xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะ”เบรกเรือด่วนขึ้นราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-“สุริยะ”เบรกเรือด่วนเจ้าพระยาที่เตรียมขอขึ้นค่าโดยสารเรือด่วนและเรือข้าฟากอีก 15-20% ชี้รัฐตรึงราคาดีเซล ก็เพื่อช่วยผู้ประกอบการแล้ว นโยบายจะไม่ผลักภาระให้ประชาชนเดือดร้อนแน่ แต่ยังไม่ปิดโอกาสขอขึ้นราคา ถ้ามีเหตุผลเพียงพอ ด้านเรือด่วนยันขอปรับราคา 15 ก.ค.นี้แน่ เพราะต้นทุนอื่นเพิ่มไม่ใช่น้ำมันอย่างเดียว และเป็นแผนคิดมาก่อนมีปัญหาราคาน้ำมัน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่มีข่าวว่า บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด จะเสนอขอปรับอัตราค่าโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟากว่า หากเสนอเรื่องเข้ามา ก็คงไม่สามารถพิจารณาอนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าโดยสารแน่นอน เนื่องจากเรือด่วนใช้น้ำมันดีเซล ซึ่งขณะนี้รัฐได้ช่วยเหลือด้วยการอุดหนุนพยุงราคาให้อยู่ อีกทั้งที่ผ่านมา ภาครัฐโดยกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวี ได้ลงทุนปรับปรุงท่าเทียบเรือต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวก ในการต่อเชื่อมการเดินทางระหว่างเรือกับรถ และได้ช่วยทำประชาสัมพันธ์ ชักชวนให้ประชาชนหันมาใช้บริการเรือโดยสารมากขึ้นอีกด้วย
“ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะต้องปรับค่าโดยสาร เพราะจะเพิ่มภาระให้กับประชาชนมากจนเกินไป ซึ่งการพิจารณาเรื่องนี้ จะต้องดูทุกเหตุผลประกอบกันทั้งหมด ซึ่งแม้บริษัทจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เมื่อมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น จากการดูแลและการสนับสนุนของรัฐ ก็ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นมาชดเชยได้ โดยเหตุผลสำคัญที่รัฐพยายามตรึงราคาน้ำมันดีเซลก็เพื่อไม่ต้องการให้ภาคขนส่งได้รับผลกระทบ หากยอมให้เอกชนปรับค่าโดยสาร ก็ไม่มีประโยชน์ที่รัฐตรึงดีเซล”นายสุริยะกล่าว
นายสุริยะกล่าวว่า หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดที่ได้รับผลกระทบและต้องการให้รัฐช่วยเหลือก็เสนอเรื่องมาได้ หากมีเหตุผลก็จะพิจารณาช่วยเหลือ แต่ทั้งนี้ จะต้องไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อน ซึ่งเรื่องนี้เห็นว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ผู้ประกอบการอาจต้องรับภาระไปบางส่วนไม่ใช่ผลักภาระให้ประชาชนฝ่ายเดียว
นาวาโทปริญญา รักวาทิน กรรมการผู้จัดการ เรือด่วนเจ้าพระยา กล่าวยืนยันว่า จะยื่นหนังสือไปยังกระทรวงคมนาคมเพื่อขอปรับอัตราค่าโดยสารของเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือข้ามฟากภายในวันที่ 15 ก.ค.นี้ แน่นอน เนื่องจากอัตราที่ใช้อยู่ เป็นอัตราที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2543 และเป็นแผนธุรกิจของบริษัทที่ทำมาก่อนที่ราคาน้ำมันจะปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเสนอการปรับใน 2 กรอบ คือ ขอปรับค่าโดยสารระหว่างปากเกร็ด-วัดราชสิงขรณ์ เพิ่มขึ้นอีก 15-20 % ภายใต้ต้นทุนน้ำมันที่ 14.50 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันอัตรา 6 บาท / 8 บาท / 10 บาท เป็น 8 บาท /10 บาท /12 บาทและขออนุมัติไว้กรณีที่ราคาดีเซลเกินกว่า 15 บาทต่อลิตร หรือกรณีมีการปล่อยลอยตัว จะปรับเพิ่มเป็น 30% หรือปรับเพิ่มให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง ส่วนเรือข้ามฟากนั้นจะเสนอปรับเพิ่มประมาณ 30% จากราคาปัจจุบัน
โดยเหตุผลหลักในการขอปรับค่าโดยสารเป็นไปตามแผนการพัฒนาทางธุรกิจ ที่จะนำไปลงทุนในการต่อเรือเพิ่มขึ้น และพัฒนาปรับปรุงท่าเทียบเรือทั้ง 34 แห่งด้วย ทั้งนี้ แม้ว่าโครงการ เรือต่อรถ รถต่อเรือ จะส่งผลให้มีผู้โดยสารเดินทางทางเรือเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกกว่า 1 ล้านคน แต่เมื่อรัฐไม่ทำโครงการต่อเนื่องก็ทำให้ผู้โดยสารลดลง และยังมีปัญหาในการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างเรือกับรถด้วย คือ มีท่าเรือเพียง 10 ท่าจากทั้งหมด 34 ท่าที่สามารถเชื่อมต่อรถหรือรถไฟฟ้าได้ภายในระยะทาง 300 เมตร
ทั้งนี้ อัตราค่าโดยสารที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นอัตราที่เสนอตั้งแต่ปี 2539 ซึ่งประเมินตามภาวะเศรษฐกิจในขณะนั้นและน้ำมันอยู่ที่ 13.50 บาทต่อลิตร แต่โดยได้รับอนุมัติในปี 2543 ซึ่งตอนนั้นต้นทุนได้ปรับเพิ่มขึ้นอีก เช่น ราคาเครื่องยนต์ขนาด 350 แรงม้า จากราคาตัวละ 1 ล้านบาท ปรับเพิ่มเป็น 1.9 ล้านบาท รวมถึงอะไหล่ การซ่อมบำรุงด้วยส่วนน้ำมันมีต้นทุนที่ 14 บาทต่อลิตร โดยน้ำมันคิดเป็นต้นทุนประมาณ 40% ของต้นทุนทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น