วานนี้(1 ส.ค.) กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ได้จัดให้มีการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และมีพิธีการเทเหล้าทิ้งเพื่อกระตุ้นเตือนคนไทยทั้งประเทศ หันมาให้ความสำคัญต่อสุขภาพและประพฤติตนถูกต้องตามหลักศาสนา โดยมีองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมรณรงค์เป็นจำนวนมาก
**คนไทยดื่มเหล้า 18ล้านคน
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่าจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2546 พบตัวเลขที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับสถิติการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวคือ คนไทยอายุ 11 ปีขึ้นไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึง 18.61 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของประชากรทั้งประเทศ โดยแบ่งเป็นชาย 15.51 ล้านคน หญิง 3.95 ล้านคน ซึ่งกลุ่มวัยทำงานชายอายุ 25-44 ปีเป็นกลุ่มที่ดื่มมากที่สุด
ทั้งนี้ ในปี 2546 ทั้งปี ยอดบริโภคสุราในประเทศของคนไทย มีทั้งหมดประมาณ 3,691 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตจำนวนผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นในทุกเพศและทุกกลุ่มอายุ โดยดื่มเพิ่มขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี
ดังนั้น ในเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งเป็นเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญยิ่งของคนไทย จึงอยากให้วันเข้าพรรษาปีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลด ละเว้นอบายมุข งดดื่มของมึนเมาเป็นเวลา 3 เดือน
"ขณะนี้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินควรเป็นสาเหตุของการตายและความพิการทั่วโลกประมาณร้อยละ 4 สูงกว่ายาเสพติดถึง 5 เท่า ที่น่าเป็นห่วงคือ แนวโน้มการบริโภคของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยเกือบ 300,000 คนต่อปีและปริมาณการดื่มเพิ่มขึ้นต่อคนเพิ่มจาก 24.8 ลิตรต่อปีในปี 2534 เป็น 41.6 ลิตรต่อปี ในปี 2544 สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากโปรตุเกส ไอร์แลนด์ บาฮามาร์ และสาธารณรัฐเชก"
นางสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ในเดือนส.ค.48 องค์การอนามัยโลกมอบหมายให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมการสร้างสุขภาพโลก ซึ่งสธ.จะนำเรื่องการรณรงค์งดเหล้าและเลิกบุหรี่บรรจุในการประกาศกฎบัตรกรุงเทพด้วย
ส่วนการรณรงค์งดเหล้านั้น ขณะนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการรณงค์งดดื่มสุราทั้งปีโดยทุกวันอาทิตย์จะเป็นวันครอบครัวแข็งแรง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันให้เด็กรอดพ้นจากความเสี่ยงต่างๆ ที่จะนำไปสู่สิ่งอบายมุขต่าง ๆ คือเหล้านั่นเอง ขณะเดียวกันจะมีการบังคับใช้กฎหมายห้ามขายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่างเคร่งครัดด้วย
**ดื่มสุราเสี่ยง 70โรครุมเร้า
ทางด้าน น.พ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค รักษาการปลัดสธ. กล่าวว่า พิษภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากกว่า 70 โรค อาทิ ทำให้ตับอักเสบ และกลายเป็นโรคตับแข็ง ช่องปากลำคอมีการระคายเคือง ทำให้เสี่ยงโรคมะเร็งหลอดอาหาร ทำให้เลือดออกในกระเพาะอาหาร
นอกจากนี้ ในผู้ดื่มบางรายยังพบการฉีกขาดของเยื่อหลอดอาหารอันเกิดจากการอาเจียนหรือขย้อนอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็ส่งผลทำให้ระดับไอคิวลดลง หากดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีงานวิจัยยืนยันว่ากลุ่มที่เริ่มดื่มอายุ 20-29 ปี ไอคิวจะเสื่อมมากกว่ากลุ่มที่เริ่มดื่มในกลุ่มอายุอื่นๆ
น.พ.จรัล กล่าวต่อว่า จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลกพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทางจิตในแต่ละประเทศ เช่น โรคประสาทหลอน โรคหวาดระแวง โรคซึมเศร้า มีสาเหตุมาจากสุรา โดยเมื่อแอลกอฮอล์ถูกเผาผลาญจะมีสารพิษชื่อเตตราไฮโดร ไอโสควิโนลีนส์ ซึ่งจะไปทำลายสารเคมีในสมองที่ช่วยให้รู้สึกเป็นปกติสุขและสงบ เป็นเหตุให้คนติดสุรามีอารมณ์อ่อนไหว ขาดสมาธิ บุคลิกภาพเสื่อมโทรม ที่สำคัญคือ เมื่อเป็นแล้วรักษาให้หายขาดยาก
นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลการวิจัยปัญหาครอบครัวที่น่าสนใจว่าผู้ที่ติดสุรามีการทำร้ายคู่สมรส กล่าวคือ ผู้หญิงที่ติดสุราร้อยละ 6.2 ทำร้ายร่างกายสามี ในขณะที่ผู้ชายที่ติดสุรามีการทำร้ายร่างกายภรรยาร้อยละ 5.7 ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการหย่าร้างเกินร้อยละ 50 ของคนติดสุรา
ขณะเดียวกันก็พบว่า หญิงที่ติดสุราแล้ว แม้ว่าจะตั้งครรภ์ 1 ใน 4 ยังคงดื่มสุราต่อ ซึ่งมีผลกระทบต่อลูกและเสี่ยงต่อการแท้งลูกสูงกว่าคนไม่ดื่มประมาณ 2 เท่าตัว รวมทั้งเสี่ยงคลอดเด็กน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1 เท่าตัว
**แห่เทียนเข้าพรรษาคึกคัก
ด้านบรรยากาศการแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี 2547 ซึ่งเทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมกับคุ้มวัดอำเภอต่างๆ จัดขึ้นวานนี้ (1 ส.ค.)เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด เป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ความสนใจร่วมชมขบวนแห่เทียนที่มีความวิจิตร ประณีต และงดงามตระการตาอย่างครั้งนี้ กว่า 10,000 คน เช่นเดียวกับที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว นายทรงยศ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สระแก้ว นายพินิจ บุญเลิศ นายอำเภออรัญประเทศ และชาวอำเภออรัญประเทศ ได้ร่วมกันแห่เทียนพรรษามามอบให้วัดต่างๆ ในกัมพูชาเพื่อเป็นการนำพุทธศาสนา ซึ่งไทย-กัมพูชา มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติเหมือนกัน เป็นจุดสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยได้นำเทียนพรรษาและเครื่องอัฐบริขาร มาถวายให้กับวัดในเขตปอยเปต ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาได้นำพระสงฆ์เกือบ 20 รูปจากวัดต่าง ๆ ในเขตปอยเปต มารับเทียนพรรษาและเครื่องอัฐบริขาร ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ท่ามกลางนักพนันชาวไทยกว่า 1,000 คน ที่ยืนเข้าแถวต่อคิวตรวจหนังสือเดินทางจะเข้าไปเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโน
**คนไทยดื่มเหล้า 18ล้านคน
นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่าจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2546 พบตัวเลขที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับสถิติการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวคือ คนไทยอายุ 11 ปีขึ้นไป ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงถึง 18.61 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 29 ของประชากรทั้งประเทศ โดยแบ่งเป็นชาย 15.51 ล้านคน หญิง 3.95 ล้านคน ซึ่งกลุ่มวัยทำงานชายอายุ 25-44 ปีเป็นกลุ่มที่ดื่มมากที่สุด
ทั้งนี้ ในปี 2546 ทั้งปี ยอดบริโภคสุราในประเทศของคนไทย มีทั้งหมดประมาณ 3,691 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตจำนวนผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเพิ่มขึ้นในทุกเพศและทุกกลุ่มอายุ โดยดื่มเพิ่มขึ้น 1 เท่าทุก 3 ปี
ดังนั้น ในเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งเป็นเทศกาลทางศาสนาที่สำคัญยิ่งของคนไทย จึงอยากให้วันเข้าพรรษาปีนี้ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลด ละเว้นอบายมุข งดดื่มของมึนเมาเป็นเวลา 3 เดือน
"ขณะนี้การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินควรเป็นสาเหตุของการตายและความพิการทั่วโลกประมาณร้อยละ 4 สูงกว่ายาเสพติดถึง 5 เท่า ที่น่าเป็นห่วงคือ แนวโน้มการบริโภคของคนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยเกือบ 300,000 คนต่อปีและปริมาณการดื่มเพิ่มขึ้นต่อคนเพิ่มจาก 24.8 ลิตรต่อปีในปี 2534 เป็น 41.6 ลิตรต่อปี ในปี 2544 สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก รองจากโปรตุเกส ไอร์แลนด์ บาฮามาร์ และสาธารณรัฐเชก"
นางสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ในเดือนส.ค.48 องค์การอนามัยโลกมอบหมายให้ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมการสร้างสุขภาพโลก ซึ่งสธ.จะนำเรื่องการรณรงค์งดเหล้าและเลิกบุหรี่บรรจุในการประกาศกฎบัตรกรุงเทพด้วย
ส่วนการรณรงค์งดเหล้านั้น ขณะนี้คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้มีการรณงค์งดดื่มสุราทั้งปีโดยทุกวันอาทิตย์จะเป็นวันครอบครัวแข็งแรง เพื่อเป็นเกราะคุ้มกันให้เด็กรอดพ้นจากความเสี่ยงต่างๆ ที่จะนำไปสู่สิ่งอบายมุขต่าง ๆ คือเหล้านั่นเอง ขณะเดียวกันจะมีการบังคับใช้กฎหมายห้ามขายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่างเคร่งครัดด้วย
**ดื่มสุราเสี่ยง 70โรครุมเร้า
ทางด้าน น.พ.จรัล ตฤณวุฒิพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค รักษาการปลัดสธ. กล่าวว่า พิษภัยจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ได้มากกว่า 70 โรค อาทิ ทำให้ตับอักเสบ และกลายเป็นโรคตับแข็ง ช่องปากลำคอมีการระคายเคือง ทำให้เสี่ยงโรคมะเร็งหลอดอาหาร ทำให้เลือดออกในกระเพาะอาหาร
นอกจากนี้ ในผู้ดื่มบางรายยังพบการฉีกขาดของเยื่อหลอดอาหารอันเกิดจากการอาเจียนหรือขย้อนอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันก็ส่งผลทำให้ระดับไอคิวลดลง หากดื่มตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีงานวิจัยยืนยันว่ากลุ่มที่เริ่มดื่มอายุ 20-29 ปี ไอคิวจะเสื่อมมากกว่ากลุ่มที่เริ่มดื่มในกลุ่มอายุอื่นๆ
น.พ.จรัล กล่าวต่อว่า จากการศึกษาขององค์การอนามัยโลกพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยทางจิตในแต่ละประเทศ เช่น โรคประสาทหลอน โรคหวาดระแวง โรคซึมเศร้า มีสาเหตุมาจากสุรา โดยเมื่อแอลกอฮอล์ถูกเผาผลาญจะมีสารพิษชื่อเตตราไฮโดร ไอโสควิโนลีนส์ ซึ่งจะไปทำลายสารเคมีในสมองที่ช่วยให้รู้สึกเป็นปกติสุขและสงบ เป็นเหตุให้คนติดสุรามีอารมณ์อ่อนไหว ขาดสมาธิ บุคลิกภาพเสื่อมโทรม ที่สำคัญคือ เมื่อเป็นแล้วรักษาให้หายขาดยาก
นอกจากนี้ ยังพบข้อมูลการวิจัยปัญหาครอบครัวที่น่าสนใจว่าผู้ที่ติดสุรามีการทำร้ายคู่สมรส กล่าวคือ ผู้หญิงที่ติดสุราร้อยละ 6.2 ทำร้ายร่างกายสามี ในขณะที่ผู้ชายที่ติดสุรามีการทำร้ายร่างกายภรรยาร้อยละ 5.7 ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการหย่าร้างเกินร้อยละ 50 ของคนติดสุรา
ขณะเดียวกันก็พบว่า หญิงที่ติดสุราแล้ว แม้ว่าจะตั้งครรภ์ 1 ใน 4 ยังคงดื่มสุราต่อ ซึ่งมีผลกระทบต่อลูกและเสี่ยงต่อการแท้งลูกสูงกว่าคนไม่ดื่มประมาณ 2 เท่าตัว รวมทั้งเสี่ยงคลอดเด็กน้ำหนักตัวน้อยกว่า 1 เท่าตัว
**แห่เทียนเข้าพรรษาคึกคัก
ด้านบรรยากาศการแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี 2547 ซึ่งเทศบาลนครนครราชสีมา ร่วมกับคุ้มวัดอำเภอต่างๆ จัดขึ้นวานนี้ (1 ส.ค.)เพื่อเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของไทย ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัด เป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ มีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศให้ความสนใจร่วมชมขบวนแห่เทียนที่มีความวิจิตร ประณีต และงดงามตระการตาอย่างครั้งนี้ กว่า 10,000 คน เช่นเดียวกับที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.สระแก้ว นายทรงยศ เทียนทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สระแก้ว นายพินิจ บุญเลิศ นายอำเภออรัญประเทศ และชาวอำเภออรัญประเทศ ได้ร่วมกันแห่เทียนพรรษามามอบให้วัดต่างๆ ในกัมพูชาเพื่อเป็นการนำพุทธศาสนา ซึ่งไทย-กัมพูชา มีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติเหมือนกัน เป็นจุดสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยได้นำเทียนพรรษาและเครื่องอัฐบริขาร มาถวายให้กับวัดในเขตปอยเปต ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาได้นำพระสงฆ์เกือบ 20 รูปจากวัดต่าง ๆ ในเขตปอยเปต มารับเทียนพรรษาและเครื่องอัฐบริขาร ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ท่ามกลางนักพนันชาวไทยกว่า 1,000 คน ที่ยืนเข้าแถวต่อคิวตรวจหนังสือเดินทางจะเข้าไปเสี่ยงโชคในบ่อนกาสิโน