ผู้จัดการรายวัน - เดอะมอลล์ โคราชเผยผู้บริโภคเมืองย่าโมกำลังซื้อหด ปัจจัยลบอื้อ ไข้หวัดนก ราคามันสำปะหลังตก ลดการจับจ่ายของฟุ่มเฟือย ทำยอดครึ่งปีแรกโตเพียง 9% คาดกำลังซื้อฟื้นตัวช่วงปลายปี ล่าสุด น้ำมันพ่นพิษ ลูกค้าลดการเดินทางมาห้าง ผู้บริโภคหวั่นราคาสินค้าขึ้น แห่ซื้อของใช้ของกินจำเป็นเพิ่มเท่าตัว เร่งงัดทุกกลยุทธ์ดูดคนเข้าศูนย์ ล่าสุด ส่งแคมเปญฉลองครบ 4 ปีกระตุ้นยอดรวมสิ้นปีโต 12%
นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายครึ่งปีแรกของเดอะมอลล์ โคราชมีอัตราการเติบโต 9% โดยส่วนใหญ่เป็นอัตราการเติบโตจากสินค้ากลุ่มอาหาร ของใช้จำเป็น ในขณะที่สินค้าฟุ่มเฟือยกลับมีอัตราการเติบลดลงเหลือ 4.5% จากอัตราการเติบโตปกติ 10%
เนื่องจากในครึ่งปีแรกมีปัจจัยลบหลายอย่างที่มากระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคจังหวัดนี้ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัดนก เนื่องจากผู้บริโภคชาวโคราชส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก อาทิ การเลี้ยงไก่ การปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่มีการระบาดของไข้หวัดนกส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และโคราชยังเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงด้วย
นอกจากนี้ราคามันสำปะหลังก็ลดลงเหลือ 0.90 บาทต่อกิโลจากราคาปกติ 1.10 บาทต่อกิโล ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรลดลง พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยจึงมีความระมัดระวังมากขึ้น รวมถึง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้บริโภคลดการเดินทางมาห้างสรรพสินค้าในวันธรรมดาเพื่อประหยัดน้ำมัน โดยตัวเลขของรถยนต์วันธรรมดาเฉลี่ยเหลือเพียง 5,000 คันต่อวัน จากตัวเลขปกติ 6,000 คันต่อวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ยังมีปริมาณเท่าเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000-11,000 คันต่อวัน
ปัจจัยเชิงลบดังกล่าวที่ส่งผลกระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภคถึงแม้ว่าในขณะนี้ทางห้างเองยังอยู่ระหว่างเก็บรวบรวมตัวเลขถึงกำลังการซื้อที่ลดลงไป แต่สิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคต่างจังหวัดทั้งโคราชและจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นกลุ่มลูกค้าของเดอะมอลล์เริ่มกังวลกับเรื่องภาวะน้ำมันที่สูงขึ้น คือ พฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันในช่วงนี้เริ่มเปลี่ยนไป ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะกังวลว่าราคาสินค้าดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน
พฤติกรรมการซื้อดังกล่าวอาจจะแตกต่างจากพฤติกรรมของผู้บริโภคกรุงเทพฯ เนื่องจากผู้บริโภคต่างจังหวัดถึง 86% ใช้เงินสดในการซื้อสินค้า 14% ใช้บัตรเครดิต ในขณะที่ผู้บริโภคกรุงเทพฯ ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าสูงถึง 30% เงินสด 70%
อย่างไรก็ตาม เดอะมอลล์เองได้รับนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์ที่จะตรึงราคาสินค้าจำเป็นไว้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้น รวมถึงไม่ต้องการให้กำลังการซื้อหดตัวลงอีก แต่หากราคาน้ำมันยังคงลอยตัวเพิ่มสูงขึ้นมีความเป็นไปได้ที่ซัพพลายเออร์อาจจะต้องปรับราคาสินค้าเพิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกลไกของตลาด
เดอะมอลล์โคราชตั้งเป้าการเติบโตรวมในปีนี้ 12% มีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เท่ากับปี 2546 ที่ผ่านมา โดยทางห้างเองจะต้องอัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนี้ให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมาใช้บริการและซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะต้องการให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย
"เรามองว่ากำลังการซื้อน่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อีกครั้งในช่วงเดือนต.ค. เนื่องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น" นายปรีชากล่าว
ด้านสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในโคราชถือว่าค่อนข้างรุนแรงมากโดยเฉพาะในช่วงที่เดอะมอลล์เริ่มเข้ามาลงทุนเปิดสาขาที่นี่ใกล้เคียงกับเทสโก โลตัส ทำให้โคราชมีซูเปอร์สโตร์ชั้นนำและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในบริเวณเดียวกันถึง 4 แห่ง ได้แก่ บิ๊กซี แม็คโคร เทสโก โลตัส เดอะมอลล์ รวมถึงห้างท้องถิ่นอย่างคลัง พลาซ่า
ตลาดค้าปลีกต่างจังหวัดแตกต่างจากค้าปลีกกรุงเทพฯ ที่มีสภาพการจราจรติดขัดไม่สามารถเช็คราคาสินค้าถูก-แพงได้อย่างรวดเร็วเหมือนต่างจังหวัดที่เดินทางสะดวก เช็ดราคาสินค้าง่าย เดอะมอลล์จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเพื่อสร้างความจงรักภักดีด้วยการอัดกิจกรรมงานต่างๆ โดยจะจัดงานใหญ่เดือนละ 3 ครั้ง และงานเล็กสัปดาห์ละครั้งเพื่อดึงดูดคน พร้อมกับเปิดพื้นที่ให้กับหน่วยงานในการทำกิจกรรมด้วย
ล่าสุด ได้ทำเรื่องติดต่อกับกงสุลระดับประเทศเพื่อขอให้มาเปิดบริการทำหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต เพื่อกระตุ้นคนให้คนมาใช้บริการในวันธรรมดามากขึ้น และจะใช้ลานเอ็มซีซี ฮอลล์ในการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต่อว่า เดอะมอลล์ สาขาจังหวัดนครราชสีมาปีนี้ครบรอบ 4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า มีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 30,000 - 40,000 คนต่อวัน และในปีนี้ได้ใช้งบทำตลาดเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็น 50 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมาย ล่าสุด จัดแคมเปญ "ช้อปฉลอง 4 ปี ลุ้นรับ ขับสนุก" ลดราคาสินค้าทั้งศูนย์ 15-70% โดยมั่นใจว่าสาขานี้จะเป็นอีกหนึ่งสาขายุทธศาสตร์ของเดอะมอลล์
ทั้งนี้ เป็นเพราะโครงการการลงทุนของภาครัฐในแถบภาคอีสาน อาทิ การพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมไฮเทคเทคโนโลยีของภูมิภาค, การพัฒนาให้เป็นศูนย์การด้านการเงินและการธนาคาร, การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในแถบภาคอีสานเพื่อเชื่อมโยงทุกจังหวัดในแถบนี้สู่อินโดจีน, โครงการพัฒนาเส้นทางเดินรถสายสำคัญในภูมิภาค
นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไป ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ นครราชสีมา บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายครึ่งปีแรกของเดอะมอลล์ โคราชมีอัตราการเติบโต 9% โดยส่วนใหญ่เป็นอัตราการเติบโตจากสินค้ากลุ่มอาหาร ของใช้จำเป็น ในขณะที่สินค้าฟุ่มเฟือยกลับมีอัตราการเติบลดลงเหลือ 4.5% จากอัตราการเติบโตปกติ 10%
เนื่องจากในครึ่งปีแรกมีปัจจัยลบหลายอย่างที่มากระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคจังหวัดนี้ทำให้ผู้บริโภคชะลอการจับจ่ายใช้สอยสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะเป็น ไข้หวัดนก เนื่องจากผู้บริโภคชาวโคราชส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก อาทิ การเลี้ยงไก่ การปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งตั้งแต่ต้นปีที่มีการระบาดของไข้หวัดนกส่งผลให้เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก และโคราชยังเป็นจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่สีแดงด้วย
นอกจากนี้ราคามันสำปะหลังก็ลดลงเหลือ 0.90 บาทต่อกิโลจากราคาปกติ 1.10 บาทต่อกิโล ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรลดลง พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยจึงมีความระมัดระวังมากขึ้น รวมถึง ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ผู้บริโภคลดการเดินทางมาห้างสรรพสินค้าในวันธรรมดาเพื่อประหยัดน้ำมัน โดยตัวเลขของรถยนต์วันธรรมดาเฉลี่ยเหลือเพียง 5,000 คันต่อวัน จากตัวเลขปกติ 6,000 คันต่อวัน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ยังมีปริมาณเท่าเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 9,000-11,000 คันต่อวัน
ปัจจัยเชิงลบดังกล่าวที่ส่งผลกระทบต่อกำลังการซื้อของผู้บริโภคถึงแม้ว่าในขณะนี้ทางห้างเองยังอยู่ระหว่างเก็บรวบรวมตัวเลขถึงกำลังการซื้อที่ลดลงไป แต่สิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคต่างจังหวัดทั้งโคราชและจังหวัดใกล้เคียงที่เป็นกลุ่มลูกค้าของเดอะมอลล์เริ่มกังวลกับเรื่องภาวะน้ำมันที่สูงขึ้น คือ พฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันในช่วงนี้เริ่มเปลี่ยนไป ลูกค้าหันมาซื้อสินค้าในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะกังวลว่าราคาสินค้าดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน
พฤติกรรมการซื้อดังกล่าวอาจจะแตกต่างจากพฤติกรรมของผู้บริโภคกรุงเทพฯ เนื่องจากผู้บริโภคต่างจังหวัดถึง 86% ใช้เงินสดในการซื้อสินค้า 14% ใช้บัตรเครดิต ในขณะที่ผู้บริโภคกรุงเทพฯ ใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าสูงถึง 30% เงินสด 70%
อย่างไรก็ตาม เดอะมอลล์เองได้รับนโยบายจากกระทรวงพาณิชย์ที่จะตรึงราคาสินค้าจำเป็นไว้ เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคแบกรับภาระที่เพิ่มขึ้น รวมถึงไม่ต้องการให้กำลังการซื้อหดตัวลงอีก แต่หากราคาน้ำมันยังคงลอยตัวเพิ่มสูงขึ้นมีความเป็นไปได้ที่ซัพพลายเออร์อาจจะต้องปรับราคาสินค้าเพิ่ม ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกลไกของตลาด
เดอะมอลล์โคราชตั้งเป้าการเติบโตรวมในปีนี้ 12% มีมูลค่าประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่เท่ากับปี 2546 ที่ผ่านมา โดยทางห้างเองจะต้องอัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงนี้ให้มากขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมาใช้บริการและซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น เพราะต้องการให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย
"เรามองว่ากำลังการซื้อน่าจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อีกครั้งในช่วงเดือนต.ค. เนื่องจากเป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น" นายปรีชากล่าว
ด้านสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกในโคราชถือว่าค่อนข้างรุนแรงมากโดยเฉพาะในช่วงที่เดอะมอลล์เริ่มเข้ามาลงทุนเปิดสาขาที่นี่ใกล้เคียงกับเทสโก โลตัส ทำให้โคราชมีซูเปอร์สโตร์ชั้นนำและห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในบริเวณเดียวกันถึง 4 แห่ง ได้แก่ บิ๊กซี แม็คโคร เทสโก โลตัส เดอะมอลล์ รวมถึงห้างท้องถิ่นอย่างคลัง พลาซ่า
ตลาดค้าปลีกต่างจังหวัดแตกต่างจากค้าปลีกกรุงเทพฯ ที่มีสภาพการจราจรติดขัดไม่สามารถเช็คราคาสินค้าถูก-แพงได้อย่างรวดเร็วเหมือนต่างจังหวัดที่เดินทางสะดวก เช็ดราคาสินค้าง่าย เดอะมอลล์จำเป็นต้องใช้กลยุทธ์เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเพื่อสร้างความจงรักภักดีด้วยการอัดกิจกรรมงานต่างๆ โดยจะจัดงานใหญ่เดือนละ 3 ครั้ง และงานเล็กสัปดาห์ละครั้งเพื่อดึงดูดคน พร้อมกับเปิดพื้นที่ให้กับหน่วยงานในการทำกิจกรรมด้วย
ล่าสุด ได้ทำเรื่องติดต่อกับกงสุลระดับประเทศเพื่อขอให้มาเปิดบริการทำหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต เพื่อกระตุ้นคนให้คนมาใช้บริการในวันธรรมดามากขึ้น และจะใช้ลานเอ็มซีซี ฮอลล์ในการกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค
นายชำนาญ เมธปรีชากุล ผู้อำนวยการใหญ่สายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวต่อว่า เดอะมอลล์ สาขาจังหวัดนครราชสีมาปีนี้ครบรอบ 4 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า มีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 30,000 - 40,000 คนต่อวัน และในปีนี้ได้ใช้งบทำตลาดเพิ่มขึ้นอีก 10% เป็น 50 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมาย ล่าสุด จัดแคมเปญ "ช้อปฉลอง 4 ปี ลุ้นรับ ขับสนุก" ลดราคาสินค้าทั้งศูนย์ 15-70% โดยมั่นใจว่าสาขานี้จะเป็นอีกหนึ่งสาขายุทธศาสตร์ของเดอะมอลล์
ทั้งนี้ เป็นเพราะโครงการการลงทุนของภาครัฐในแถบภาคอีสาน อาทิ การพัฒนาพื้นที่เป็นศูนย์รวมอุตสาหกรรมไฮเทคเทคโนโลยีของภูมิภาค, การพัฒนาให้เป็นศูนย์การด้านการเงินและการธนาคาร, การพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในแถบภาคอีสานเพื่อเชื่อมโยงทุกจังหวัดในแถบนี้สู่อินโดจีน, โครงการพัฒนาเส้นทางเดินรถสายสำคัญในภูมิภาค