นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคไทยรักไทยขอใหันายกรัฐมนตรีช่วยคัดค้านผลการเลือกประธานสภากรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่า ไม่เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีจะมีอำนาจไปจัดการอะไรกับสภากทม. ซึ่งเป็นสภาท้องถิ่น และทางพรรคประชาธิปัตย์ก็จะติดตามกันต่อไปว่านายกรัฐมนตรีมีอำนาจอะไรเข้าไปจัดการ เป็นการใช้อำนาจที่ชอบด้วยตัวบทกฎหมายหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปอยู่ในห้องที่ใกล้ ๆ กับห้องประชุมที่มีการเลือกตั้งนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่ายังไม่ได้คุยกับนายอภิสิทธิ์เรื่องนี้ แต่เห็นว่าเป็นความพยายามหาเหตุผลที่จะสนับสนุนข้อกล่าวอ้างมากกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การที่ไปอยู่ใกล้สถานที่ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไปในฐานะที่ดูแลส.ก.ของพรรคในการคัดสรรรายชื่อผู้ที่จะเป็นประธานสภากทม. และไม่เห็นว่าการเข้าไปอยู่ใกล้กับที่คัดเลือกประธานสภา กทม.จะมีผลได้หรือผลเสียอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในช่วงที่ประชุมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะดูผ่านโทรทัศน์วงจรปิด และที่สำคัญส.ส.พรรคไทยรักไทยเองก็ไปด้วย ทำไมไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองมากกว่า
ขณะที่รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า คณะกรรมการสอบสวนที่มีนายเฉลิมชัย รัตนจันท ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฯ นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมาย และจะประชุมนัดแรกในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ด้านนายธนา ชีรวินิจ ประธานสภากทม.คนใหม่จากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงข่าวตอบโต้ทางส.ก.พรรคไทยรักไทย เช่นกันว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างชอบธรรม ครบองค์ประชุมและมีการนับคะแนนที่โปร่งใส โดยมีสมาชิกเซ็นต์ชื่อครบ 61 คนและมีผู้ไม่ร่วมลงคะแนนคนเดียวคือ นายพยงค์ ช้างเจริญ ส.ก.เขตบางขุนเทียน พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากคนที่บ้านป่วยจึงต้องรีบกลับเพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล
ที่สำคัญคือ หากไม่ครบองค์ประชุมจริง นางผุสดี วงศ์กำแหงประธานชั่วคราวคงใช้อำนาจสั่ง นอกจากนี้ยังมีเอกสารการนับคะแนนซึ่งทางเจ้าหน้าที่เซ็นต์กำกับทุกแผ่นอีกด้วย
ส่วนนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคไทยรักไทย อดีตประธาน ส.ก.กล่าวว่าไม่สามารถทำใจให้ยอมรับประธานคนใหม่ได้ เพราะการได้มาซึ่งตำแหน่งนั้นไม่เป็นไปตามระเบียบและไม่โปร่งใสในการนับคะแนน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ทางประชาธิปัตย์ใช้วิธีเดียวกันคือ อาศัยว่ามีเสียงของส.ก.มากกว่าไทยรักไทย จึงหน่วงเหนี่ยวประวิงเวลารอสมาชิกของพรรคมาร่วมประชุมครบทุกคนแล้วรวบรัดลงคะแนน ยกมือให้ประชาธิปัตย์ได้นั่งตำแหน่งนี้มาแล้ว
สำหรับนายสุธา นิติภานนท์ ส.ก.เขตภาษีเจริญ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรที่ทางไทยรักไทยเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งทั้งๆ ที่อยู่คนละพรรคกันเพราะตามระบอบประชิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะเสนอใครก็ได้ที่คิดว่ามีความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพรรคยังไม่ได้เรียกเข้าไปชี้แจง แต่ก็พร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลตลอดเวลาและยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมพิจารณางบประมาณปี 2548 ในวันที่ 7 ก.ค.อย่างแน่นอน
ด้านนายพยงค์ ช้างเจริญ ส.ก.เขตบางขุนเทียน พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หากในวันนั้นอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ก็จะงดออกเสียงไม่ลงคะแนนให้ประชาธิปัตย์ รวมทั้งขณะนี้ได้ไปเซ็นต์ให้ทางรมต.มหาดไทยตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปอยู่ในห้องที่ใกล้ ๆ กับห้องประชุมที่มีการเลือกตั้งนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่ายังไม่ได้คุยกับนายอภิสิทธิ์เรื่องนี้ แต่เห็นว่าเป็นความพยายามหาเหตุผลที่จะสนับสนุนข้อกล่าวอ้างมากกว่า
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การที่ไปอยู่ใกล้สถานที่ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะไปในฐานะที่ดูแลส.ก.ของพรรคในการคัดสรรรายชื่อผู้ที่จะเป็นประธานสภากทม. และไม่เห็นว่าการเข้าไปอยู่ใกล้กับที่คัดเลือกประธานสภา กทม.จะมีผลได้หรือผลเสียอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าในช่วงที่ประชุมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะดูผ่านโทรทัศน์วงจรปิด และที่สำคัญส.ส.พรรคไทยรักไทยเองก็ไปด้วย ทำไมไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เป็นเกมการเมืองมากกว่า
ขณะที่รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทยแจ้งว่า คณะกรรมการสอบสวนที่มีนายเฉลิมชัย รัตนจันท ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานฯ นั้น อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อกฎหมาย และจะประชุมนัดแรกในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ด้านนายธนา ชีรวินิจ ประธานสภากทม.คนใหม่จากพรรคประชาธิปัตย์ เปิดแถลงข่าวตอบโต้ทางส.ก.พรรคไทยรักไทย เช่นกันว่า การเลือกตั้งเป็นไปอย่างชอบธรรม ครบองค์ประชุมและมีการนับคะแนนที่โปร่งใส โดยมีสมาชิกเซ็นต์ชื่อครบ 61 คนและมีผู้ไม่ร่วมลงคะแนนคนเดียวคือ นายพยงค์ ช้างเจริญ ส.ก.เขตบางขุนเทียน พรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากคนที่บ้านป่วยจึงต้องรีบกลับเพื่อนำไปส่งโรงพยาบาล
ที่สำคัญคือ หากไม่ครบองค์ประชุมจริง นางผุสดี วงศ์กำแหงประธานชั่วคราวคงใช้อำนาจสั่ง นอกจากนี้ยังมีเอกสารการนับคะแนนซึ่งทางเจ้าหน้าที่เซ็นต์กำกับทุกแผ่นอีกด้วย
ส่วนนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ ส.ก.เขตลาดกระบัง พรรคไทยรักไทย อดีตประธาน ส.ก.กล่าวว่าไม่สามารถทำใจให้ยอมรับประธานคนใหม่ได้ เพราะการได้มาซึ่งตำแหน่งนั้นไม่เป็นไปตามระเบียบและไม่โปร่งใสในการนับคะแนน
ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ทางประชาธิปัตย์ใช้วิธีเดียวกันคือ อาศัยว่ามีเสียงของส.ก.มากกว่าไทยรักไทย จึงหน่วงเหนี่ยวประวิงเวลารอสมาชิกของพรรคมาร่วมประชุมครบทุกคนแล้วรวบรัดลงคะแนน ยกมือให้ประชาธิปัตย์ได้นั่งตำแหน่งนี้มาแล้ว
สำหรับนายสุธา นิติภานนท์ ส.ก.เขตภาษีเจริญ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าส่วนตัวไม่รู้สึกอะไรที่ทางไทยรักไทยเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งทั้งๆ ที่อยู่คนละพรรคกันเพราะตามระบอบประชิปไตยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะเสนอใครก็ได้ที่คิดว่ามีความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางพรรคยังไม่ได้เรียกเข้าไปชี้แจง แต่ก็พร้อมที่จะเข้าไปให้ข้อมูลตลอดเวลาและยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมพิจารณางบประมาณปี 2548 ในวันที่ 7 ก.ค.อย่างแน่นอน
ด้านนายพยงค์ ช้างเจริญ ส.ก.เขตบางขุนเทียน พรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า หากในวันนั้นอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ก็จะงดออกเสียงไม่ลงคะแนนให้ประชาธิปัตย์ รวมทั้งขณะนี้ได้ไปเซ็นต์ให้ทางรมต.มหาดไทยตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย