xs
xsm
sm
md
lg

"มหาชน"ชูเบี้ยยังชีพคนชรา "ชูวิทย์"คุยยึด3เก้าอี้ในกทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“มหาชน”ชูนโยบายสวัสดิการสังคม เอื้ออาทรคนชรา จัดเบี้ยยังชีพให้คนละ 1,200 ต่อเดือน คืนคนแก่สู่ครอบครัว มั่นใจ ถ้าได้จัดรัฐบาล บ้านบางแคไม่มี เดินหน้าถล่มไทยรักไทย ผูกขาดการเมืองเบ็ดเสร็จ ย้ำ จุดยืนเลือกตั้ง ต้องโค่น “ทักษิณ”ก่อนประเทศไทยโดนยึด 4 สมัยรวด “ชูวิทย์”คุยจะเปลี่ยนภาพลักษณ์พรรคชาติไทยจากสิงห์ภูธรเป็นสิงห์เมืองกรุง มั่นใจได้ส.ส.3 เขต เต็งหนึ่งเขตดอนเมือง

เมื่อวานนี้(22พ.ย.) นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าวระหว่างการเยี่ยมผู้สูงอายุที่บ้านพักคนชรา บ้านบางแค ว่า พรรคมหาชน ได้ให้ความสำคัญกับปัญหาคนชรามาก เพราะวันนี้โครงสร้างประชากรของไทยนับวันจะมีคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีมากขึ้นทุกปี ซึ่งเกิดจากการทอดทิ้ง คนชราที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องมาจากความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและหนี้สิน ทั้งๆที่วัฒนธรรมของไทยมีความกตัญญูรู้คุณสูง แต่ภาวะเศรษฐกิจที่บีบรัดจึงต้องทำ

“ถ้าพรรคมหาชนได้เป็นรัฐบาล จะจัดเบี้ยยังชีพให้คนชราที่อายุ 60 ปีขึ้นไป และมีรายได้อยู่ใต้เส้นความยากจน คนละ 1,200 บาท คิดว่าการทอดทิ้งคนชราจะหมดไปเลย และคนชราจะกลายเป็นสมบัติไม่ใช่ภาระของครอบครัว ต่อไป พรรคมหาชนจะทำให้บ้านพักคนชราเหมือนบางแคให้มีน้อยลงมากจนไม่เหลือเลยในที่สุด เมื่อถึงตรงนั้นสังคมไทยจะเป็นสังคมที่อบอุ่นมาก เป็นสังคมในอุดมคติที่คนชราไม่ถูกทอดทิ้ง นี่ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ของสวัสดิการทางสังคม” หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าว

ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวคาดว่าคาดว่าจะใช้งบประมาณปีละ 4 พันล้านบาท แต่ถ้ารัฐบาลในอนาคตไม่เร่งทำสิ่งเหล่านี้ ก็ต้องสร้างบ้านบางแคมากขึ้นๆไปเรื่อยๆ ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และยิ่งจะทำให้แยกคนชราออกจากครอบครัว ทำให้สถาบันครอบครัวอ่อนแอลง สังคมไม่น่าอยู่ ดังนั้นนี่คือนวัตกรรมทางสวัสดิการของพรรคมหาชน

นายเอนก ยังกล่าวถึงถึงความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่า พรรคมหาชนได้ให้ความสำคัญและตั้งความหวังไว้ที่กรุงเทพมหานครมากขึ้น เพราะเป็นศูนย์กลางของประเทศ จึงต้องปักธงในกรุงเทพให้ได้

"อยากบอกว่าเราไม่ต้องการให้พรรคมหาชนมีกระแสขึ้นสุดยอดในตอนนี้ แต่เราอยากให้กระแสขึ้นสุดยอดตอนก่อนหย่อนบัตร 1-2 วัน ซึ่งกรุงเทพฯ มีลักษณะอย่างนี้มาตลอด คือ กระแสหมั่นไส้ กระแสเกลียดชัง จะขึ้นเร็ว เวลานี้ขึ้นมาแล้วแต่เกลียดชัง หรือหมั่นใส้ใครตนไม่อยากพูด แต่กระแสรัก หรือสนับสนุนนั้นจะขึ้นช้าๆ กทม.เป็นเมืองที่เกลียดง่าย แต่รักช้า ซึ่งตนได้บอกกับลูกพรรคทุกคนว่า ต้องทำงานให้เป็นกระแสมากกว่าที่จะหาเสียงเป็นเขตๆก็รู้สึกว่าได้ผล"

ส่วนพรรคการเมืองอื่นที่ได้ทาบทาม ดารา นักแสดงมาลงสมัคร ส.ส.ก็ไม่ทำให้พรรคมหาชนหวั่นไหว ส่วนในกทม.จะได้กี่ที่นั่ง ยังบอกไม่ได้ ถือเป็นความลับทางการค้า เพราะถ้าบอกไปเดี๋ยวพรรคอื่นหมั่นไส้แล้วมาทำลายเรา เอาเป็นว่า วันนี้เรานับไปได้เรื่อยๆ

“การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญ เพราะมีอนาคตของประเทศชาติเป็นเดิมพัน ผมคิดว่าถ้าพรรคไทยรักไทยได้เป็นรัฐบาลได้อีกหนึ่งสมัยในครั้งนี้ ก็จะเป็นได้อีก 4 สมัยรวดแน่ๆ เหมือนกับ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ตอนเป็นนายกรัฐมนตรีมาเลเซียรอบสอง ก็มีการขับเคี่ยวกันในมาเลเซีย ที่จะไม่ให้มหาเธร์ เป็นนายกฯรอบสอง เพราะกลัวว่าเขาเหลิงอำนาจ และในที่สุด ดร.มหาเธร์ ก็เป็นได้อีก 4 รอบจริงๆ แล้วก็ไปคุกคามสถาบันอื่นๆ เช่น ระบบศาลยุติธรรม ไปจัดการจนระบบศาลยุติธรรมเสียหลักความเป็นนิติรัฐไป และยังไปขัดแย้งกับสถาบันราชาธิบดีอีก ขัดแย้งกับสื่อ และปัญญาชน ซึ่งทำให้ประเทศมาเลเซียจากการเป็นประเทศแม่แบบของประชาธิปไตยแห่งหนึ่งของเอเชียกลายเป็นประเทศที่มีการ เมืองล้าหลัง”หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าว

**"ชูวิทย์"คุยเปลี่ยนปลาไหลเป็นสิงห์เมืองกรุง

ในวันเดียวกันนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคต้นตระกูลไทย ได้นำหลักฐานการประชุมพรรค ที่มีมติยุบรวมกับพรรคชาติไทยมายื่นให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ตรวจสอบ โดยมอบให้นายไพบูลย์ ร่วมสุข ผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ขณะเดียวกัน นาย ณ ตะวัน พรหมมณฑา ผู้ยื่นร้องคัดค้านการยุบรวมพรรคก่อนหน้านี้ มอบอำนาจให้ตัวแทนมายื่นเรื่องถอนการร้องคัดค้าน

นายชูวิทย์ กล่าวว่าได้นำหลักฐานมายื่นกกต.เพราะเห็นว่า การร้องคัดค้านไม่ชอบธรรม เนื่องจากทุกคนรู้ดีว่าทำพรรคต่อไปไม่ได้ ยืนยันว่าการประชุมกก.บริหารพรรคที่มีมติยุบรวมเป็นไปตามข้อบังคับ แม้จะมีบ๋อยหรือพนักงานโรงแรมเข้าร่วมประชุม เพราะเป็นสมาชิกพรรค และอยู่ลำดับต้นๆ รวมทั้งครบองค์ประชุม 50 คน

ส่วนการที่กลุ่มผู้ร้องคัดค้านยุบรวมพรรค มาถอนเรื่องนั้น ไม่ใช่เพราะตนจ่ายเงิน แต่ได้ใช้วิธีการอธิบายให้เข้าใจถึงอนาคตว่าหากสมาชิกย้ายมาพรรคชาติไทย จะไม่มีปัญหาซ้ำซ้อนเรื่องพื้นที่ เพราะเรื่องเช่นนี้ไม่ต้องทำโพลก็รู้ เพียงแค่เดินไปร้านกาแฟ 3 ร้าน หากไม่มีคนรู้จัก ก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว

นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า สัปดาห์หน้าจะเปิดแผนการหาเสียงของพรรคชาติไทยในเขต กทม.ซึ่งทุก 1 กิโลเมตร จะต้องเห็นป้ายรณรงค์เลือกตั้งของพรรคชาติไทย และขอให้พรรคอื่นอย่าออกมาตำหนิ ทั้งนี้ หากได้รับเลือกตั้งเข้ามา 3 เขต ก็พอใจแล้ว จากที่จะส่งครบทุกเขต ซึ่งเขตที่คาดว่าจะได้รับเลือกตั้ง คือ ดอนเมือง ส่วนอีก 2 เขต บอกไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ และไทยรักไทย ยังเปิดรายชื่อไม่ครบ

“ผมมีแผนจะเปลี่ยนภาพลักษณ์ของพรรคชาติไทยจากสิงห์ภูธร มาเป็นสิงห์เมืองกรุง จะคัดคนรุ่นใหม่ให้คน กทม.รู้สึกว่าคบพรรคชาติไทยไว้เป็นเพื่อน เพื่อพูดคุยความจริงสักคน”นายชูวิทย์ กล่าว

ส่วนเรื่องสถานภาพการเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยนั้น นายชูวิทย์ กล่าวว่า กกต.น่าจะยึดตามมติเดิมของพรรคชาติพัฒนาที่ยุบรวมกับไทยรักไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับ กกต.จะส่งศาลวินิจฉัยหรือไม่ โดยเฉพาะมติที่เป็นเอกฉันท์ จากเดิมมติในการพิจารณาเรื่องต่างๆ ของ กกต.ไม่เป็นเอกฉันท์
กำลังโหลดความคิดเห็น