xs
xsm
sm
md
lg

หัวเว่ยร่วมมือกฟภ. ดึง AI อ่านมิเตอร์อัตโนมัติ เตือนหม้อแปลงรั่วเรียลไทม์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หัวเว่ย (Huawei) ร่วมมือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ผุดสถานีไฟฟ้าอัจฉริยะขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) กฟภ. เผยนำระบบอัจฉริยะแบบไร้คนประจำการมาใช้งานในสถานีไฟฟ้าแล้ว 467 แห่ง เร่งเปลี่ยนจากจัดการเหตุการณ์ เป็นเตือนล่วงหน้าด้วยการตรวจสอบตลอด 24 ชั่วโมง ชูตอบสนองภายในระดับนาทีตั้งแต่ตรวจพบความผิดพลาดจนถึงการแก้ไข ดึง AI อ่านมิเตอร์อัตโนมัติ เตือนการรั่วไหลของน้ำมันหม้อแปลงแบบเรียลไทม์

นายวิลเลี่ยม จาง ประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าความร่วมมือในการพัฒนาโซลูชันสถานีไฟฟ้าอัจฉริยะล่าสุดของหัวเว่ยและกฟภ. ในครั้งนี้ทำให้เกิดระบบการตรวจสอบอัจฉริยะและการบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพผ่านการป้องกันหลายมิติด้วยการเชื่อมโยงเทคโนโลยีทั้งด้านแสงและภาพ และการบำรุงรักษาเชิงรุกโดยใช้ AI ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และประสิทธิภาพในการดำเนินงานของสถานีไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

"ระบบพลังงานใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการใช้พลังงานสะอาด ระบบพลังงานหมุนเวียน การวัดและติดตามการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ และการดูแลระบบกักเก็บพลังงาน ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลและความชาญฉลาดคือกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ในฐานะที่สถานีไฟฟ้าเป็นศูนย์กลางพลังงานที่สำคัญในโครงข่ายไฟฟ้า การยกระดับสู่ดิจิทัลและนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาประยุกต์ใช้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงความน่าเชื่อถือของโครงข่ายไฟฟ้า"

ปานทอง ถินสถิตย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการปฏิบัติการระบบไฟฟ้า (ปฏิบัติโครงข่ายระบบไฟฟ้า) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) (ลำดับที่ 4 จากซ้าย) และนายวิลเลี่ยม จาง ประธานธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด (ลำดับที่ 5 จากซ้าย)
หัวเว่ยและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคหรือ กฟภ. ได้ร่วมกันเปิดตัวโซลูชันสถานีไฟฟ้าอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด AI เสริมพลังสถานีไฟฟ้าอัจฉริยะ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบไฟฟ้าของไทยสู่ยุคดิจิทัล

เมื่อระบบพลังงานใหม่กำลังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์พลังงานสะอาด การจัดเก็บพลังงาน และการวัดค่าแบบเรียลไทม์ เทคโนโลยีดิจิทัลและ AI จึงเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาเหล่านี้

นายปานทอง ถินสถิตย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการปฏิบัติการระบบไฟฟ้า (ปฏิบัติโครงข่ายระบบไฟฟ้า) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) กล่าวว่า เผยว่า ขณะนี้ได้นำระบบอัจฉริยะแบบไร้คนประจำการมาใช้ในสถานีไฟฟ้าไปแล้ว 467 แห่ง และจะขับเคลื่อนเป้าหมาย "ลดกำลังคน เพิ่มระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ" อย่างต่อเนื่อง

"การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเป็นแนวทางที่ต้องเกิดขึ้นอย่างไม่อาจเลี่ยงได้สำหรับการพัฒนาความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ซึ่ง กฟภ. กำลังเร่งยกระดับสถานีไฟฟ้าสู่ระบบอัจฉริยะ โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างกรอบแนวคิดใหม่ในการให้บริการด้านพลังงาน จนถึงปัจจุบัน เราได้นำระบบอัจฉริยะแบบไร้คนประจำการมาใช้งานในสถานีไฟฟ้าแล้วถึง 467 แห่ง โดยอาศัยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อสร้างแนวป้องกันที่มั่นคงสำหรับการดำเนินงานที่ปลอดภัยของระบบไฟฟ้า"

สำหรับอนาคต ที่ กฟภ. ย้ำว่าจะยังคงขับเคลื่อนเป้าหมายลดกำลังคนและนำระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ นั้นจะดำเนินการโดยการลดข้อจำกัดด้านข้อมูลด้วยระบบที่เชื่อมโยงถึงกัน พร้อมหลอมรวมเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ เสาอัจฉริยะ ระบบจดจำป้ายทะเบียนรถ ระบบตรวจสอบแบตเตอรี่ และปุ่มกดฉุกเฉิน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อคำสั่งต่างๆ เช่น สัญญาณเตือนไฟไหม้และควันได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะทำให้สถานีไฟฟ้าอัจฉริยะกลายเป็นศูนย์กลางหลักของการทำงานร่วมกันในระบบนิเวศพลังงาน และเป็นต้นแบบที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้สำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและระบบอัจฉริยะของอุตสาหกรรม

แฟ้มภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน กฟภ
โซลูชันใหม่จะมาพร้อม 3 ความสามารถหลัก คือ 1. ป้องกันการบุกรุกตลอด 24 ชั่วโมง มีการใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติกผ่าน AI อัลกอริทึม ตรวจจับการบุกรุกอัตโนมัติ สามารถเช็คจากระยะไกลได้ เปลี่ยนจากการจัดการเหตุการณ์ เป็นการเตือนล่วงหน้า

2. ตรวจตราอัจฉริยะ มีการใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูล อ่านมิเตอร์อัตโนมัติ เตือนการรั่วไหลของน้ำมันหม้อแปลง พร้อมแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ตอบสนองได้ภายในไม่กี่นาที และ 3. เชื่อมต่อด้วยเครือข่ายไฟเบอร์ออปติก ติดตั้งแบบ GPON ประหยัดต้นทุนและเวลา ส่งข้อมูลเร็วและไกล เครือข่ายเสถียรกว่าเดิม

ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาระบบไฟฟ้าไทยให้ทันสมัย ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมพลังงานในอนาคต.


กำลังโหลดความคิดเห็น