xs
xsm
sm
md
lg

สตม.เปิดเกมรุกปราบแก๊งค้ามนุษย์หลังพบเหยื่อเสียชีวิตกว่าล้านคน/ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต-สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เร่งหามาตรการป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบเข้าเมืองและค้ามนุษย์ หลังพบมีผู้เสียชีวิตจากการกระทำของกลุ่มขบวนการดังกล่าวกว่า 1 ล้านคนต่อปี เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยยังขาดกฎหมายรองรับอย่างชัดเจน และถูกขบวนการดังกล่าวใช้เป็นเส้นทางไปสู่ประเทศที่สาม พร้อมผลักดันให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคมีส่วนร่วมเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาที่เป็นระบบและยั่งยืน

เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ได้จัดสัมมนาเรื่อง “การลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์”ที่โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ โดยมี พล.ต.ต.พรภัทร์ สุยะนันทน์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นประธาน โดย พล.ต.ต.พรภัทร์ กล่าวว่า ปัญหาการลักลอบเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายของคนต่างด้าวกำลังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศและเป็นมูลฐานเบื้องต้นที่จะนำไปสู่การกระทำความผิดฐานอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ และการค้ามนุษย์ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาแก่ประชาคมโลกและนับวันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

จากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้การค้ามนุษย์เป็นเรื่องสำคัญและเป็นวาระแห่งชาติแล้วนั้น เป็นที่มาให้ทุกภาคส่วนต้องหามาตรการปราบปรามอย่างเร่งด่วน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องและสัมพันธ์กับเรื่องนี้มากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง จึงได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน หรือ IOM จัดการอบรมสัมมนาเรื่อง “การลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์” แก่ข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองทั่วประเทศ ครั้งนี้ขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจ แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในการต่อต้านปราบปรามการกระทำความผิดฐานดังกล่าว ตลอดจนการให้การดูแลช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำนั้นอย่างมีประสิทธิภาพ

พล.ต.ต.พรภัทร์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยไม่มีกฎหมายที่สามารถระบุโทษเกี่ยวกับผู้ที่ กระทำผิดฐานลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง โดยต้องนำกฎหมายระบุโทษอื่นๆ มาปรับใช้ ซึ่งตนมองว่าไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างเต็มที่และการสร้างจิตสำนึก ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตระหนักว่า เรื่องการค้ามนุษย์นี้เป็นเรื่องสำคัญจึงเป็นเรื่องเริ่มต้นที่ต้องดำเนินการและไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่กำลังประสบอยู่ แต่กลายเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว ซึ่งหากว่าประเทศใด ไม่มีการปราบปรามเรื่องต่างๆ เหล่านี้อย่างจริงจัง เหล่าประเทศพันธมิตรทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับประเทศเหล่านั้นด้วย อันจะส่งผลกระทบต่อระบบอื่นๆ อีกหลายด้านตามมา

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาเรื่องการลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์อยู่ในขั้นที่ถือได้ว่าเข้าสู่ภาวะวิกฤต เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศต้นทางของขบวนการค้ามนุษย์ที่เดินทางผ่านไปยังประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น บาห์เรน เป็นต้น โดยเฉพาะการนำแรงงานต่างด้าวออกนอกประเทศ การบริการในสถานประ กอบการต่างๆ รวมทั้งการให้บริการทางเพศด้วย ซึ่งผู้ที่ถูกชักนำไปนั้นส่วนใหญ่จะถูกหลอกลวง ถูกทำร้ายร่างกาย

นอกจากนั้นประเทศไทยยังเป็นประเทศปลายทางของกลุ่มบุคคลต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นจากประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเช่น พม่า ลาว กัมพูชา มาเลเซีย และจากประเทศในแถบเอเชียใต้ ที่เดินทางเข้ามาเพื่อหางานทำ แต่กลับถูกหลอก ถูกทำร้ายร่างกายด้วยบางส่วน ไม่เพียงเท่านั้นบางประเทศอย่างประเทศจีน เกาหลี อาศัยประเทศไทยเป็นฐานในการเดินทางต่อไปยังประเทศที่สามด้วย

“เป็นปัญหาที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่และเป็นจำนวนมาก นอกจากขบวนการต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นมาแล้ว ปัญหาผลกระทบที่ตามมาอีกไม่น้อย และเป็นความผิดต่อเนื่อง คือ ปัญหาอาชญากรรม การปลอมแปลงเอกสาร กลุ่มมาเฟียข้ามชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทย กำลังประสบอยู่ ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนต้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไข” พล.ต.ต.พรภัทร์ กล่าว และว่า สำหรับประเทศในแถบเอเชียใต้ เช่น อินเดีย บังกลาเทศ ปากีสถาน และจีน เป็นประเทศที่กำลังพยายามที่จะเข้ามาก่อปัญหา เรื่องการลักลอบเข้าเมืองและการค้ามนุษย์ยังประเทศไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งประเทศไทยต้องเร่งหามาตรการปราบปราม

พล.ต.ต.พรภัทร์ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสามารถดำเนินการปราบปราม สืบสวน จับกุม พร้อมทั้งผลักดันกลับประเทศของผู้ที่กระทำผิดฐานลักลอบเข้าเมือง และค้ามนุษย์ ได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีการสืบสวนหาที่มาของขบวนการกลุ่มที่นำเด็กจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาประกอบมิจฉาชีพ โดยการใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการยังชีพ ไม่ว่าจะเป็นขอทาน ขายพวงมาลัย การใช้แรงงานเด็กในสถานประกอบการต่างๆ ซึ่งส่วนนี้เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน และเป็นปัญหาที่เด่นชัดในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีมาตรการในการปราบปรามและแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวนี้โดยเริ่มแรกนั้นได้วางเป้าหมายไว้ที่การให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหาก่อน เนื่องจากที่ผ่านมาเรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนมองว่า เป็นเรื่องเล็ก แต่ปัจจุบันเรื่องนี้ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เพราะไม่เพียงการหลอกไปทำร้ายร่างกาย หรือทำงานตามสถานประกอบการเท่านั้น แต่บางส่วนก็เสียชีวิตด้วยประมาณ 1 ล้านคนต่อปี ที่ประสบกับปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ดังนั้น การที่จะแก้ปัญหาผู้ที่เกี่ยวข้องต้องมีความรู้ที่ถูกต้องก่อน ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่เป็นระบบและยั่งยืนต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น