ศูนย์ข่าวภูเก็ต -อบต.ราไวย์ยังรื้อรีสอร์ตหรู บนเนินเขาหาดในหานไม่ได้ เหตุเจ้าของทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งรื้อถอนของอบต.ว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย ต้องรอการพิจารณาของจังหวัดอีก 60 วัน เชื่อจังหวัดยืนยันคำสั่งอบต.แน่ เพราะหลักฐานชัด สร้างไม่ขออนุญาต
นายอรุณ โสฬส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราไวย์(อบต.) อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้า การดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ของอบต.กับนายทุน ที่ลักลอบก่อสร้างรีสอร์ตหรู บนเนินเขาหาดในหาน ใกล้กับโรงแรมยอชต์คลับ หมู่ที่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 23 หลัง ว่า
ภายหลังจากที่อบต.ราไวย์ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าวให้รื้อถอนภายใน 30 วันนับจากวันที่อบต.ได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม2547 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าของรีสอร์ตได้ทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งของอบต. ว่า คำสั่งให้รื้อถอนรีสอร์ตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้อบต.ไม่สามารถแจ้งความรื้อถอนรีสอร์ตดังกล่าวได้ เพราะต้องส่งหนังสืออุทธรณ์ ให้คณะกรรมการอุทธรณ์จังหวัดภูเก็ต พิจารณาภายใน 60 วัน ทำให้การดำเนินคดีรื้อถอนรีสอร์ตต้องเลื่อนออกไปอีก 60 วัน
นายอรุณ กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่รอการพิจารณาของจังหวัด เจ้าของรีสอร์ตและอบต.ไม่สามารถ ที่จะเข้าไปดำเนินการอะไรในรีสอร์ตได้ และเชื่อว่าเมื่อจังหวัดภูเก็ตพิจารณายืนยันตามคำสั่งของอบต. เจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้จะต้องฟ้องร้องคำสั่งของอบต.ไปยังศาลปกครองอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้เจ้าของได้แต่งตั้งทนายความขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะทำให้เรื่องยืดเยื้อออกไปอีก อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลปกครอง อบต.มีอำนาจในการดำเนินคดี กับผู้ที่เข้าไปอาศัยในรีสอร์ตในข้อหาบุกรุกได้
"หากจังหวัดพิจารณายืนยันตามคำสั่งอบต. และเจ้าของรีสอร์ตไม่ยื่นฟ้องกับศาลปกครอง อบต.จะแจ้งความดำเนินคดีรื้อถอนทันที"นายอรุณ กล่าว
สำหรับรีสอร์ตที่เป็นคดีความกับอบต.ราไวย์ มีทั้งหมด 23 หลัง โดยมีทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นรีสอร์ตที่สร้างโดยใช้วัสดุธรรมชาติให้กลมกลืนกับสภาพธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม โดยมีนางสมจิตร สุขเจีย เป็นเจ้าของ และที่ดินแปลงที่มีการก่อสร้างยังมีปัญหาการฟ้องร้องเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินอยู่ในชั้นศาล
นอกจากนี้ ก่อนที่อบต.ราไวย์ จะสั่งรื้อถอน อบต.ได้ส่งหนังสือแจ้งให้เจ้าของรีสอร์ต นำเอกสารหลักฐานการขออนุญาตมายืนยันกับอบต. แต่หลักฐานที่นำมายืนยันเป็นเพียงใบรับรองการจ่ายภาษีในที่ดินเท่านั้น ซึ่งอบต.ไม่สามารถที่จะอนุญาตการก่อสร้างได้ เพราะการอนุญาตก่อสร้างอาคารต้องใช้เอกสารหลักฐานที่ดินที่เป็นโฉนดหรือนส. 3 ก.
นายอรุณ โสฬส นายกองค์การบริหารส่วนตำบลราไวย์(อบต.) อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดเผยความคืบหน้า การดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ของอบต.กับนายทุน ที่ลักลอบก่อสร้างรีสอร์ตหรู บนเนินเขาหาดในหาน ใกล้กับโรงแรมยอชต์คลับ หมู่ที่ 1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต จำนวน 23 หลัง ว่า
ภายหลังจากที่อบต.ราไวย์ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าวให้รื้อถอนภายใน 30 วันนับจากวันที่อบต.ได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม2547 ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าของรีสอร์ตได้ทำหนังสืออุทธรณ์คำสั่งของอบต. ว่า คำสั่งให้รื้อถอนรีสอร์ตไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้อบต.ไม่สามารถแจ้งความรื้อถอนรีสอร์ตดังกล่าวได้ เพราะต้องส่งหนังสืออุทธรณ์ ให้คณะกรรมการอุทธรณ์จังหวัดภูเก็ต พิจารณาภายใน 60 วัน ทำให้การดำเนินคดีรื้อถอนรีสอร์ตต้องเลื่อนออกไปอีก 60 วัน
นายอรุณ กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่รอการพิจารณาของจังหวัด เจ้าของรีสอร์ตและอบต.ไม่สามารถ ที่จะเข้าไปดำเนินการอะไรในรีสอร์ตได้ และเชื่อว่าเมื่อจังหวัดภูเก็ตพิจารณายืนยันตามคำสั่งของอบต. เจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้จะต้องฟ้องร้องคำสั่งของอบต.ไปยังศาลปกครองอย่างแน่นอน เพราะขณะนี้เจ้าของได้แต่งตั้งทนายความขึ้นมาแล้ว ซึ่งจะทำให้เรื่องยืดเยื้อออกไปอีก อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่รอคำตัดสินของศาลปกครอง อบต.มีอำนาจในการดำเนินคดี กับผู้ที่เข้าไปอาศัยในรีสอร์ตในข้อหาบุกรุกได้
"หากจังหวัดพิจารณายืนยันตามคำสั่งอบต. และเจ้าของรีสอร์ตไม่ยื่นฟ้องกับศาลปกครอง อบต.จะแจ้งความดำเนินคดีรื้อถอนทันที"นายอรุณ กล่าว
สำหรับรีสอร์ตที่เป็นคดีความกับอบต.ราไวย์ มีทั้งหมด 23 หลัง โดยมีทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เป็นรีสอร์ตที่สร้างโดยใช้วัสดุธรรมชาติให้กลมกลืนกับสภาพธรรมชาติ สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม โดยมีนางสมจิตร สุขเจีย เป็นเจ้าของ และที่ดินแปลงที่มีการก่อสร้างยังมีปัญหาการฟ้องร้องเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินอยู่ในชั้นศาล
นอกจากนี้ ก่อนที่อบต.ราไวย์ จะสั่งรื้อถอน อบต.ได้ส่งหนังสือแจ้งให้เจ้าของรีสอร์ต นำเอกสารหลักฐานการขออนุญาตมายืนยันกับอบต. แต่หลักฐานที่นำมายืนยันเป็นเพียงใบรับรองการจ่ายภาษีในที่ดินเท่านั้น ซึ่งอบต.ไม่สามารถที่จะอนุญาตการก่อสร้างได้ เพราะการอนุญาตก่อสร้างอาคารต้องใช้เอกสารหลักฐานที่ดินที่เป็นโฉนดหรือนส. 3 ก.