวัดราชบุรี จึงเป็นเรื่องของ สภ.อ.ปากท่อ ที่จะเป็นฝ่ายสอบสวนว่างานดังกล่าวมีการกระทำอันผิดกฎหมาย เกิดขึ้นหรือไม่
สำหรับความรับผิดชอบของกองทะเบียนก็คือต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าแผ่นวีซีดีดังกล่าว ถูกเผยแพร่มาจากที่ใด ใครเป็นผู้ก๊อปปี้ออกมาเผยแพร่ ใครเป็นผู้จำหน่าย หากสอบสวนแผ่นวีซีดีนี้แล้วพบว่ามีความผิดลามกอนาจาร กองทะเบียน จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่วีซีดี ในข้อหามีวัตถุประสงค์ด้านการค้า ซึ่งเป็นความผิดตามมาตตรา 287 ประมวลกฏหมายอาญา คือ ผู้ใดประสงค์แห่งการค้า นำมาและเผยแพร่ภาพลามก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการประสานงานกันระหว่างกองทะเบียนและ สภ.อ.ปากท่อ รองผู้บังคับการกองทะเบียน กล่าวว่าคงจะต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง แต่จะมีการประสานไปไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ได้ฝากไปยังบุคคลผู้มีชื่อเสียง โดยขอให้ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนด้วย
“ผมถือว่า ดารา นักร้อง นักกีฬา หรือใครก็ตามที่เป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียง เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเด็กๆ ให้เอาเยี่ยงอย่าง อยากขอร้องว่าให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะมีเยาวชนจำนวน มากมายปลื้มและนิยมชมชอบ หากทำตัวไม่ดีแล้ว จะกลายเป็นแบบอย่าง ที่ไม่ดีต่อเยาวชนไทยที่จะเอาเป็นแบบอย่างได้" รองผู้บังคับการกองทะเบียนกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.สกล ภัยลี้ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า วันนี้(29 พ.ย.)จะมีการ ประชุม ผกก. ทุก สภ.อ.ในพื้นที่ แต่เป็นการประชุมปกติประจำเดือน ส่วนเรื่องของวีซีดีปาร์ตี้ฉาว ซึ่งมี โจอี้ บอย ร่วมอยู่ด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาจากทางกองทะเบียน และในท้องที่จังหวัดราชบุรี ก็ยังไม่มีผู้ใด มาร้องเรียน ดังนั้นขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้พูดเปรียบกรณีที่เกิดขึ้นว่า เหมือนการนอนกับภรรยา เขาปิดบ้านของเขาทำ มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว หากไม่มีการนำวีซีดีออกมาเผยแพร่
ด้านความคืบหน้าคดี น.ส. พรพรรณ รัตนาเมธานนท์ หรือ จอยซ์ อดีตนักร้องวง ไทร์อัพคิงส์ดอมส์ พร้อมพวกถูกจับกุมฐานเสพและค้ายาบ้า นั้น นายสมชาติ สว่างเนตร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) เปิดเผยว่า ปปส.ได้ติดตามตรวจสอบทรัพย์สินของ น.ส. พรพรรณ และนายจิตพัฒน์ สังฆสุวรรณ แฟนหนุ่ม โดยพบว่า น.ส.พรพรรณ มีบัญชีเงินฝากจำนวน 3,000 บาท ส่วนบัญชีเงินฝากของ นายจิตพัฒน์ มีจำนวน 300,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่อายัดเพื่อตรวจสอบสอบแล้ว
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สิน อย่างอื่นที่จะต้องตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจาก การค้ายาเสพติดหรือไม่ รวมทั้งทรัพย์สินของผู้ต้องหา และทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง เช่นเงินฝากในธนาคาร รถจักรยานยนต์ ส่วนบ้านพักที่เจ้าหน้าที่เข้าไปยึดยาบ้า ของกลางได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านของบิดามารดาของ นายจิตพัฒน์ จึงไม่ได้ยึดอายัดไว้
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ ศุภชีวะ รองผู้บังคับการสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าว ว่า ผู้ต้องหาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เหลือประเด็นที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และตรวจสอบตามคำให้การของ ผู้ต้องเท่านั้น ซึ่ง น.ส.พรพรรณ ไม่ใช่ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ คาดว่าเมื่อครบ กำหนดฝากขังผู้ต้องหาในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ก็จะส่งตัวเข้าเรือนจำ ให้อยู่ในความควบคุมของศาล
นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวนส่งตัว น.ส.พรพรรณ มาควบคุมตัวในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์จะจัดนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปสัมภาษณ์ เพื่อทำประวัติบุคคล จำแนกประเภท และจัดโปรแกรม บำบัดผู้ต้องขังเป็นรายบุคคล
ส่วนอาการติดยาบ้านั้นรักษาไม่ยาก เรือนจำจะให้หยุดยาทันทีโดยมีแพทย์ คอยสังเกตอาการ โดยช่วงแรก ผู้ต้องขังใหม่จะต้องปรับตัว เรียนรู้ระเบียบในคุก จากคู่มือติดคุกที่เรือนจำจัดเตรียมให้ และต้องศึกษาเพิ่มเติมจากเพื่อนผู้ต้องขัง ซึ่งอาจจะยากลำบากในช่วงแรกๆ เพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมเรือนจำ
วานนี้(28 พ.ย.) พ.ต.อ.วิสุทธิ์ วานิชุบุตร รอง ผบก.กองทะเบียน เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีวีซีดีปาร์ตี้ฉาว โดยมีนักร้องชื่อดัง "โจอี้ บอย" หรือ นายอภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต ปรากฎตัวอยู่ในงานดังกล่าวว่า ได้ดูวีซีดีดังกล่าวไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่จบ และหลังจากตรวจสอบสถานที่จัดงานปาร์ตี้ฉาวแล้ว ปรากฎว่าเป็นการจัดงานในท้องที่ สภ.อ.ปากท่อ จังหวัดราชบุรี จึงเป็นเรื่องของ สภ.อ.ปากท่อ ที่จะเป็นฝ่ายสอบสวนว่างานดังกล่าวมีการกระทำอันผิดกฎหมาย เกิดขึ้นหรือไม่
สำหรับความรับผิดชอบของกองทะเบียนก็คือต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าแผ่นวีซีดีดังกล่าว ถูกเผยแพร่มาจากที่ใด ใครเป็นผู้ก๊อปปี้ออกมาเผยแพร่ ใครเป็นผู้จำหน่าย หากสอบสวนแผ่นวีซีดีนี้แล้วพบว่ามีความผิดลามกอนาจาร กองทะเบียน จะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เผยแพร่วีซีดี ในข้อหามีวัตถุประสงค์ด้านการค้า ซึ่งเป็นความผิดตามมาตตรา 287 ประมวลกฏหมายอาญา คือ ผู้ใดประสงค์แห่งการค้า นำมาและเผยแพร่ภาพลามก มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.วิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับการประสานงานกันระหว่างกองทะเบียนและ สภ.อ.ปากท่อ รองผู้บังคับการกองทะเบียน กล่าวว่าคงจะต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง แต่จะมีการประสานไปไม่เกินต้นสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วิสุทธิ์ ได้ฝากไปยังบุคคลผู้มีชื่อเสียง โดยขอให้ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีต่อเยาวชนด้วย
“ผมถือว่า ดารา นักร้อง นักกีฬา หรือใครก็ตามที่เป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียง เป็นบุคคลสาธารณะ เป็นเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดเด็กๆ ให้เอาเยี่ยงอย่าง อยากขอร้องว่าให้ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เพราะมีเยาวชนจำนวน มากมายปลื้มและนิยมชมชอบ หากทำตัวไม่ดีแล้ว จะกลายเป็นแบบอย่าง ที่ไม่ดีต่อเยาวชนไทยที่จะเอาเป็นแบบอย่างได้" รองผู้บังคับการกองทะเบียนกล่าว
ทางด้าน พล.ต.ต.สกล ภัยลี้ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า วันนี้(29 พ.ย.)จะมีการ ประชุม ผกก. ทุก สภ.อ.ในพื้นที่ แต่เป็นการประชุมปกติประจำเดือน ส่วนเรื่องของวีซีดีปาร์ตี้ฉาว ซึ่งมี โจอี้ บอย ร่วมอยู่ด้วยนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาจากทางกองทะเบียน และในท้องที่จังหวัดราชบุรี ก็ยังไม่มีผู้ใด มาร้องเรียน ดังนั้นขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ โดย ผบก.ภ.จว.ราชบุรี ได้พูดเปรียบกรณีที่เกิดขึ้นว่า เหมือนการนอนกับภรรยา เขาปิดบ้านของเขาทำ มันก็เป็นเรื่องส่วนตัว หากไม่มีการนำวีซีดีออกมาเผยแพร่
ด้านความคืบหน้าคดี น.ส. พรพรรณ รัตนาเมธานนท์ หรือ จอยซ์ อดีตนักร้องวง ไทร์อัพคิงส์ดอมส์ พร้อมพวกถูกจับกุมฐานเสพและค้ายาบ้า นั้น นายสมชาติ สว่างเนตร รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) เปิดเผยว่า ปปส.ได้ติดตามตรวจสอบทรัพย์สินของ น.ส. พรพรรณ และนายจิตพัฒน์ สังฆสุวรรณ แฟนหนุ่ม โดยพบว่า น.ส.พรพรรณ มีบัญชีเงินฝากจำนวน 3,000 บาท ส่วนบัญชีเงินฝากของ นายจิตพัฒน์ มีจำนวน 300,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่อายัดเพื่อตรวจสอบสอบแล้ว
นอกจากนี้ยังมีทรัพย์สิน อย่างอื่นที่จะต้องตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจาก การค้ายาเสพติดหรือไม่ รวมทั้งทรัพย์สินของผู้ต้องหา และทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้อง เช่นเงินฝากในธนาคาร รถจักรยานยนต์ ส่วนบ้านพักที่เจ้าหน้าที่เข้าไปยึดยาบ้า ของกลางได้ จากการตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านของบิดามารดาของ นายจิตพัฒน์ จึงไม่ได้ยึดอายัดไว้
ด้าน พ.ต.อ.สมบัติ ศุภชีวะ รองผู้บังคับการสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กล่าว ว่า ผู้ต้องหาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เหลือประเด็นที่จะต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย และตรวจสอบตามคำให้การของ ผู้ต้องเท่านั้น ซึ่ง น.ส.พรพรรณ ไม่ใช่ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ คาดว่าเมื่อครบ กำหนดฝากขังผู้ต้องหาในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ก็จะส่งตัวเข้าเรือนจำ ให้อยู่ในความควบคุมของศาล
นายนัทธี จิตสว่าง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า หลังพนักงานสอบสวนส่งตัว น.ส.พรพรรณ มาควบคุมตัวในเรือนจำ กรมราชทัณฑ์จะจัดนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปสัมภาษณ์ เพื่อทำประวัติบุคคล จำแนกประเภท และจัดโปรแกรม บำบัดผู้ต้องขังเป็นรายบุคคล
ส่วนอาการติดยาบ้านั้นรักษาไม่ยาก เรือนจำจะให้หยุดยาทันทีโดยมีแพทย์ คอยสังเกตอาการ โดยช่วงแรก ผู้ต้องขังใหม่จะต้องปรับตัว เรียนรู้ระเบียบในคุก จากคู่มือติดคุกที่เรือนจำจัดเตรียมให้ และต้องศึกษาเพิ่มเติมจากเพื่อนผู้ต้องขัง ซึ่งอาจจะยากลำบากในช่วงแรกๆ เพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมเรือนจำ